ทหาร ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ สกัดจับกระบะขนแรงงานเถื่อนกลางดึก จ่าย 50,000 ผ่านไทยไปทำงานมาเลเซีย

(17 ก.ค.68) พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผู้บัญชาการกองพลหารราบที่ 9 ในฐานะ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรสีห์ ร่วมบูรณาการกับ นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวในพื้นที่ ว่าจะมีการลักลอบขนแรงงานงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามายังพื้นที่ตอนใน จึงได้สั่งการให้ พ.อ.พรรณศักย์ เพรียวพานิช ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 29 ในฐานะ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ พร้อมด้วย พันเอก ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ นำกำลังพลร่วมกับ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 134, สภ.สังขละบุรี และ ฝ่ายปกครอง อ.สังขละบุรี ทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัด บริเวณ จุดตรวจร่วมน้ำเกริ๊ก ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

กระทั่งเวลา 21.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงร่วมกันปฏิบัติงาน บริเวณ จุดตรวจร่วมน้ำเกริ๊ก สังเกตพบรถยนต์กระบะต้องสงสัยตามที่ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าว ขับมาจาก อ.สังขละบุรี มุ่งหน้า อ.ทองผาภูมิ จึงได้ให้สัญญาณหยุดรถเพื่อทำการตรวจสอบ พบ นาย จอ นาย อู (ไม่มีชื่อสกุล) อายุ 40 ปี เป็นผู้ขับขี่รถยนต์กระบะสีเทา หมายเลขทะเบียน บน xxxx พัทลุง จึงได้ทำการตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าว สังเกตพบบุคคลคล้ายต่างด้าวผิดกฎหมายจำนวนมากนั่งโดยสารมาภายในรถ จำนวน 11 คน (ชาย 6 คน และหญิง 5 คน) หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบเอกสารประจำตัวที่ทางราชการออกให้ แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวไม่สามารถสื่อสารภาษาไทยได้ และไม่สามารถแสดงเอกสารที่ทางราชการออกให้ได้ จึงควบคุมตัวกลุ่มบุคคลต่างด้าวไว้ทั้งหมด 

จากการสอบถาม นาย จอ นาย อูฯ ทราบว่า กลุ่มบุคคลต่างด้าวผิดกฎหมายเดินทางมาจาก ประเทศเมียนมา เดินเท้าเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ บ้านบ่อญี่ปุ่น มายังจุดนัดพบ ซึ่งตนได้รับการว่าจ้างเป็นเงิน จำนวน 5,000 บาท จากชายไม่ทราบชื่อให้ไปรับกลุ่มบุคคลต่างด้าวดังกล่าวนำไปส่งที่ ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี หลังจากนั้นจะมีกลุ่มขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายมารับ เพื่อลักลอบเดินทางข้ามไปทำงานที่ประเทศมาเลเซียต่อไป โดยกลุ่มต่างด้าวผิดกฎหมายเสียค่าจ้างให้กับนายหน้าคนละ จำนวน 50,000 บาท (จ่ายเมื่อถึงปลายทาง) แต่ถูกจับกุมได้เสียก่อน เจ้าหน้าที่จึงได้จัดทำประวัติ และนำตัวผู้กระทำความผิดทั้งหมดส่ง สภ.สังขละบุรี เพื่อทำการสอบสวนและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป