หนุ่มระยอง ดื่มเบียร์แทนข้าวทุกวัน นาน 1 เดือน สุดท้ายจบชีวิตคาห้องนอน
GH News July 17, 2025 01:09 PM

เพจดัง “ท่านเปา” รายงานข่าวสุดสะเทือนใจ พบร่างไร้วิญญาณ ท่ามกลางขวดเบียร์ที่เรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ คาดดื่มแทนข้าวนาน 1 เดือน

นับเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวอุทาหรณ์สุดสลดที่ถูกแชร์ต่อในโลกโซเชียล เมื่อเพจเฟซบุ๊กชื่อดัง ท่านเปา ได้รายงานข่าวการเสียชีวิตของชายหนุ่มคนหนึ่งในพื้นที่ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ซึ่งคาดว่ามีสาเหตุมาจากการดื่มเบียร์แทนการรับประทานอาหารติดต่อกันเป็นเวลานาน

ทางเพจได้เปิดเผยเรื่องราวว่า ชายหนุ่มชาวระยองรายนี้ได้ ดื่มเบียร์แทนข้าวทุกวันอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานถึง 1 เดือนเต็ม จนกระทั่งร่างกายรับไม่ไหวและเสียชีวิตลงเพียงลำพังภายในห้องนอนของตนเอง

ภาพที่น่าสะเทือนใจยิ่งกว่า คือสภาพภายในห้องนอนของผู้เสียชีวิตที่พบ ขวดเบียร์จำนวนมาก ซึ่งคาดว่ามีจำนวนนับร้อยขวด วางเรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบ อยู่บริเวณสองฝั่งของห้อง สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมการดื่มอย่างหนักและต่อเนื่องของผู้เสียชีวิตก่อนที่จะสิ้นใจลง

ภายหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป แอดมินเพจท่านเปาก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมใต้โพสต์ว่า “ขอเป็นรายงานข่าว อ่านเมนต์อย่างเดียว กลัวคนด่าว่าใจบาป” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนของเรื่องราว และเพื่อเป็นการยืนยันว่าต้องการนำเสนอเพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนใจเท่านั้น

ดื่มเบียร์มากเกินไป เสี่ยงภาวะแทรกซ้อน

การดื่มเบียร์ประมาณวันละ 3-5 กระป๋อง (ปริมาณ 330 มล./กระป๋อง) อาจให้พลังงานรวมประมาณ 560-700 kcal ซึ่งดูเหมือนจะเพียงพอ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ร่างกายกำลังเข้าสู่ภาวะ “อดอาหารเชิงคุณภาพ” เนื่องจากได้รับพลังงานจากแอลกอฮอล์ (Ethanol) แต่กลับขาดสารอาหารที่จำเป็นอย่างสิ้นเชิง ทั้งโปรตีน, วิตามิน และแร่ธาตุ

ผลลัพธ์ที่ชัดเจนใน 4 สัปดาห์แรกคือ น้ำหนักที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่ใช่การลดไขมัน แต่เป็น การสลายของมวลกล้ามเนื้อและน้ำ เนื่องจากร่างกายไม่ได้รับโปรตีนไปซ่อมแซมและเสริมสร้าง

ร่างกายพังใน 30 วัน เกิดอะไรขึ้นกับอวัยวะสำคัญ

เอทานอลในเบียร์จะเข้าไปยับยั้งการดูดซึมวิตามิน B1 (ไทอามีน) ในลำไส้ ซึ่งเป็นวิตามินสำคัญต่อการทำงานของสมอง หากขาดไปจะเสี่ยงต่อภาวะ Wernicke-Korsakoff Syndrome ที่ทำให้สมองเสียหายถาวร นอกจากนี้ การขาดแร่ธาตุอย่างแมกนีเซียมและสังกะสี จะทำให้ กล้ามเนื้ออ่อนแรง และเกิดอาการชาตามปลายมือ-เท้า

การดื่มแอลกอฮอล์มากกว่า 30 กรัมต่อวัน ติดต่อกันเพียง 4 สัปดาห์ จะทำให้ตับเริ่มสะสมไขมัน (Alcoholic Fatty Liver) และค่าเอนไซม์ตับ (AST-ALT) สูงขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณของภาวะตับอักเสบ นอกจากนี้ แอลกอฮอล์ยังรบกวนการสร้างไกลโคเจน (พลังงานสำรอง) ทำให้เกิดภาวะ “น้ำตาลในเลือดตก” ได้หลังจากการดื่มหลายชั่วโมง

เอทานอลจะยับยั้งกระบวนการสังเคราะห์โปรตีนโดยตรง ทำให้กล้ามเนื้อลีบ, ปวดเมื่อย และร่างกายอ่อนเพลียเหนื่อยง่าย ที่อันตรายไปกว่านั้นคือ การดื่มหนักจะทำให้เม็ดเลือดขาวทำงานช้าลง ส่งผลให้ ระบบภูมิคุ้มกันตก และเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อต่างๆ โดยเฉพาะการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ

ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ผู้ที่ดื่มเบียร์แทนข้าวจะเริ่มมีอาการง่วงซึมและสมาธิสั้น เนื่องจากแอลกอฮอล์รบกวนสารสื่อประสาทเซโรโทนินและ GABA หลังจากนั้นในสัปดาห์ที่ 2-4 จะเริ่มมีอาการ อารมณ์แปรปรวนและซึมเศร้า จากการขาดวิตามินบีและการรบกวนวงจรการนอนหลับ (REM sleep) และเมื่อถึงสัปดาห์ที่ 4 สมองจะเริ่มปรับตัวและต้องการแอลกอฮอล์เพื่อกระตุ้นสารโดปามีน นำไปสู่ การพึ่งพิงแอลกอฮอล์ หรือการติดสุราในที่สุด

นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลัน เช่น ภาวะขาดน้ำ ที่ทำให้ใจสั่น ความดันแกว่ง, กรดไหลย้อน และ แผลในกระเพาะอาหาร จากการที่แอลกอฮอล์กัดเยื่อบุโดยตรง

ดังนั้น การ “ดื่มเบียร์แทนข้าว 1 เดือน” แม้จะให้พลังงาน แต่ก็พรากคุณค่าทางโภชนาการที่จำเป็นไปทั้งหมด ซึ่งจะจบลงด้วยภาวะขาดวิตามิน, กล้ามเนื้อสลาย, ตับเริ่มพัง, ภูมิคุ้มกันต่ำ, สภาพจิตใจย่ำแย่ และเปิดประตูสู่การติดแอลกอฮอล์ แม้ผลกระทบอาจฟื้นฟูได้หากหยุดเร็ว แต่ก็มีความเสี่ยงร้ายแรงถึงชีวิตหากยังทำต่อเนื่องเกิน 4-6 สัปดาห์

อ่านข่าวอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด
© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.