เสนาฯ หวัง ผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ ใช้นโยบายการเงินแก้ปัญหาภาคเศรษฐกิจจริง
ข่าวสด July 31, 2025 07:20 PM

เสนาฯ คาดหวังผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ ใช้นโยบายการเงินแก้ปัญหาภาคเศรษฐกิจจริง เดินหน้าลดดอกเบี้ย เพิ่มความสามารถผู้กู้ซื้อบ้านครึ่งปีหลัง

นางเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยในปัจจุบันยอดการเปิดตัวโครงการใหม่ตั้งแต่ต้นปีมีเพียงประมาณ 10,000 กว่ายูนิต ซึ่งถือว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับช่วงปกติที่เคยมีมากกว่า 100,000 หน่วย การลดลงของการเปิดโครงการใหม่นี้เป็นผลมาจากความระมัดระวังและขาดความเชื่อมั่นของทั้งฝั่งผู้ประกอบการ และฝั่งของผู้บริโภค

โดยได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย ทั้งทางตรงคือ เศรษฐกิจชะลอตัว และธนาคารเข้มงวดในการให้สินเชื่อ เนื่องจากดอกเบี้ยยังทรงตัวสูง ทำให้ผู้บริโภคมีความสามารถในการกู้ลดลง ประกอบความไม่มั่นใจต่อภาวะเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า ผู้บริโภคจึงไม่กล้าก่อหนี้ระยะยาว อีกทั้งปัญหาหนี้ของผู้บริโภคเองด้วย ขณะที่ปัญหาสงครามการค้าและความแย้งภูมิรัฐศาสตร์ ถือเป็นปัจจัยที่กระทบทางอ้อม ซึ่งทั้งหมดจึงส่งผลให้ภาพรวมตลาดอยู่อาศัยอยู่ในภาวะชะลอตัว

แต่อย่างไรก็ดีคาดหวังว่าการได้ นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ ที่มาจากภาคเศรษฐกิจจริง ( Real Sector) อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น โดยอาจเข้ามาช่วยในแง่การใช้นโยบายการเงินมาแก้ปัญหา ภาคเศรษฐกิจจริง โดยเฉพาะพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะเป็นผลบวกต่อภาคอสังหาริมทรัพย์

จากความกังวลต่างๆ ของผู้บริโภคในตลาดอสังหาริมทรัพย์ มีผลอย่างมากต่อกลยุทธ์ของบริษัท ทำให้บริษัทปรับกลยุทธ์ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นจากเดิมพัฒนาคอนโดมิเนียมเพื่อขาย มาเป็นไม่ได้ขายอย่างเดียว 100% แต่แบ่งบางส่วนมาปล่อยเช่า หรือ rentNex โดยผู้เช่ามีโอกาสเปลี่ยนค่าเช่าเป็นส่วนลดในการซื้อได้ในอนาคต หากทำตามเงื่อนไข และ LivNex เช่าออมบ้าน ซึ่งถือเป็นการบริหารจัดการสต็อกโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ที่แตกต่างจากการทำโปรโมชั่นของคู่แข่งในตลาดด้วยกัน ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีสินค้าที่อยู่ใน rentNex และ LivNex รวมแล้วประมาณ 1,000 ยูนิต

ขณะเดียวกันในปลายไตรมาส 3 นี้ บริษัทเตรียมนำในส่วนของ rentNex ประมาณ 400 ยูนิต มาขายเป็นแพคเกจลงทุน หรือขายพร้อมผู้เช่า ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาอัตราผลตอบจากการลงทุนที่เหมาะสมและสามารถจูงใจกลุ่มที่ต้องการลงทุน

อย่างไรก็ดีปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จรอขายคิดเป็นมูลค่ารวม 7,000 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียม 4,000-5,000 ล้านบาท และที่เหลือเป็นบ้านแนวราบ 2,000-3,000 ล้านบาท ขณะที่มียอดขายรอรับรู้รายได้ประมาณ 6,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ในปีถัดไป

ขณะที่แผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เตรียมเปิด 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 6,700 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ COZY (โคซี่) จำนวน 3 โครงการ เป็นกลุ่มสินค้าระดับราคา 1-1.5 ล้านบาท ซึ่งเจาะกลุ่มเรียลดีมานด์ โดยทั้งหมดจะอยู่ทำเลในเมือง คือ รามอินทรา – คู้บอน,ศรีนครินทร์ ,ลาดพร้าวและ จอมทอง และอีก 1 โครงการแนวราบ ภายใต้ เสนา พาร์ค แกรนด์ รามอินทรา ระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป

นางเกษรา ยังยอมรับด้วยว่าภาพรวมของรายได้ของบริษัทในปี 2568 น่าจะไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทวางไว้ในช่วงต้นปีที่ระดับ 10,000 ล้านบาท แต่ขณะเดียวกันยังรักษาความสามารถในการทำกำไรได้ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

พร้อมกันนี้บริษัทเตรียมชำระคือหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในเร็วๆ นี้ และในเวลาเดียวกันก็เตรียมจำหน่ายหุ้นกู้ชุดใหม่จำนวน 1,500 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนต่อไปด้วย
///////

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.