"รองนายกฯ ประเสริฐ"ลงพื้นที่สุโขทัย   กำชับกรมชลประทานเดินหน้ารับมือฝนปลายฤดูในลุ่มน้ำยม–น่าน
GH News August 01, 2025 01:15 AM

"รองนายกฯ ประเสริฐ"ลงพื้นที่สุโขทัย   กำชับกรมชลประทานเดินหน้ารับมือฝนปลายฤดูในลุ่มน้ำยม–น่าน  ด้าน สชป.3 เร่งประสานทุกฝ่าย เสริมแนวป้องกัน–เร่งระบายน้ำ ลดผลกระทบพื้นที่ท้ายน้ำ

เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) พร้อมด้วย ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสุโขทัย เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำยม–น่าน ซึ่งยังคงมีแนวโน้มจะได้รับอิทธิพลจากฝนตกหนักต่อเนื่องในช่วงปลายฤดูฝน


ช่วงเช้า มีการประชุมร่วมกับผู้แทนจาก 11 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุโขทัย ตำบลบ้านกล้วย อำเภอเมืองสุโขทัย พร้อมเชื่อมโยงผ่านระบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อหารือแนวทางการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ ทั้งในด้านการระบายน้ำ การเตรียมพื้นที่รับน้ำ และการป้องกันพื้นที่เสี่ยงจากอุทกภัยในระยะต่อไป
ภายหลังการประชุม รองนายกรัฐมนตรีและคณะได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์น้ำ ณ ประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ และ ประตูระบายน้ำคลองหกบาท อำเภอสวรรคโลก ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการควบคุมการระบายน้ำจากแม่น้ำยมสู่แม่น้ำน่าน
ในโอกาสนี้ นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ได้ร่วมลงพื้นที่ติดตามการทำงานของระบบชลประทาน พร้อมให้ข้อมูลภาคสนามเกี่ยวกับสภาพพื้นที่และแนวทางของจังหวัดในการรองรับฝนระลอกใหม่


พร้อมกันนี้ นายสมจิตฐิพงศ์ อำนาจศาล ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 3, นายทวีวัฒน์ สืบสุขมั่นสกุล ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 4, นายโชค พรินทรากูล ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 4 พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรมชลประทาน และเจ้าหน้าที่ชลประทานในพื้นที่ ร่วมรายงานสถานการณ์น้ำ แผนระบายน้ำ การผันน้ำระหว่างลุ่มน้ำ รวมถึงการติดตั้งเครื่องสูบน้ำในพื้นที่จุดเสี่ยงน้ำล้นตลิ่งอย่างใกล้ชิด

รองนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำว่า ลุ่มน้ำยมและลุ่มน้ำน่านยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงปลายฤดูฝนที่อาจมีฝนตกเกินค่าเฉลี่ย และได้รับผลกระทบจากพายุหรือร่องมรสุมที่เคลื่อนผ่านภาคเหนือตอนบน ดังนั้น กรมชลประทานจึงต้องเร่งเดินหน้ามาตรการบริหารจัดการน้ำอย่างเข้มข้น ครอบคลุมทั้งด้านการระบาย การเก็บกัก การผันน้ำ และการแจ้งเตือนภัยให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลได้ทันสถานการณ์

รองนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กรมชลประทานเร่งดำเนินการตามมาตรการ ดังนี้  บูรณาการการระบายน้ำจาก เขื่อนสิริกิติ์ และ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ผ่านศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุดต่อพื้นที่ท้ายน้ำเร่ง ผันน้ำจากแม่น้ำยมสู่แม่น้ำน่าน เพื่อช่วยระบายมวลน้ำช่วงวิกฤตเสริม คันป้องกันน้ำชั่วคราว และติดตั้งเครื่องสูบน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำที่มีความเปราะบางเตรียมพื้นที่หน่วงน้ำในโครงการ บางระกำโมเดล ซึ่งสามารถรองรับน้ำได้ถึง 400 ล้าน ลบ.ม. หลังฤดูเก็บเกี่ยวกลางเดือนสิงหาคมหากจำเป็นต้องเพิ่มเครื่องสูบน้ำ ให้ ประสานกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และกรมทรัพยากรน้ำวางแผนจัดตั้ง ศูนย์พักพิงชั่วคราว ที่มีความพร้อมทั้งด้านสาธารณูปโภค อาหาร และหน่วยแพทย์ ในกรณีต้องอพยพประชาชน

สถานการณ์น้ำล่าสุด – ยังสามารถรองรับฝนได้   ข้อมูลจากสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 สะท้อนว่าลุ่มน้ำยม มีแหล่งน้ำ 3,859 แห่ง ความจุรวม 533 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีน้ำอยู่ 317 ล้าน ลบ.ม. หรือ 60%   ลุ่มน้ำน่าน มีแหล่งน้ำ 4,337 แห่ง ความจุรวม 10,809 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีน้ำอยู่ 7,814 ล้าน ลบ.ม. หรือ 72%
ระดับน้ำในหลายจุดของแม่น้ำยมเริ่มลดลง แต่พื้นที่บางแห่ง เช่น จังหวัดสุโขทัย ยังคงมีจุดที่ระดับน้ำสูง ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่เศรษฐกิจและเขตเสี่ยงซ้ำซาก ซึ่ง สำนักงานชลประทานที่ 3 ได้ดำเนินการ เปิดบานประตูระบายน้ำทุกจุดเต็มศักยภาพ พร้อมติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง
สำนักงานชลประทานที่ 3 ยังคงเฝ้าระวัง ติดตาม และปรับแผนบริหารจัดการน้ำร่วมกับทุกจังหวัดในพื้นที่ลุ่มน้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมสนับสนุนทั้งด้านเครื่องจักร เครื่องสูบน้ำ บุคลากร และข้อมูลสถานการณ์ เพื่อให้สามารถรับมือกับฝนปลายฤดู และลดผลกระทบต่อประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด.

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.