"มุ้ย-ธีรศิลป์" เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง กับ "ทรู แบงค็อก" แบบ "ดรีมสตาร์ต" นับเป็นการการันตีคุณภาพของดาวเตะวัย 37 ปี เปิดเส้นทางไล่ล่าความสำเร็จในช่วงโค้งสุดท้ายของการค้าแข้ง และเชื่อว่าหลายคนอาจคิดถึงการคัมแบ๊ก "ช้างศึก" ของ "เจ้ามุ้ย" ด้วย ...แต่จะมีโอกาสแค่ไหน
“มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา เรียกเสียงกรี๊ด ประเดิมลงเล่น ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด แบบ “ดรีมสตาร์ต” ด้วยการสับไกพังประตูให้ต้นสังกัดใหม่ ที่สังเวียนเหย้าเดิม “ทรู บีจี สเตเดียม” (เพราะ ทรู แบงค็อก ย้ายมาเล่นที่ สนาม บีจี ทีมเดิมของ มุ้ย)
กองหน้าวัย 37 ปี ถูกเปลี่ยนลงสนาม นาทีที่ 62 และใช้เวลาราว 25 นาที พังตาข่าย
เป็นประตูที่สวยงาม ตั้งแต่จังหวะตักบอลจ่ายของ เซยะ คุโนริ(ที่ยิง 2 ลูก) ก่อน เจ้ามุ้ย วิ่งตามไปวอลเลย์เสียบเสาไกล คมกริบ บาดลึก ให้ทีมนำ 3-1 (ก่อนชนะ 3-2)
นี่เป็นประตูที่ 147 ของ มุ้ย ที่ยิงในไทยลีก อยู่อันดับ 2 ดาวซัลโวตลอดกาล ตามหลัง เฮเบอร์ตี เฟอร์นันเดส ที่ยิง 159 ประตู อยู่แค่ 12 ประตู
ความรู้สึกของแฟนบอลไทยคงเหมือนอย่างที่ “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ กล่าวไว้ ดีใจที่เห็นรอยยิ้มของ พี่มุ้ย
รอยยิ้มที่ระยะหลัง เราไม่ค่อยได้เห็นกัน เพราะแกก็เป็น “เสือยิ้มยาก” อยู่แล้ว
ฤดูกาลที่ผ่านมา อาการบาดเจ็บเกาะตัว สลัดไม่ออก ทำให้ มุ้ย แทบไม่มีโอกาสลงสนามให้ บีจี เมื่อหมดสัญญาก็ไม่มีการเซ็นต่อออกไป จนเขาย้ายมาร่วมงาน “โค้ชแบน” ธชตวัน ศรีปาน กับ ทรู แบงค็อก
เมื่อสโมสรไม่ได้เล่น ทีมชาติยิ่งไม่ต้องพูดถึง มุ้ย เข้าใจสถานการณ์นี้ดี
ก่อนเปิดฤดูกาล เขาให้สัมภาษณ์ว่า เขายังไม่ได้มีแพลนจะแขวนสตั๊ด แต่สิ่งแรกเลยที่ต้องทำ และหวังคือสร้างร่างกายให้แข็งแกร่ง เพียงพอที่จะเล่นในไทยลีกได้
เป้าหมายแรกคือซ้อม เป้าหมายต่อไปคือลงเล่นสม่ำเสมอ และ..ยิงประตูให้ได้บ่อยๆ ช่วยทีมชนะ
ส่วนทีมชาติ…ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ถ้าร่างกายพร้อม และชาติต้องการ
นับเป็นการเริ่มต้น บทใหม่ที่สวยงาม ของ ธีรศิลป์ แดงดา และเป็นอีกครั้งที่สวนกลับประโยค “มุ้ยหมดแล้ว” (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าใครพูดคนแรก)
ที่ผ่านมา มุ้ย ลุยไปทั่ว เล่นหลายสโมสรทั้งไทย และต่างประเทศ มีทั้งดีมาก ดี และไม่ค่อยดี
“Begin Again” มีได้เรื่อยๆ ถ้าหัวใจยังสู้ ร่างกายยังไหว
ชนาธิป บอกว่า หมดหรือไม่หมด ไม่ได้วัดที่อายุ ถ้าอายุ 37-38-39 ยังเล่นได้ เล่นดี ยิงเอาๆ ก็ต้องได้เล่น ได้ลง ส่วนคนอายุน้อย เล่นแย่กว่าก็ต้องนั่ง
ที่สำคัญคือ “อย่าเจ็บ” ก็พอแล้ว
ดูเป็นคำของ่ายๆ แต่ในโลกของฟุตบอลแสนจะยาก ยิ่งคนเจ็บบ่อยๆ ก็มักเจ็บเรื่อยๆ ยิ่งอายุมากขึ้น ย่อมเป็นปัญหา
เอาเป็นว่า มารอดูและเป็นกำลังใจให้กองหน้าตำนานขวัญใจคนไทย
นักเตะที่แฟนบอลอยากจะเห็นรอยยิ้มของแกเยอะๆ
ส่วนเรื่องทีมชาติ กับนโยบายเพื่ออนาคต ของ “มาซาทาดะ อิชิอิ” เชื่อว่า คิงส์คัพนี้อาจเร็วไป
แต่ฟีฟ่าเดย์ต่อไป และถ้าสถานการณ์เปลี่ยน…เราค่อยมารอดูกัน.
วุฒินล