สามารถ ฉายภาพ ฮุน เซน จาก ‘ทุ่งสังหาร’ ถึง ‘โดรนสอดแนม’ เตือนรบ.อย่าหวังผลเจรจามากเกิน
GH News August 14, 2025 09:31 AM

สามารถ ฉายภาพ ฮุน เซน จาก ‘ทุ่งสังหาร’ ถึง ‘โดรนสอดแนม’ เตือนรบ.อย่าหวังผลเจรจามากเกิน เขมรไว้ใจไม่ได้

เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แสดงทรรศนะต่อ สมเด็จฯฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ความดังนี้

ฮุน เซน : จาก “ทุ่งสังหาร” ถึง “โดรนสอดแนม”

กว่าสี่ทศวรรษก่อน โลกได้จารึก “ทุ่งสังหาร” (The Killing Fields) ของกัมพูชา… ช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความโหดร้าย ความตาย ความหวาดกลัว เสียงปืน เสียงระเบิด และเสียงร่ำไห้ของผู้สูญเสีย ภายใต้เขมรแดงของ พอล พต

ทหารเขมรแดงนายหนึ่งชื่อ ฮุน เซน หลบหนีระเบิดและกระสุนปืนข้ามพรมแดนไปซบอ้อมอกเวียดนาม ก่อนกลับมาในฐานะนักการเมืองที่ไต่เต้าสู่ตำแหน่งผู้นำประเทศ

แต่ใครจะคิดว่า… ชายผู้เคยรู้จัก “บาดแผลสงคราม” ดีถึงขนาดนั้น เลือกที่จะกลับมาสู่โหมดที่ท้าทายสันติภาพอีกครั้ง

1.The Killing Fields-ความจริงที่เจ็บปวดกว่าในหนัง

ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากเหตุการณ์จริงในกัมพูชา ช่วงปี 1975-1979 เมื่อเขมรแดง (ภายใต้การนำของ พอล พต) ยึดอำนาจจากรัฐบาลลอนนอล และเปลี่ยนประเทศเป็น “รัฐเกษตรกรรม” แบบสุดโต่ง

ภาพยนตร์ The Killing Fields (สร้างเมื่อปี 1984) ไม่ใช่แค่หนังสงคราม แต่มันคือบันทึกเลือดจากยุคเขมรแดง (1975-1979)

  • ประชาชนถูกบังคับออกจากเมือง ให้อพยพไปสู่ชนบทเพื่อทำงานเกษตร
  • ปัญญาชนและผู้เห็นต่าง (ผู้มีการศึกษา ข้าราชการ ทหาร หรือแม้แต่คนใส่แว่น ก็ถูกมองว่าเป็นศัตรู) ถูกสังหาร
  • ประเทศทั้งประเทศถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นค่ายแรงงานกลางแจ้ง
  • มีผู้เสียชีวิตกว่า 1.7 ล้านคน
  • มีผู้ลี้ภัยจำนวนมากหนีเข้าสู่ไทย โดยมีค่ายผู้ลี้ภัยชายแดนไทย-กัมพูชารองรับ

“ทุ่งสังหาร” กลายเป็นคำที่คนทั้งโลกจำได้ว่า “อุดมการณ์ปลายกระบอกปืน” ทำให้เกิด “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ทุ่งสังหารจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

2.ไทย-กัมพูชา 2025… สงครามยุคใหม่

กรกฎาคม 2025 ชายแดนไทย-กัมพูชาปะทะกันรุนแรง มีทั้งการยิงปืนใหญ่ ปืนกลหนัก และการใช้โดรนสอดแนม

  • ไทยมีการอพยพพลเรือนหลายแสน
  • “ทุ่นระเบิด” โดยฝ่ายกัมพูชากลับมาหลอกหลอนชายแดนอีกครั้ง… ทหารไทยได้รับบาดเจ็บหลายราย
  • มี “สงครามข้อมูล” (Information War) เกิดขึ้น เมื่อกัมพูชาใช้สื่อโซเชียลบิดเบือนข้อเท็จจริงรายวัน

นี่ไม่ใช่สงครามล้างเผ่าพันธุ์แบบเขมรแดง แต่ก็น่ากลัว… เพราะมันคือสงครามลูกผสม (Hybrid War) ที่ใช้ทั้งทหาร เทคโนโลยี และข้อมูลโจมตีพร้อมกัน

3.บทเรียน 5 ข้อในอดีต ที่ยังใช้ได้

(1) พลเรือนคือผู้จ่ายราคาสูงสุด… ไม่ว่าจะปี 1975 หรือ 2025 คนธรรมดาคือคนที่ต้องหนี ต้องสูญเสีย และต้องเริ่มต้นใหม่

(2) พรมแดนคือเส้นที่บอบบาง… ในหนังเส้นพรมแดนคือทางรอดของดีธ ปราน (Dith Pran นักข่าว/ล่ามชาวกัมพูชา) เขาสามารถข้ามพรมแดนเข้ามาฝั่งไทยได้สำเร็จ สำหรับ ฮุน เซน ในอดีต เส้นพรมแดนคือเส้นทางรอดชีวิตจากทุ่งสังหารหลบหนีไปเวียดนาม แต่ปัจจุบันเส้นพรมแดนคือจุดเสี่ยงที่ปะทุเป็นสงครามใหญ่

(3) ข้อมูลคืออาวุธ… เขมรแดงปิดกั้นข้อมูล แต่ยุคนี้มีการยิงข้อมูลใส่กันแบบไม่หยุด

(4) เทคโนโลยีเปลี่ยนเกม… จากปืน AK สู่โดรนหรืออากาศยานไร้คนขับ (Unmanned Aerial Vehicle หรือ UAV) และสงครามไซเบอร์

(5) อย่าประเมินความตึงเครียดต่ำไป… สงครามใหญ่ในอดีตเริ่มจากการประเมินผิดเพียงครั้งเดียว

4.แล้วเราควรทำอย่างไร?

รัฐบาลไม่ควรหวังผลจาก “การเจรจา” มากเกินไป การเจรจาอาจใช้ไม่ได้ผลกับกัมพูชา เพราะ “ไว้ใจไม่ได้” อีกทั้งไม่ยอมเจรจาแก้ปัญหาในสิ่งที่ตนทำไว้คือวางทุ่นระเบิดชายแดนไทย-กัมพูชา ตามข้อเสนอของไทยให้ร่วมกันกู้ทุ่นระเบิดเหล่านั้นในการประชุม GBC ที่ผ่านมาระหว่างวันที่ 4-7 สิงหาคม 2568 ที่ประเทศมาเลเซีย หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อวันที่ 9 และ 12 สิงหาคม 2568 ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ขาขาดวันละ 1 นาย รวม 2 นาย… นี่คือความไร้มนุษยธรรมของผู้นำกัมพูชา

5.ของฝากถึง “ฮุน เซน”

ฮุน เซน ควรจำไว้ว่า “ผู้นำที่แท้จริง ไม่ใช่ผู้ที่ชนะศึกด้วยกำลัง แต่คือผู้ที่ชนะใจเพื่อนบ้านด้วยสันติภาพ เพราะถ้าลืมบทเรียนจากทุ่งสังหาร วันหนึ่งประวัติศาสตร์อาจจำท่าน ไม่ใช่ในฐานะผู้นำที่สร้างชาติ แต่เป็นผู้จุดชนวนสงครามครั้งใหม่ในภูมิภาคนี้”

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.