FLOYD กำไรครึ่งปีแรกโตแรง 183% ดันงานระบบดาต้าเซ็นเตอร์เสริมรายได้ ลุยตลาด Data Center ครึ่งปีหลัง หนุนรายได้ทะลุเป้า
GH News August 14, 2025 02:14 PM

บมจ. ฟลอยด์ (FLOYD) โชว์ศักยภาพผู้นำงานรับเหมาวิศวกรรมระบบประกอบอาคารครบวงจร โชว์ผลงานไตรมาส 2/2568 สุดร้อนแรง กำไรสุทธิครึ่งปีแรกพุ่ง 183% แตะ 27 ล้านบาท จากรายได้รวมกว่า 359 ล้านบาท เติบโต 75% จากปีก่อน ผลจากการส่งมอบโครงการตามแผนและการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ สะท้อนความแข็งแกร่งของธุรกิจวิศวกรรมระบบประกอบอาคาร (MEP) ที่เติบโตสอดรับอุตสาหกรรมก่อสร้างและการขยายตัวของ ศูนย์ข้อมูล (Data Center) ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์หลักขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัทในปีนี้อย่างเด่นชัด โดยเฉพาะในพื้นที่ยุทธศาสตร์ EEC (ชลบุรี–ระยอง) รวมถึงแรงหนุนจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต

นายทศพร จิตตวีระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟลอยด์ จำกัด (มหาชน) หรือ FLOYD  เปิดเผยว่า ผลประกอบการครึ่งปีแรกปีนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของ FLOYD มีการเติบโตที่ชัดเจนทั้งในด้านรายได้และกำไร โดยมีกำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 27 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 183% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้รวมแตะ 359 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 75% ซึ่งเป็นผลจากการส่งมอบโครงการที่เป็นไปตามแผน และการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะโครงการ Data Center ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่ไตรมาส 2/2568 ได้กลายเป็นหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญของรายได้บริษัทในปีนี้ สะท้อนถึงศักยภาพของ FLOYD ในฐานะผู้รับเหมางานระบบสำหรับศูนย์ข้อมูลที่ตอบโจทย์ตลาดดิจิทัลที่กำลังเติบโต

โดย ณ สิ้นไตรมาส 2 บริษัทมีงานในมือ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 541.03 ล้านบาท ครอบคลุม 4 กลุ่มโครงการหลัก ได้แก่ อาคารสำนักงาน, อาคารพักอาศัย, ห้างสรรพสินค้า และศูนย์ข้อมูล (Data Center) ทั้งนี้ ไตรมาส 2 เพียงไตรมาสเดียว FLOYD ทำรายได้รวม 192.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.81% และมีกำไรสุทธิ 21.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 120.92% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนสะท้อนถึงความสามารถในการรักษาอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

สำหรับครึ่งปีหลัง 2568 FLOYD พร้อมเดินหน้าธุรกิจอย่างแข็งแกร่งและมุ่งเติบโตในระยะยาว จากแนวโน้มอุตสาหกรรมก่อสร้างและเทคโนโลยีที่ฟื้นตัว รวมถึงความต้องการด้านศูนย์ข้อมูลและดิจิทัลโซลูชั่น ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้แนวโน้มอุตสาหกรรม Data Center คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ยมากกว่า 12% ต่อปีจนถึงปี 2030 จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลใน EEC และโครงการ Hyperscale จากผู้ให้บริการระดับโลก เช่น AWS, Google, TikTok และ Microsoft สร้างโอกาสโดยตรงแก่ผู้รับเหมาระบบ MEP ที่มีความเชี่ยวชาญอย่าง FLOYD ที่อยู่ในจุดแข็ง และสามารถรองรับความต้องการโครงการด้านดาต้าเซ็นเตอร์ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยทีมงานมืออาชีพที่เชี่ยวชาญ เทคโนโลยีที่ทันสมัย และความมุ่งมั่นสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน” นายทศพร กล่าวทิ้งท้าย                                                       

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.