ราชกรุ๊ป ลุยลงทุนอินโดฯ หลังปิดดีลภาษีมะกันเหลือ 19% ด้านปลัดพลังงานชี้ดีลใหม่นำเข้าLNG เพิ่ม
เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม นายนิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากกรณีที่สหรัฐอเมริกาและอินโดนีเซียบรรลุข้อตกลงเรื่องภาษี โดยจะมีการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอินโดฯในอัตรา 19% ในขณะที่อินโดฯจะไม่เก็บภาษีสินค้าส่งออกของสหรัฐฯ หรือเก็บ 0% นั้น มองว่าเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุนในอินโดนีเซีย โดยเราตั้งเป้าหมายที่คาดว่าจะเห็นแนวโน้มการเติบโตในช่วงครึ่งปีหลัง อีกทั้งมองว่าภารกิจของราชกรุ๊ปในฐานะบริษัทมหาชนได้วางแผนลงทุนในต่างประเทศอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างผลกำไรให้กับประเทศ แม้จะมีความพยายามเติบโตภายในไทยแต่ยังเสี่ยงและไม่มีโอกาสในการลงทุน
ปัจจุบันราชกรุ๊ปมีการลงทุนโรงไฟฟ้าในอินโดนีเซีย รวม 4 โครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ โรงไฟฟ้าถ่านหิน และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ 2 แห่ง กำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวม 1,009.72 เมกะวัตต์ บริษัทฯ ยังคงมีอินโดนีเซียเป็นเป้าหมายการลงทุนต่อเนื่อง เพราะมีความเชื่อมั่นในศักยภาพทางเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงการเจรจาการค้ากับสหรัฐอเมริกา โดยไทยได้ยื่นข้อเสนอฉบับปรับปรุงใหม่ต่อสหรัฐฯ ในการเพิ่มการจัดซื้อพลังงานเพิ่มเติมว่า กระทรวงพลังงานยืนยันพร้อมสนับสนุนโยบายของภาครัฐอย่างเต็มที่ในด้านพลังงาน โดยเฉพาะการบริหารจัดการการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) โดยได้วางแผนการนำเข้าทั้งในระยะสั้น (Short Term) และระยะยาว (Long Term) แต่แน่นอนว่าไทยต้องมีการนำเข้า LNG เพิ่ม มีการพิจารณาในรูปแบบ Spot และ Short-Term เป็นหลัก โดยเน้นราคาที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าภายในประเทศ
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กระทรวงพลังงานได้ดำเนินการลงนามความร่วมมือกับรัฐอลาสกา สหรัฐอเมริกา ในการพัฒนาแหล่งนำเข้า LNG ปริมาณของการนำเข้าอยู่ที่ 2-5 ล้านตันต่อปี นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการหารือเพิ่มเติมกับซัพพลายเออร์จากสหรัฐฯรายอื่น ๆ เพิ่มเติม
‘เรายืนยันว่าการนำเข้า LNG จะดำเนินการเท่าที่จำเป็น ไม่เกินความต้องการใช้งานจริง และต้องผ่านการพิจารณาราคาที่เป็นธรรม ไม่แพง’ นายประเสริฐกล่าว