แม้ชื่อของ “กัมพูชา” จะไม่ปรากฏในลิสต์ Top 10 ประเทศที่มีการโกงมากที่สุดในโลก ตามรายงานยอดนิยมที่จัดอันดับจากปริมาณการรายงานการฉ้อโกงของผู้บริโภค แต่ในทางกลับกัน ประเทศเล็กๆ แห่งนี้กลับถูกระบุจากองค์กรระดับนานาชาติว่าเป็น “ศูนย์กลางของอุตสาหกรรมสแกมโลก” โดยเฉพาะอาชญากรรมไซเบอร์ที่เกี่ยวพันกับการค้ามนุษย์และเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ
อันดับ | ประเทศ | ลักษณะการโกงที่พบบ่อย |
---|---|---|
1 | อินเดีย (India) | เกิดอาชญากรรมไซเบอร์จำนวนมาก เช่น หลอกลงทุนออนไลน์ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ |
2 | บราซิล (Brazil) | ใช้เทคโนโลยีทางการเงินสูง แต่ถูกแฝงด้วยมัลแวร์และโทรจันที่โจมตีบัญชีธนาคาร |
3 | ปากีสถาน (Pakistan) | พบธุรกรรมต้องสงสัยจำนวนมากจากการฟอกเงินและการจัดหาเงินให้กลุ่มผิดกฎหมาย |
4 | แอฟริกาใต้ (South Africa) | ประสบปัญหาการขโมยข้อมูลส่วนตัวและอาชญากรรมทางการเงินที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง |
5 | โมร็อกโก (Morocco) | แพร่หลายด้วยฟิชชิง ขโมยบัตรเครดิต และธุรกรรมต้องสงสัยที่เชื่อมโยงกับการฟอกเงิน |
6 | โรมาเนีย (Romania) | เป็นศูนย์กลางของการฉ้อโกงผ่านอินเทอร์เน็ต รวมถึงฟอกเงินและคดีคอร์รัปชันภาครัฐ |
7 | ไนจีเรีย (Nigeria) | มีชื่อเสียงจาก “419 scams” หรือหลอกโอนเงินล่วงหน้า และคอร์รัปชันในภาครัฐ |
8 | เวเนซุเอลา (Venezuela) | ปัญหาเศรษฐกิจทำให้เกิดการฉ้อโกงทางการเงิน ทั้งฟอกเงินและคอร์รัปชันระดับรัฐ |
9 | จีน (China) | มีการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการเจาะระบบสากลและปฏิบัติการแฮ็กที่มีเป้าหมายทางเศรษฐกิจ |
10 | ฟิลิปปินส์ (The Philippines) | เผชิญปัญหาไซเบอร์ฟิชชิง การหลอกลวงผ่าน SMS และการแฮ็กบัญชีผู้ใช้งานอย่างแพร่หลาย |
*ข้อมูลอ้างอิงจากรายงานปี 2025 เกี่ยวกับอัตราการฉ้อโกงของแต่ละประเทศ โดยเน้นจากจำนวนรายงานผู้เสียหายและแนวโน้มอาชญากรรมทางการเงินทั่วโลก
หลายคนอาจสงสัยว่า หาก “กัมพูชา” เป็นฐานปฏิบัติการของกลุ่มฉ้อโกงระดับโลกจริง ทำไมจึงไม่ติดอันดับ “ประเทศโกงมากที่สุด” ร่วมกับชาติอย่างอินเดีย บราซิล ปากีสถาน หรือจีน คำตอบก็คือ ลิสต์อันดับประเทศโกงส่วนใหญ่พิจารณาจาก “อัตราการถูกโกง” ของผู้บริโภคภายในประเทศ หรือจำนวนคดีฉ้อโกงที่ถูกรายงานอย่างเป็นทางการ
ในขณะที่กัมพูชามีโครงสร้างกฎหมายที่อ่อนแอ ระบบการรายงานคดีที่ไม่ครอบคลุม และมักไม่มีการบันทึกข้อมูลอาชญากรรมที่เกิดขึ้นจริงโดยเฉพาะในระดับนานาชาติ ทำให้ตัวเลขที่ใช้ในการจัดอันดับเหล่านี้อาจไม่สะท้อนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง
ตรงกันข้ามกับการไม่ติดอันดับลิสต์ยอดนิยม กัมพูชากลับถูกระบุโดยองค์กรนานาชาติหลายแห่งว่าเป็น “ต้นทางของอาชญากรรมไซเบอร์ขนาดใหญ่” ซึ่งมีลักษณะเฉพาะคือ:
ในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน 2025 องค์การสหประชาชาติ (UN) และองค์การตำรวจสากล (INTERPOL) ยังได้ออกคำเตือนล่าสุดว่า สถานการณ์ในกัมพูชายังถือเป็น “วิกฤตมนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชน” จากการค้ามนุษย์เพื่อการหลอกลวงออนไลน์
หนึ่งในรูปแบบสแกมที่เชื่อมโยงกับกัมพูชาและเป็นที่รู้จักในระดับโลกคือ “Pig Butchering Scam” หรือการหลอกเหยื่อให้ลงทุน ก่อนเชือดทิ้งในท้ายที่สุด โดยบางเครือข่ายมีรายได้รวมกว่า 19,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 60% ของ GDP กัมพูชา ตามรายงานจาก Digital Defynd
นี่คือข้อพิสูจน์ว่า กัมพูชาแม้ไม่ติด “อันดับประเทศโกง” ในความหมายทั่วไป แต่กลับเป็น กลไกหลัก ในอุตสาหกรรมฉ้อโกงระดับโลกที่กำลังเติบโตอย่างน่ากังวล
กัมพูชาไม่ติดอันดับประเทศโกงมากที่สุด เพราะเกณฑ์วัดมาจากสถิติผู้บริโภคในประเทศ แต่ในเชิงโครงสร้างอาชญากรรมระดับโลก ประเทศนี้กลับถูกจับตาอย่างใกล้ชิดในฐานะแหล่งกำเนิดของอาชญากรรมฉ้อโกงไซเบอร์ที่ซับซ้อนและโยงใยกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนระดับร้ายแรง
นั่นทำให้ชื่อของกัมพูชาอาจ “เงียบ” ในตารางอันดับยอดนิยม แต่ “ดัง” และ “ชัดเจน” ในสายตาขององค์กรระดับโลก