หุ้นทั่วโลกคึกคักรับข่าวเจรจาการค้า หุ้นไทยขึ้นแรงแต่ไร้ปัจจัยหนุนพื้นฐาน จับตาดีลไทย-สหรัฐยื่นข้อเสนอไปแล้ว
GH News July 24, 2025 11:08 AM

Pi Daily ตลาดหุ้นโลกยังสดใสคาดหวังเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับนานาประเทศ ตลาดหุ้นไทยแรงขับเคลื่อนมาจาก Fund Flow แต่ Fundamental ยังไม่ขยับตาม การปรับขึ้นจึงควรระมัดระวัง วานนี้ไทยได้ยื่นข้อเสนอล่าสุดไปให้กับสหรัฐฯ

วันที่ 24 ก.ค.68 บล.พายเผยว่า ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 507 จุด (+1.1%) ขณะที่ S&P500 , Nasdaq ปิดทำ New High นักลงทุนคาดหวังการเจรจาระหว่างสหรัฐฯกับ EU รวมถึงทรัมป์ได้ประกาศจบการเจรจาการค้ากับญี่ปุ่น ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 0.12% ตลาดยังคงรอดูผลเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับ EU 

เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯประกาศยอดขายบ้านมือสองที่ระดับ 3.93 ล้านหลังคาเรือน ต่ำกว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 4 ล้านหลังคาเรือน แต่อย่างไรก็ตามนักลงทุนกำลังให้น้ำหนักกับการเจรจาการค้ามากกว่า ในช่วงที่ผ่านมา Trump ประกาศบรรลุข้อตกลงการค้ากับหลายประเทศ อาทิ ฟิลิปปินส์ อินโดนิเซีย ญี่ปุ่น เวียดนาม อังกฤษ และล่าสุดนักลงทุนกำลังรอติดตามการเจรจากับ EU หลายๆสื่อลงความเห็นคล้ายกันว่าสหรัฐฯกับ EU ใกล้จะบรรลุข้อตกลงการค้ากัน โดยที่คาดว่าสหรัฐฯจะลดระดับภาษีนำเข้าจาก EU เป็น 15% จากเดิมที่ 30% นอกจากการค้าแล้วนักลงทุนกำลังรอติดตามผลประกอบการ ซึ่งเช้านี้ตามเวลาประเทศไทย Alphabet พึ่งรายงานผลประกอบการ 2Q25 พบว่าดีกว่า Bloomberg Consensus คาดไว้ ทางผู้บริหารระบุว่าความต้องการ AI และ Cloud ยังแข็งแกร่งและบริษัทจะเดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง

สำหรับปัจจัยในประเทศยังไร้ปัจจัยใหม่นักลงทุนรอติดตามผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนรวมไปถึงความคืบหน้าเจรจาการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ข้อมูลล่าสุดจากกรุงเทพธุรกิจระบุว่าทีม Thailand ได้ยื่นข้อเสนอสุดท้ายให้กับสหรัฐฯในช่วงเมื่อวานที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านั้นทางสหรัฐฯก็ได้ทำคำอธิบายหรือข้อเสนอตอบกลับมาบ้างเกี่ยวกับสิ่งที่ทางสหรัฐฯต้องการ ทางรัฐมนตรีคลังหวังว่าสหรัฐฯจะลดอัตราภาษีนำเข้าของไทยมาใกล้เคียงกับภูมิภาค

ปัจจัยติดตามวันนี้ได้แก่ดัชนี PMI ภาคบริการและภาคผลิตเบื้องต้น (Flash PMI) จากยุโรปและสหรัฐฯสำหรับสหรัฐฯประกาศคืนนี้ Bloomberg Consensus คาดหมายไว้ที่ 53 , 52.7  วันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1210 – 1230 บรรยากาศการลงทุนยังเป็นบวก (เช้านี้หุ้นญี่ปุ่น +1.2% เกาหลี +1.7%) นักลงทุนให้น้ำหนักเชิงบวกกับการทยอยประกาศ Deal การค้าระหว่างสหรัฐฯกับนานาประเทศ แต่อย่างไรก็ตามกับ SET การปรับขึ้นยังคงเฝ้าระวังเพราะในช่วงที่ปรับขึ้นมาเป็นผลจากกระแสเงินทุนทั้งจากสถาบันและต่างชาติ นักลงทุนต่างชาติซื้อสะสมสุทธิในช่วง 6 วันทำการที่ผ่านมาราว 1.12 หมื่นล้านบาท แต่ในเชิงปัจจัยพื้นฐานยังถือว่าไม่โดดเด่นเพราะยังไม่เห็นการปรับประมาณการขึ้นของเศรษฐกิจ และจำนวนนักท่องเที่ยวล่าสุดในช่วง1 ม.ค. – 20 ก.ค. สะสมที่ 18.3 ล้านราย (-5.9%YoY) ในขณะเดียวกันพบว่า Bloomberg Consensus ปรับลด SET EPS ปี 25 ลงมาที่ 89.8 บาท / หุ้น นับเป็นระดับที่ต่ำสุดของปี 25 ดังนั้นในเชิงกลยุทธ์การลงทุนการปรับขึ้นของตลาดอาจมองเป็นจุดที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังและตลาดพร้อมปรับฐานแรง หากเกิดปัจจัยลบรุนแรง แต่อย่างไรก็ตามระยะสั้นนักลงทุนรับความเสี่ยงได้สูงอาจ Trading ได้ แต่ก็เน้นที่หุ้นมีปัจจัยหนุนเฉพาะ แนะนำกลุ่มค้าปลีก (BJC CPALL CRC HMPRO) การเงิน (KTC SAWAD) ศูนย์การค้า (CPN) ปัจจัยหนุนราคาหุ้นยังไม่ค่อยแพง นิคมอุตสาหกรรม (AMATA WHA) คาดหวังเจรจาการค้าสหรัฐฯ - ไทย 

AMATA (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 33.50 บาท)
คาดหวังเจรจาการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯจะเป็นปัจจัยหนุนต่อบริษัท ส่วนระยะสั้น AMATA จะได้รับผลกระทบไม่มากนักจากการปรับภาษีของสหรัฐฯ เนื่องจากมี Backlog ที่รอรับรู้ รายได้อีกกว่า 21,000 ล้านบาท ขณะที่การขายที่ดิน ตั้งแต่ต้นปียังมี เข้ามาอย่างต่อเนื่อง นับถึงปัจจุบันมีแล้วกว่า 750 ไร่ และยังมีลูกค้าในกลุ่ม Data Center ที่อยู่ระหว่างเจรจาอีกมากกว่า 3 ราย

CPN (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 80.00 บาท)
ราคาหุ้นยังไม่แพงซื้อขายเพียง 13.6x PE โดยแนวโน้มช่วงที่เหลือของปีคาดรายได้ยังเติบโตได้จากการเปิดศูนย์ใหม่ในช่วง 2H25 และมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จากภาครัฐที่จะเริ่มในช่วง 2Q25 นี้ โดยรวมเรายังมองว่าธุรกิจของ CPN ยังคงเห็นการเติบโตได้ต่อเนื่องจากการเปิดศูนย์ใหม่ที่มีความชัดเจนจนถึงปี 27

#หุ้นวันนี้ #ตลาดหุ้น #เจรจาการค้า #ข่าวเศรษฐกิจ #SETIndex #หุ้นไทย #FundFlow #ดัชนีหุ้น #AMATA #CPN #ข่าวการเงิน #ข่าวลงทุน #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์ #ข่าววันนี้ 

 

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.