'พิชัย' ปลื้มถกภาษีสหรัฐฉลุยเคาะเรต 19% หนุนไทยแข่งขันได้ เตรียมมาตรการอุ้มเอกชน-เกษตร
GH News August 01, 2025 10:14 AM

‘พิชัย’ ปลื้มถกภาษีสหรัฐฯ ฉลุย เคาะ Tariff Rarte ที่ 19% ฟุ้งสะท้อนมิตรภาพและความเป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้น ช่วยไทยแข่งขันได้ในเวทีโลก และสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน แจงเตรียมมาตรการรองรับผลกระทบอุ้มผู้ประกอบการ-เกษตรกร ทั้งงบประมาณ Soft Loan เงินอุดหนุน และมาตรการภาษี พร้อมเดินหน้ายกเครื่องระเบียบหนุนค้าขายคล่อง

1 ส.ค. 2568 – นายพิชัย ชุณหวิชร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ก ‘พิชัย ชุณหวชิร – Pichai Chunhavajira’ เกี่ยบกับความคืนหน้าในการเจรจาภาษีนำเข้ากับสหรัฐฯ ว่า การประกาศ Tariff rate ที่ 19% สะท้อนถึงมิตรภาพและความเป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้นระหว่างไทย–สหรัฐฯ ช่วยให้ไทยยังคงแข่งขันได้ในเวทีโลก สร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน และเปิดประตูสู่การขยายตัวทางเศรษฐกิจ รายได้ และโอกาสใหม่ ๆ ให้กับประเทศไทย

ทั้งนี้ การทำงานยังไม่สิ้นสุด รัฐบาลตระหนักถึงผลกระทบต่อผู้ประกอบการและพี่น้องเกษตรกร จึงได้จัดเตรียมมาตรการรองรับอย่างรอบด้าน ทั้งงบประมาณ Soft Loan เงินอุดหนุน มาตรการภาษี และการปฏิรูปกฎระเบียบที่จำเป็น เพื่อยกระดับให้ไทยสามารถปรับตัวและก้าวสู่โลกเศรษฐกิจในอนาคตได้อย่างมั่นใจ

สำหรับผลการเจรจาครั้งนี้เป็นสัญญาณให้ประเทศไทยต้องเร่งปรับตัว เดินหน้าสร้างเศรษฐกิจที่มั่นคง แข็งแกร่ง และพร้อมรับมือกับความท้าทายของโลกในอนาคต

“ขอบคุณทีมไทยแลนด์สำหรับความทุ่มเทและความพยายามอย่างเต็มที่ในสถานการณ์ที่ยากจะควบคุม แต่เรายังมีภารกิจอีกมากที่ต้องสู้ต่อไป เพื่อประเทศไทยของพวกเราทุกคน” นายพิชัย ระบุ

ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ก ‘จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์’ เกี่ยวกับความคืบหน้าในการเจรจาภาษีนำเข้ากับสหรัฐฯ โดยระบุว่า ผมมีข่าวดีมาแจ้งครับ #ทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ที่ 19% ซึ่งถือเป็นระดับที่ “แข่งขันได้” เทียบเท่ากับประเทศหลักๆ ในอาเซียน เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์

ความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการเจรจาอย่างแข็งขันของ #ทีมไทยแลนด์ ที่นำโดยท่านพิชัย ชุณหวิชร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กระทรวงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และความร่วมมือจากภาคเอกชน ที่ได้เจรจาอย่างมีชั้นเชิงเพื่อผลักดันผลประโยชน์ของไทยในเวทีการค้าระดับโลก โดยเสนอแผนการที่สมดุลทั้งด้านการเปิดตลาด การลงทุน และการรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจของชาติ

สำหรับผลลัพธ์ที่ได้ไม่ใช่แค่ตัวเลขอัตราภาษีที่ต่ำลงจากเดิม 36% แต่ผมเชื่อว่ามันคือประตูสู่โอกาสใหม่ ๆ สำหรับผู้ประกอบการไทย ให้ส่งออกได้คล่องขึ้น สินค้าไทยแข่งขันได้ดีขึ้น และต่างชาติสนใจลงทุนมากขึ้น เพราะเชื่อมั่นในเสถียรภาพและทิศทางเศรษฐกิจของไทย พร้อมสร้างโอกาสให้กับไทยบนเวทีโลกอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ ก้าวต่อไปของรัฐบาลคือการเดินหน้ามาตรการที่เตรียมไว้ให้กับภาคเอกชนและภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบจากกติกาการค้าครั้งใหม่นี้ ไม่ว่าจะเป็นการจัดหา soft loan การส่งเสริมด้านการลงทุน การ upskill และ reskill ลดต้นทุนการผลิตให้ผู้ประกอบการไทยสามารถแข่งขันได้ รวมทั้งเสริมสร้างขีดความสามารถของ SMEs อีกทั้งจะมีการพิจารณามาตรการเยียวยาเป็นรายภาคส่วน ต่อไป

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.