‘Tailwind’ นิทรรศการเดี่ยวของศิลปินแห่งชาติ อินสนธิ์ วงค์สาม สะท้อนอายุไม่ใช่อุปสรรคในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ ในช่วงอายุกว่าเก้าสิบปี ศิลปินผู้นี้ยังทำงานศิลปะอย่างสม่ำเสมอ นิทรรศการครั้งนี้นับเป็นการจัดแสดงร่วมกับ โนวา คอนเทมโพรารี ครั้งแรกของ อินสนธิ์ วงค์สาม และจัดขึ้นในวาระครบรอบวันคล้ายวันเกิดปีที่ 91 เพื่อเฉลิมฉลองบทบาทอันโดดเด่นของเขาในฐานะสะพานเชื่อมระหว่างศิลปะไทยสมัยใหม่และศิลปะไทยร่วมสมัย
อินสนธิ์ วงค์สาม เป็นศิลปินชาวลำพูน ผู้มีบทบาทสําคัญยิ่งต่อภูมิทัศน์ทางศิลปะของไทย ย้อนไป 68 ปีที่แล้ว เขาได้สร้างชื่อเสียงจากการเดินทางโดยรถสกู๊ตเตอร์ Lambretta จากกรุงเทพฯ สู่เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี การเดินทางครั้งนั้นไม่ได้เป็นเพียงเส้นทางทางกายภาพ แต่เป็นการข้ามพรมแดนทางจิตวิญญาณ วัฒนธรรม และศิลปะ ตั้งแต่สถาปัตยกรรมศักดิ์สิทธิ์ของอินเดีย ไปจนถึงกลิ่นอายของยุโรปในช่วงยุคหลังสงครามโลก เส้นทางนี้จึงกลายเป็นวิธีการทางศิลปะที่เขาใช้ตลอดมา
การเดินทางครั้งสําคัญของศิลปินกลายเป็นวิธีการศึกษาที่ใช้เวลาเป็นสื่อกลาง กล่าวคือเป็นการแสวงหาเชิงภาวะที่ทําให้แนวคิดเรื่องตัวตน ผู้สร้างสรรค์ และการรับรู้ ถูกตั้งคําถามและตีความใหม่อยู่เสมอ ผลงานของอินสนธิ์ยังคงสะท้อนร่องรอยในการเดินทางอันลึกซึ้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นภาพพิมพ์แกะไม้ ภาพวาดนามธรรม หรือประติมากรรมไม้ ล้วนแสดงถึงความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอระหว่างวัสดุ พื้นที่ และเวลา ตลอดระยะเวลากว่าเจ็ดทศวรรษ อินสนธิ์ได้พัฒนาภาษาทางสายตาที่ไม่ยึดติดกับแบบแผน ไม่ใช้สัญลักษณ์ตรงไปตรงมา และไม่เล่าเรื่องโดยตรง ผลงานของเขาทําหน้าที่เป็นระบบเปิด ไร้คําพูดแต่เต็มไปด้วยพลังทางอารมณ์ ชวนให้ผู้ชมรับรู้ได้หลากหลายมิติ
นิทรรศการ Tailwind ไม่เพียงเน้นให้เห็นถึงความหลากหลายของผลงานของอินสนธิ์ แต่ยังสะท้อนถึงแรงขับเคลื่อนอันเงียบงามและต่อเนื่องของเขา แม้ในช่วงอายุกว่าเก้าสิบปี ศิลปินยังคงทํางานศิลปะอย่างสมํ่าเสมอ เป็นภาพแทนของความต่อเนื่องที่หาได้ยากข้ามยุคสมัย ผลงานไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน แต่ค่อยๆ เคลื่อนไปอย่างคงเส้นคงวา เป็นกระบวนการเปิดเผยของรูปทรง อิริยาบถ และการรับรู้ ราวกับกําลังถ่ายทอดสัจธรรมจากกาลเวลา ผลงานของเขามักมีชื่อที่คล้ายสุภาษิตหรือคําสอน เป็นการนําเสนอความชัดเจนผ่านความพอดี ไม่ใช่เพื่อการสั่งสอน แต่เพื่อเป็นช่องทางสงบงามในการนําทางความคิดและรักษาคุณค่าที่สืบต่อกันมา
Tailwind ยังเป็นการเฉลิมฉลองวิธีการสื่อสารและความยั่งยืนของศิลปิน อินสนธิ์แสดงให้เห็นถึงการเป็นศิลปินที่ยึดมั่นในกระบวนการ มากกว่าการแสวงหาความแปลกใหม่ ผลงานของเขาไม่ได้มุ่งหมายจะให้คําตอบ หากแต่เปิดพื้นที่ให้ผู้ชมสัมผัสกับแรงสะเทือนทางความรู้สึก ที่ซึ่งเวลาไม่ใช่เพียงสิ่งที่ผ่านไป แต่กลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้และความหมายก่อตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปผ่านการฝึกฝนอยู่สมํ่าเสมอ
ผลงานที่จัดแสดงกลางกรุงเทพฯ ไม่เพียงบันทึกประสบการณ์ชีวิตของเขา แต่ยังบ่งบอกถึงความมุ่งมั่นที่มีมาตลอดชีวิตในการสํารวจ และตั้งคําถามต่อพรมแดนระหว่างตนเอง วัตถุ และโลก ซึ่งยังคงเป็นพื้นที่ที่เปิดกว้างและไม่สิ้นสุด สายศิลปะและนักสะสมห้ามพลาด นิทรรศการ‘Tailwind’ จัดแสดงตั้งแต่วันนี้- 27 กันยายน 2568 ที่โนวา คอนเทมโพรารี แกลเลอรี ถนนสี่พระยา เขตบางรัก