MGC-ASIA กินรวบอีโคซิสเต็ม ลุ้นประกอบ EV-ปัดฝุ่นซูเปอร์คาร์มือสอง
GH News August 09, 2025 09:23 AM

MGC-ASIA แย้มเดินหน้าศึกษา และพิจารณาโอกาสการตั้งโรงงานประกอบรถยนต์อีวี-พร้อมลุยตลาดซูเปอร์คาร์มือสองอีกครั้ง หลังเข้าถือหุ้น 100% ใน Neo Mobility Asia ยกระดับ Lifestyle Mobility Ecosystem สร้างระบบนิเวศให้แข็งแกร่ง

ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ MGC-ASIA เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้บริษัทยังคงอยู่ระหว่างการศึกษาโอกาสและความเป็นไปได้ของแผนธุรกิจตั้งโรงงานประกอบรถยนต์อีวีในประเทศไทย แต่ทั้งนี้ยังต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เพื่อประกอบ โดยเฉพาะต้องรอดูโอกาสที่เหมาะสม รวมทั้งจำนวนยอดขายเพื่อประกอบการพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง

เพื่อต่อยอดแนวคิดที่บริษัทเดินหน้ามุ่งมั่นสู่การขับเคลื่อนในความเป็นผู้นำ Lifestyle Mobility Ecosystem อย่างครบวงจรอันดับ 1 ของประเทศ หลังจากบริษัท เอ็มจีซี-เอเชีย กรีนเทค จำกัด (MGC-ASIA Greentech) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ MGC-ASIA ได้เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดในบริษัท นีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย จำกัด (Neo Mobility Asia)

โดยก่อนหน้านี้ Neo Mobility Asia เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง MGC-ASIA Greentech และบริษัท อรุณ พลัส โมบิลิตี้ โฮลดิ้ง จำกัด (AMH) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ปตท.สำหรับการซื้อหุ้นครั้งนี้ ส่งผลให้ MGC-ASIA Greentech ถือหุ้นใน Neo Mobility Asia เป็น 100% จากเดิมที่ถือหุ้นในสัดส่วน 49.99% และถือเป็นการต่อยอดธุรกิจ EV ได้อย่างเต็มรูปแบบ สู่การสร้างศักยภาพความแข็งแกร่งทางธุรกิจในอนาคต

สอดรับกับนโยบายของ MGC-ASIA ที่กำลังมุ่งสู่การสร้างโลกแห่ง Mobility ที่ครอบคลุมทั้งประสบการณ์ผู้ใช้เทคโนโลยีและความยั่งยืน ตามหลักกลยุทธ์ Lifestyle Mobility Ecosystem เพื่อก้าวสู่ผู้นำด้าน “ระบบนิเวศแห่งการเดินทางและการใช้ชีวิตแบบไร้รอยต่อ” ที่ครอบคลุมทั้งรถยนต์หรูระดับพรีเมี่ยม, รถยนต์มือสองครบวงจร, บริการรถเช่าระยะสั้นและยาว, ฟลีตองค์กร, Total EV Solution, บริการการเงินและประกันภัย และแพลตฟอร์มดิจิทัลครบวงจร ภายใต้ 3 แนวทางหลัก ได้แก่

MGC-ASIA สามารถปรับทิศทางกลยุทธ์ EV และ Mobility ให้มีเป้าหมายและวัตถุประสงค์เดียวกัน สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่มีการแข่งขันสูง และมีความคล่องตัวมากขึ้นในการบริหารจัดการ และมีความคล่องตัว สามารถดําเนินงานเชิงกลยุทธ์ได้เต็มรูปแบบ

สามารถดำเนินการตามบริการของ Neo Mobility ให้สอดคล้องกับธุรกิจหลักของ MGC-ASIA ทั้งการขายรถยนต์ใหม่และรถยนต์มือสอง, บริการหลังการขายครบวงจร, บริการฟลีตองค์กร, การเช่ารถระยะสั้น/ยาว สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรสำหรับองค์กร พร้อมระบบ Membership หรือ Subscription ได้อย่างไร้รอยต่อ ซึ่งจะทำให้เกิดการ Synergy อย่างเต็มรูปแบบ และ Margin ที่สูงขึ้นในระยะยาว
และสอดคล้องกับพันธกิจของ MGC-ASIA ในการสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ผ่านบริการ Subscription ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อาทิ EV Platform, Connected Mobility และ Auto Tech Ecosystem เพื่อให้สอดคล้องและรองรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต

“ภายหลังจากการถือหุ้นครั้งนี้ ด้วยการเสริมการให้บริการ EV Fleet สำหรับภาครัฐและเอกชนที่ต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น สอดคล้องกับรถ EV ที่กำลังเป็นเมกะเทรนด์ในปัจจุบัน พร้อมทั้งเตรียมพัฒนาแพลตฟอร์ม EV Subscription และ Car-as-a-Service และ MGC-ASIA ได้วางแผนลงทุนใน Auto Hub Data Center, AI & Connected Car Infrastructure ต่าง ๆ และสร้างพันธมิตรใหม่กับ Global EV Tech ให้สอดคล้องกับตลาดรถพรีเมี่ยมและตลาดรถยนต์มือสองด้วย”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า MGC-ASIA ยังได้ลงทุนในการทำตลาดรถยนต์ซูเปอร์คาร์มือสอง ภายใต้แบรนด์ PER-OWNED SUPERCAR By MGC-ASIA บริษัท เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในเร็ว ๆ นี้ ส่วนโรงงานประกอบรถยนต์ที่พิจารณาอยู่นั้น คาดว่าจะเป็นแบรนด์เอ็กซ์เผิง เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่กลุ่มได้สิทธิในการทำตลาด รวมทั้งแต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาดว่าจะเพียงพอให้ขึ้นไลน์ประกอบหรือไม่ และน่าจะเป็นจิ๊กซอว์หนึ่งที่เข้ามาต่อให้ระบบแวลูเชนของกลุ่ม MGC-ASIA เติมเต็มได้มากขึ้น

ขณะที่ส่วนของรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์เอ็กซ์เผิง (XPENG) ที่กลุ่ม MGC และ Neo Mobility Asia ได้นำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยครบรอบ 1 ปี ปรากฏว่ามียอดขายรถสะสมกว่า 3,000 คัน จากรถ 2 รุ่น คือ XPENG G6 และ XPENG X9 ส่วนปีนี้ตั้งเป้าหมายยอดขายที่วางไว้ระดับ 3,000 คัน

ขณะที่การขยายเครือข่ายการจัดจำหน่ายจนถึงสิ้นปี คาดว่าจะมีโชว์รูมเเละศูนย์บริการอย่างน้อย 20-25 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.