วิวัฒนาการจาก Ale สู่ IPA จากเบียร์ที่ต้องดื่มแทนน้ำและเบียร์ที่ถูกสร้างขึ้น เพราะการล่าอาณานิคม 
GH News August 02, 2025 08:22 AM

รู้หรือไม่? ในยุคกลางคนอังกฤษดื่มเบียร์แทนน้ำ เพราะ…สะอาดกว่า” 

เรื่องนี้ฟังดูเหมือนเรื่องเล่าในวงเบียร์ แต่แท้จริงแล้วคือข้อเท็จจริงจากหน้าประวัติศาสตร์ของอังกฤษ ยุคที่น้ำดื่มยังไม่สะอาดพอจะบริโภคอย่างปลอดภัย ผู้คนจึงหันมาดื่ม “เบียร์” เป็นเครื่องดื่มประจำวัน เพราะผ่านกระบวนการต้มเบียร์ช่วยฆ่าเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เบียร์ในสมัยนั้นคือ “Ale” เบียร์พื้นถิ่นของอังกฤษที่ไม่มีส่วนผสมของฮอปส์ (Hop) รสชาติออกหวาน มีกลิ่นหอมจากมอลต์ และดื่มง่าย ไม่ขมจนฝืนใจ หลายครอบครัวมีการผลิต Ale ไว้ดื่มเองในครัวเรือน และอารามต่างๆ ก็มักมีโรงต้มเบียร์เป็นของตัวเอง นี่คือหนึ่งในช่วงเวลาที่ Ale ไม่ใช่แค่เครื่องดื่ม แต่เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตผู้คน และนับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของวัฒนธรรมเบียร์ที่มีอิทธิพลไปทั่วโลก

Ale ต้นกำเนิดของเบียร์ยุคใหม่

ในรายการ “เปิดจักรวาลเบียร์กับพี่เถียร” เสถียร เสถียรธรรมะ ผู้ก่อตั้งโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง และเบียร์คาราบาว – เบียร์ตะวันแดง  ได้เล่าถึงวิวัฒนาการของ Ale ว่าเบียร์ชนิดนี้มีอายุย้อนกลับไปหลายพันปี โดยเฉพาะในประเทศอังกฤษที่ถือเป็นบ้านเกิดของ Ale อย่างแท้จริง

เสถียรอธิบายว่า ในยุคแรก Ale ไม่ได้ใช้ฮอปส์เป็นส่วนผสมหลัก แต่ใช้สมุนไพร เครื่องเทศ และวัตถุดิบจากธรรมชาติเพื่อเพิ่มกลิ่นและรสชาติ จึงให้กลิ่นหอมหวานจากมอลต์ ดื่มง่าย ไม่ติดขม กระทั่งในช่วงหลังศตวรรษที่ 15 อังกฤษได้รับอิทธิพลจากเยอรมันและเบลเยียม ซึ่งเป็นแหล่งผลิตเบียร์ที่ใช้ฮอปส์มานาน ทำให้ชาวอังกฤษเริ่มหันมาใส่ฮอปส์ลงไปใน Ale เพื่อยืดอายุของเบียร์ เพิ่มความซับซ้อนให้กลิ่น และสร้างสมดุลระหว่างความหวานกับความขมได้อย่างพอดิบพอดี การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ นี้ นำมาซึ่งวิวัฒนาการใหญ่ในโลกเบียร์ และจุดประกายให้เกิด Pale Ale, Brown Ale และท้ายที่สุดคือ IPA เบียร์ที่เป็นเหมือน “มรดกสมัยใหม่” ของ Ale

IPA เบียร์แห่งยุคล่าอาณานิคม ที่กลายเป็นดาวรุ่งของวงการ

หาก Ale คือรากเหง้าของวัฒนธรรมเบียร์ IPA ก็เปรียบเสมือนผลผลิตที่ถือกำเนิดจากการเดินทางไกล และความต้องการที่แท้จริงของยุคสมัย ในช่วงที่อังกฤษขยายอาณานิคมไปยังดินแดนห่างไกล เช่น อินเดีย หนึ่งในความท้าทายคือการขนส่งเบียร์ผ่านเรือเดินสมุทรนานนับเดือน ซึ่งทำให้เบียร์มักเสื่อมสภาพก่อนถึงจุดหมาย ดังนั้นวิธีการยืดอายุคือ “การเพิ่มฮอปส์” ซึ่งไม่เพียงแค่ช่วยถนอมเบียร์เท่านั้น แต่ยังทำให้เบียร์มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มีรสขมที่ซับซ้อน และสร้างเอกลักษณ์ใหม่ให้กับเบียร์จากอังกฤษ

IPA หรือ India Pale Ale จึงถือกำเนิดขึ้น ด้วยรสชาติที่แข็งแรง สดชื่น ดื่มแล้วรู้สึกถึงความแน่นของเนื้อเบียร์ กลิ่นของฮอปส์และรสขมชัดเจน จนกลายเป็นเบียร์ที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในโลกยุคใหม่ โดยเฉพาะในอเมริกา ยุโรป และประเทศที่มีวัฒนธรรมคราฟต์เบียร์เข้มข้น

แล้วหากคุณเป็นมือใหม่ในโลกเบียร์ อาจสงสัยว่า Ale และ IPA ต่างกันอย่างไร เสถียร อธิบายว่า ทั้งสองเป็นเบียร์ที่ใช้กรรมวิธีการหมักแบบ Top Fermentation หรือการหมักแบบอุณหภูมิห้อง ซึ่งทำให้เบียร์มีกลิ่นหอมเฉพาะ แต่จุดที่แตกต่างชัดเจนคือการใช้ฮอปส์ Ale มีความขมน้อยกว่า รสเบากว่า และมีกลิ่นหอมมอลต์ ส่วน IPA ใช้ฮอปส์หลากหลายชนิด ทำให้มีกลิ่นผลไม้ ซิตรัส สน หรือแม้แต่กลิ่นดิน กลิ่นดอกไม้ที่ซับซ้อน รสขมจัดกว่า และมีคาแรกเตอร์ที่จัดจ้าน เหมาะกับคนที่ชอบความเข้มข้นและท้าทาย

IPA ยังเป็นสนามทดลองของผู้ผลิตเบียร์ทั่วโลก เพราะฮอปส์ที่ต่างกันจะให้ผลลัพธ์ที่ไม่เหมือนกันเลยในแต่ละแบตช์ของการผลิต นี่จึงเป็นเหตุผลที่ IPA ได้ชื่อว่าเป็น “Creative Beer” ที่ปลุกจินตนาการของนักทำเบียร์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

เบียร์คาราบาว ตัวจริงเรื่องเบียร์ของคนไทย

ไม่เพียงแค่เล่าเรื่องเบียร์ผ่านรายการเท่านั้น แต่ Carabao Tawandang Beverage ยังยืนหยัดในการเป็นผู้ผลิตเบียร์ระดับคุณภาพของไทย ที่นำเสนอเบียร์รสชาติเข้มข้น มีสไตล์ และเปี่ยมด้วยเรื่องราว โดยเฉพาะ IPA ที่แม้คนไทยจำนวนมากยังไม่รู้จัก แต่ในระดับสากลคือหนึ่งในประเภทเบียร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

เบียร์คาราบาวคือเบียร์ของคอจริง” ไม่ว่าคุณจะเป็นสายดื่ม สายเรียนรู้ หรือสายลองอะไรใหม่ๆ หากอยากเข้าใจโลกเบียร์แบบลึกซึ้ง ชวนติดตามรายการ “เปิดจักรวาลเบียร์กับพี่เถียร” ที่จะพาคุณเดินทางย้อนรอยเบียร์ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ผ่านสายตาและประสบการณ์ของผู้รู้จริงอย่าง เสถียร เสถียรธรรมะ

ติดตามชมรายการเปิดจักรวาลเบียร์กับพี่เถียรได้ที่ (https://www.youtube.com/playlist?list=PLd6tVQzdKucCD7Oa-nI8p0P0zm3Ffi4Za)

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.