วันที่ 27 ก.ค.2568 นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงสถานการณ์ไทย-กัมพูชาว่า พรรคเพื่อไทยขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียชีวิต ทรัพย์สิน หรือผลกระทบในวิถีชีวิตของพี่น้องประชาชน ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ไม่มีใครต้องการให้เกิดขึ้น พรรคเพื่อไทยขอส่งกำลังใจไปยังญาติพี่น้องผู้สูญเสียและผู้ได้รับผลกระทบทุกคน รวมถึงเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ แพทย์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อาสาสมัคร และผู้ปฏิบัติงานด่านหน้าทุกคน ซึ่งขณะนี้ สส.พรรคเพื่อไทยในพื้นที่ต่างๆ ได้ระดมความช่วยเหลือไปยังผู้ได้รับผลกระทบทุกภาคส่วน โดยเฉพาะ สส.ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบได้ลงไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในจุดต่างๆ อย่างเต็มกำลังความสามารถ พร้อมนำสิ่งของจำเป็นเฉพาะหน้า อาทิ ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม และเวชภัณฑ์ไปมอบให้พี่น้องประชาชน รวมถึงให้กำลังใจแก่พี่น้องประชาชนในศูนย์อพยพ และจุดพักพิงต่าง ๆ พร้อมรับฟังปัญหาและประสานการช่วยเหลือในทุกช่องทาง
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ที่ยังคงตึงเครียด ขณะนี้ได้รับการยืนยันว่าหน่วยงานความมั่นคงได้ควบคุมสถานการณ์ได้รัดกุมและทันต่อสถานการณ์ พร้อมทั้งดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์อย่างรอบด้าน โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่เป็นสำคัญ และเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า สถานการณ์การปะทะที่เกิดขึ้นนี้เกิดจากความไม่พอใจของผู้นำกัมพูชา เกี่ยวกับการดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมข้ามขาติ และแก๊งคอลเซนเตอร์ของรัฐบาลไทย ข้อสังเกตที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ เมื่อไทยเตรียมจัดตั้งกลไกไตรภาคีร่วมกับเมียนมาและลาว เพื่อจัดการกับปัญหาดังกล่าว เมื่อจะเชิญกัมพูชาเข้าร่วมด้วยแต่กลับได้รับการ ‘ปฏิเสธ‘ โดยอ้างว่าจะดำเนินการด้วยตนเอง ซึ่งเชื่อมั่นว่าขณะนี้หน่วยงานต่างๆ กำลังเร่งประสานงานไปยังองค์กรต่างๆ ในระดับสากลเพื่อดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์และอาชญากรรมข้ามชาติเหล่านี้ให้เด็ดขาดแบบถอนรากถอนโคน
“เรื่องนี้ไม่ใช่ความขัดแย้งระหว่างใครกับใคร และไม่ใช่ความขัดแย้งของสองตระกูล ตามที่มีความพยายามที่จะสร้าง Fake News เพื่อผลทางการเมือง ในขณะที่ข้อเท็จจริงเริ้่มปรากฎชัดเจน ผ่านการวิเคราะห์ของนักวิชาการชาวต่างชาติรวมไปถึงสื่อต่างประเทศหลายสำนัก ได้ออกมาให้ข้อมูลในทิศทางเดียวกันว่าเป็นเพราะกัมพูชาไม่พอใจเนื่องจากบุคคลระดับนำในประเทศได้รับผลกระทบจากการปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์และอาชญากรรมข้ามชาติ อีกทั้งข้อมูลเชิงประจักษ์ที่ปรากฎคือ ขณะนี้ทางการไทยได้ออกหมายจับนายก๊ก อาน วุฒิสภากัมพูชา ซึ่งเป็นคนสนิทของผู้นำกัมพูชา รวมไปถึงเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ พร้อมกับการยึดอายัดทรัพย์สินจำนวนมหาศาลและประสานไปยังตำรวจสากล (อินเตอร์โพล) เรื่องการดำเนินการติดตามจับกุมตัวแล้ว”โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าว
นายดนุพร กล่าวว่า ส่วนการแก้ไขสถานการณ์พิพาทระหว่างไทย-กัมพูชา รัฐบาลไทยยืนยันโดยตลอดว่าเราต้องการแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี โดยเจรจาด้วยกลไกทวิภาคีที่มีอยู่แล้วและทั้งสองประเทศให้การยอมรับ เหตุที่เกิดขึ้นเป็นการปกป้องอธิปไตยของไทยเมื่อถูกรุกรานเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการประสานงานในระดับทวิภาคี และยังได้จัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ เพื่อประเมินผลกระทบระหว่างประเทศ ติดตามข้อมูลจากสถานเอกอัครราชทูต และเตรียมการในด้านมนุษยธรรมระหว่างรัฐ เพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจยืดเยื้อ พร้อมให้ข้อมูลกับประชาคมระหว่างประเทศอย่างถูกต้องและโปร่งใส
“รัฐบาลให้ความสำคัญกับบทบาทของการทูตในการคลี่คลายความตึงเครียด และขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่า รัฐบาลดำเนินการทุกมิติทั้งความมั่นคง การทหาร การทูต และการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนล้วนแต่เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญ” โฆษกพรรคเพื่อไืทยกล่าว
นายดนุพร กล่าวว่า ในส่วนของการดูแลพี่น้องประชาชนที่ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนนั้น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งชัดเจนให้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องร่วมกันบูรณาการแผนดูแลช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน ครอบคลุมทั้งในด้านการอพยพ , การจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว, การดูแลด้านสุขภาพ, และการฟื้นฟูจิตใจ โดยประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานท้องถิ่น และองค์กรภาคประชาชนอย่างใกล้ชิด
"กระทรวงมหาดไทยยังได้ดำเนินการขออนุมัติขยายวงเงินทดรองราชการในอำนาจวงของผู้ว่าราชการจังหวัด สุรินทร์ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี เพิ่มเติมจังหวัดละ 100 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่ได้ประกาศเขตให้ความช่วยเหลือ สถานการณ์ในขณะนี้ค่อนข้างอ่อนไหว พรรคเพื่อไทยขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชนติดตามข่าวสารอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานของรัฐ และระมัดระวังไม่ตกเป็นเหยื่อของ Fake News ซึ่งสุ่มเสี่ยงที่จะบิดเบือนข้อเท็จจริงและข่าวสาร เพื่อปลุกปั่นสร้างความเกลียดชังของผู้ไม่หวังดีในสถานการณ์ที่ประเทศกำลังเผชิญกับภัยคุกคาม"นายดนุพร กล่าว