แม้จะเปิดตัวกันมาพักใหญ่แล้ว แต่ดูเหมือนว่า ซีดานหรูอย่างเจ้าโตโยต้า คัมรี่ ใหม่ ยังคงร้อนแรงอยู่ไม่น้อย ดูได้จากยอดขายที่ทิ้งห่างอันดับ 2 อยู่หลายช่วงตัว

‘ข่าวสด ยานยนต์’ ได้ร่วมทริปทดสอบในช่วงเปิดตัว แต่ด้วยระยะทางที่ค่อนข้างน้อย ประมาณ 100 ก.ม.นิดๆ ยังรับรู้อรรถรสไม่เต็มที่

ว่าแล้วลองถามไปยังพีอาร์สาวหน้าหวานอารมณ์ดี ‘แขไข’ สุชญา เชียรแกล้วกล้า รองผู้อำนวยการ ฝ่ายบริหารการตลาด และประชาสัมพันธ์ เพื่อขอยืมมาทดสอบแบบจัดเต็มกันสักหน่อย

เข้าไปรับรถที่สำนักงานใหญ่ โตโยต้า อะไลฟ์ บางนา ก.ม.3 ได้เป็นรุ่น HEV Premium Luxury หรือตัวท็อปนั่นเอง พอมีเวลาให้เดินพิจารณารอบคัน ดีไซน์ของเจ้าโตโยต้า คัมรี่ ใหม่ เน้นอารมณ์สปอร์ต กระจังหน้าแบบปลาฉลามหัวค้อน

ไฟหน้า LED โปรเจ็กเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน เส้นสายด้านข้างไหลลื่น ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 18 นิ้ว ไฟท้าย LED ดีไซน์โฉบเฉี่ยว เสาอากาศแบบครีมฉลาม

ภายในห้องโดยสาร พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ปรับได้ 4 ทิศทางระบบไฟฟ้า แป้นควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย แพดเดิล ชิฟต์

จอแสดงข้อมูลสี ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า จอกลาง ระบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ชาร์จสมาร์ตโฟน ด้วยระบบไร้สาย

หลังคาพาโนรามิก รูฟ พร้อมม่านบังแดด เปิดกว้างถึงเบาะหลัง เปิดรับทัศนียภาพหรือนำอากาศภายนอกเข้ามาในห้องโดยสาร

เบาะหลังลองเข้าไปนั่งเล่นๆ ไม่รู้สึกอึดอัด แม้ตัวเบาะจะค่อนข้างจมอยู่บ้าง มีปุ่มด้านข้างเบาะหน้า ปรับเลื่อนและพับ เปิดพื้นที่คนนั่งเบาะหลังให้โล่งยิ่งขึ้น พนักเบาะนั่งปรับเอนได้ 1 สเต็ป เอนได้น้อยไปหน่อย แต่ดีกว่าไม่มีเลย

ช่องแอร์และที่เสียบชาร์จไฟ อยู่ท้ายคอนโซลกลาง พนักวางแขน ดึงออกจากพนักเบาะกลาง มีหน้าจอดิจิตอลควบคุม เครื่องเสียง อุณหภูมิความแรงพัดลมแอร์ รวมถึงม่านหลังได้ด้วยตัวเอง

ขึ้นประจำตำแหน่งคนขับ เบาะไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมเวลคัม ซีต ช่วยให้เข้า-ออก ได้สะดวกขึ้น เลือกใช้โหมดประหยัด เพราะเห็นการจราจรเวลานั้นแล้ว น่าจะทำความเร็วได้ไม่มากนัก

ขุมกำลังของเจ้าคัมรี่ใหม่ มาจากเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร 4 สูบ แถวเรียง DOHC และมอเตอร์ไฟฟ้า ระบบไฮบริด เจเนอเรชั่นล่าสุด ให้กำลังสูงสุด 227 แรงม้า

ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ราบเรียบไร้รอยต่อ ช่วยให้การออกตัว เร่งแซง แม้อยู่ในโหมดประหยัด ก็ไม่ได้รู้สึกว่าอืด ทำได้กระชับ โยกซ้ายแซงขวาได้อย่างกระฉับกระเฉง

ขึ้นทางด่วนเริ่มทำความเร็วตามกันไป ปรับไปใช้โหมดนอร์มอล แทบไม่ต่างจากโหมดประหยัดสักเท่าไหร่ คันเร่งตอบสนองเร็วขึ้นนิดหน่อย ขณะที่ช่วงล่างบนความเร็งสูง เหมือนมีอาการลอยอยู่บ้าง กำพวงมาลัยแน่นขึ้นอีกนิด เพื่อความมั่นใจ

เข้าทางตรงยาวๆ ถนนค่อนข้างโล่ง ปรับเป็นโหมดสปอร์ต พวงมาลัยคมขึ้นชัดเจน กำลังที่เรียกมาใช้งานได้ทันใจ ไต่ความเร็วได้ต่อเนื่อง 120-130 ก.ม.ต่อช.ม. ได้สบายๆ ช่วงล่างหนึบแน่น ไม่มีสั่นไหว

รวมถึงการเข้าโค้ง บนความเร็วมากกว่าปกติ ไม่มีอาการหน้าดื้อท้ายดิ้น แต่ด้วยตัวรถที่ค่อนข้างยาว ทำให้เวลาเข้าเหมือนไปเป็นแท่ง โค้งแรกๆ ต้องปรับองศาการจับ พวงมาลัยกันเล็กน้อย แต่พักเดียวก็เริ่มคุ้นชิน

ระบบเบรกคืออีกหนึ่งความภูมิใจของวิศวกรโตโยต้า นอกจากสมูทแล้ว ยังไม่มีอาการหน้าทิ่ม แม้จะเบรกแรงแค่ไหนก็ตาม ซึ่งเป็นเช่นนั้นจริง ให้ความรู้สึกนุ่มนวลทุกครั้งที่เท้าแตะแป้นเบรก

เหลือบดูอัตราสิ้นเปลือง ก่อนคืนรถให้โตโยต้า อยู่ที่ 20.6 ก.ม.ต่อลิตร กับระยะทางที่ทดสอบทั้งหมด 455 ก.ม. น้ำมันเหลือในถังวิ่งได้อีก 260 ก.ม. รวมแล้วถ้าใช้จนหมดถังได้ระยะทางกว่า 700 ก.ม. กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ใช้น้ำมันถังเดียวได้สบายๆ ถือว่าประหยัดได้ใจไม่น้อยเลยทีเดียว กับน้ำหนักตัวร่วม 2 ตัน แถมขับกันหนักหน่วงอยู่พอสมควร

ส่วนค่าตัวของเจ้า โตโยต้า คัมรี่ HEV Premium Luxury ที่ทดสอบในครั้งนี้ ราคา 1.809 ล้านบาท แต่ยังมีรุ่นรองท็อป HEV Premium ราคา 1.659 ล้านบาทและรุ่นเริ่มต้น HEV Smart ราคา 1.475 ล้านบาท

แวะไปสัมผัสและทดสอบขับกันดูว่าเหมาะกับรุ่นไหนมากที่สุด ได้ที่โชว์รูม โตโยต้าทั่วประเทศ

กิตติพงศ์ ศรีเจริญ