รถไฟฟ้ามหานคร 33 ปี รฟม. ‘มากกว่าการเดินทาง คือการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน’
GH News August 31, 2025 09:00 AM

21 สิงหาคม 2568 ครบรอบวาระก่อตั้งองค์กร 33 ขวบปี “รฟม.-การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย” หน่วยงานรัฐวิสาหกิจชั้นนำ ภายใต้กระทรวงคมนาคม ดำเนินงานภายใต้แนวคิด “มากกว่าการเดินทาง คือการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน”

ปัจจุบัน รฟม.มุ่งเน้นภารกิจการกำกับดูแลคุณภาพการให้บริการรถไฟฟ้ามหานครทั้ง 4 เส้นทาง ได้แก่ 1.รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีน้ำเงิน) 2.รถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง) 3.รถไฟฟ้ามหานคร สายนัคราพิพัฒน์ (MRT สายสีเหลือง) และ 4.รถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู (MRT สายสีชมพู) เป็นระบบขนส่งสาธารณะที่คนเมืองไว้วางใจในการเดินทาง

ควบคู่ไปกับการวางแผนการสร้างรายได้ให้องค์กรเพิ่ม นอกเหนือจากการขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล และรายได้ค่าโดยสารรถไฟฟ้า เพื่อให้ รฟม.เป็นรัฐวิสาหกิจที่สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนในอนาคต

เดินหน้า 20 บาทตลอดสาย

โดย “สุรพงษ์ ปิยะโชติ” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวง ได้แสดงความยินดีและมอบนโยบายแก่ รฟม.ในวาระครบรอบ 33 ปี

ทั้งนี้ จากสถิติกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ณ เดือนกรกฎาคม 2568 พบว่าผู้โดยสารรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล สูงถึง 44,162,043 คน-เที่ยว กระทรวงคมนาคมคาดการณ์ว่า เมื่อเริ่มดำเนินมาตรการค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายของรัฐบาล ในระยะที่ 2 สำหรับรถไฟฟ้าทุกสาย จะส่งผลให้ปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด

โดยหัวใจสำคัญของมาตรการ 20 บาทตลอดสายนี้ จะเป็นการคุมเพดานค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุดไว้ที่ 20 บาท ต่อการเดินทาง 1 เที่ยว ครอบคลุมทั้งเที่ยวเดินทางแบบสายเดียว และเที่ยวเดินทางแบบข้ามหลายสาย

มาตรการนี้สงวนไว้สำหรับผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าที่มีสัญชาติไทย และได้ลงทะเบียนรับสิทธิ “ค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” ในแอปพลิเคชั่นทางรัฐเท่านั้น (เริ่มลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป ไม่จำกัดจำนวนสิทธิ และไม่มีวันปิดลงทะเบียน)

ทั้งนี้ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ส่งเสริมให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพ ในราคาที่เหมาะสม และเป็นธรรม ผนวกรวมกับการปฏิรูปและจัดเส้นทางรถโดยสารประจำทางในกรุงเทพฯ-ปริมณฑลใหม่ ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่เอื้อให้ประชาชนเชื่อมต่อการเดินทางเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนได้โดยสะดวกมากขึ้น

กระทรวงคมนาคมจึงเชื่อมั่นว่า การมีระบบขนส่งสาธารณะที่ดีจะช่วยลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ช่วยบรรเทาการจราจรติดขัด ลดปัญหามลพิษในเขตเมืองได้อย่างยั่งยืน

อย่างไรก็ดี กระทรวงคมนาคมยังคงให้ความสำคัญต่อความยั่งยืนของรัฐวิสาหกิจ โดยได้มีการตรวจติดตามผลการดำเนินงานและแผนงานในอนาคตของ รฟม.อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คำแนะนำและหารือแนวทางที่เหมาะสมร่วมกันในการบริหารจัดการความเสี่ยง ทั้งในเชิงนโยบาย การดำเนินการ และปัจจัยอื่น ๆ

MRT 4 เส้นทางพร้อมสุดขีด

ขณะที่ “กาจผจญ อุดมธรรมภักดี” ผู้ว่าการ รฟม.เปิดเผยว่า ปัจจุบันรถไฟฟ้า MRT ทั้ง 4 เส้นทาง ในการกำกับดูแลของ รฟม.พร้อมรองรับระบบรับชำระค่าโดยสารด้วยบัตร EMV Contactless ที่จะใช้ในการลงทะเบียนรับสิทธิผ่านแอปพลิเคชั่นทางรัฐ เพื่อเข้าร่วมในมาตรการค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาทตลอดสาย

โดยผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า MRT มีหลายทางเลือกสำหรับการถือบัตร EMV Contactless ดังกล่าว ดังนี้ 1.เลือกใช้บัตรเครดิต VISA/Mastercard ของธนาคารใดก็ได้ หรือบัตรเครดิต UnionPay เฉพาะของธนาคารกรุงเทพ, ICBC, AEON, KTC ในการชำระค่าโดยสาร

2.เลือกใช้บัตรเดบิต VISA/Mastercard เฉพาะของธนาคารกรุงไทย, UOB, กรุงศรีอยุธยา, ไทยพาณิชย์, กสิกรไทย ในการชำระค่าโดยสาร

3.เลือกใช้บัตรโดยสาร Mangmoom EMV (มีจำหน่ายที่สถานีรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ในราคาโปรโมชั่น 150 บาท ถึงสิ้นเดือนตุลาคม 2568)

4.บัตรโดยสาร MRT EMV

กาจผจญ อุดมธรรมภักดี
กาจผจญ อุดมธรรมภักดี

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรองรับผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า MRT ที่จะเพิ่มเข้ามาในระบบมากขึ้นในระยะอันใกล้นี้ รฟม.ได้กำชับเอกชนผู้รับสัมปทาน/ผู้รับจ้างเดินรถให้มุ่งรักษามาตรฐานการให้บริการและมาตรฐานความปลอดภัยโดยเคร่งครัด โดย รฟม.และผู้รับสัมปทาน/ผู้รับจ้างเดินรถ ตลอดจนพันธมิตรที่เกี่ยวข้องมีความตั้งใจที่จะร่วมขับเคลื่อนมาตรการของรัฐบาลให้เกิดขึ้นได้จริงโดยเร็วที่สุด

นอกจากนี้ รฟม.ยังมุ่งเน้นภารกิจกำกับดูแลการให้บริการรถไฟฟ้าในมิติอื่น ๆ ด้วยการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อให้คนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนได้อย่างสะดวกสบายและเท่าเทียม พัฒนาการเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะอื่น ๆ มองหานวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อนำมาใช้ยกระดับคุณภาพบริการ ให้ตอบสนองต่อวิถีชีวิตของคนเมืองมากขึ้น ทั้งในด้านความสะดวกสบาย รวดเร็ว และทันสมัย

อาทิ MRTA Smart Parking บริการที่จอดรถ ชำระค่าบริการออนไลน์ และตรวจสอบจำนวนที่จอดรถว่างได้ล่วงหน้า และการศึกษาแนวทางการใช้รหัสคิวอาร์ (QR Code) หรือระบบจดจำใบหน้าแทนการพกบัตรโดยสารรถไฟฟ้าในอนาคต เป็นต้น

แผนอนาคต 4 สายใหม่เมืองกรุง

พร้อมกันนี้ รฟม.เตรียมเดินหน้าในการบริหารสินทรัพย์ และการพัฒนาเชิงพาณิชย์ภายใต้กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ตั้งเป้าหมายสู่การเป็นรัฐวิสาหกิจชั้นนำ ด้านการกำกับ ดูแล บริการโครงข่ายรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนที่มีความยั่งยืนและพึ่งพาตนเองได้มากขึ้น

ในส่วนของภารกิจกำกับงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า รฟม. ได้มีการเร่งรัดการดำเนินงานของผู้รับจ้างงานโยธาในพื้นที่ที่สามารถทำได้ภายใต้เงื่อนไขสำคัญคือ ต้องไม่ลดทอนคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัยที่กำหนดไว้ ควบคู่ไปกับการติดตามตรวจสอบมาตรการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนของโครงการอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบันโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) มีความก้าวหน้างานโยธา 59.49% และโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มีความก้าวหน้างานโยธา 14.06% ความก้าวหน้างานระบบรถไฟฟ้า 6.38% (ข้อมูล ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2568)

สำหรับโครงการในอนาคตที่ รฟม.ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดำเนินการในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลในอนาคต มีดังนี้

1.โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลี (บึงกุ่ม) 2.รถไฟฟ้าสายสีเงิน ช่วงบางนา-สุวรรณภูมิ 3.รถไฟฟ้าสายสีเทา ช่วงวัชรพล-ทองหล่อ และ 4.รถไฟฟ้าสายสีฟ้า ช่วงดินแดง-สาทร ซึ่งได้รับการออกแบบให้เป็นขนส่งมวลชนระบบรอง (Feeder Line) ทั้งหมด เพื่อเติมเต็มโครงข่ายได้อย่างสมบูรณ์

บ่มเพาะคน รฟม.จิตสำนึกเพื่อสังคม

สำหรับโครงการระบบขนส่งมวลชนในเมืองหลักภูมิภาค 4 จังหวัด “ภูเก็ต เชียงใหม่ นครราชสีมา พิษณุโลก” อยู่ในขั้นตอนทบทวนและปรับปรุงผลการศึกษาวิเคราะห์โครงการให้เป็นปัจจุบัน เนื่องจากปัจจัยสถานการณ์โควิดมีผลต่อสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงการกำหนดอัตราค่าโดยสารเพื่อแบ่งเบาภาระประชาชน ย่อมส่งผลต่อการประเมินมูลค่าการลงทุนโครงการ และการคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสาร

สำหรับ 33 ปี ก้าวต่อจากนี้ไป รฟม.ยืนยันในเจตนารมณ์พัฒนาองค์กรในทุกมิติอย่างรอบด้าน ดำเนินกิจกรรมด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม หรือ CSR-Corporate Social Responsibility อย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบและสร้างความพึงพอใจให้แก่กลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม

มีการกำหนดนโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อพัฒนาองค์กรให้มีประสิทธิภาพ มีระบบการบริหารจัดการที่ดี เป็นที่น่าเชื่อถือในสายตาของประชาชน

ขณะเดียวกัน รฟม.ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมศักยภาพของบุคลากรให้เป็นผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ควบคู่กับการบ่มเพาะจิตสำนึกเพื่อสังคม ยึดมั่นในหลักการเข้าถึงและเท่าเทียมของคนทุกคน ทุกประเภท คำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อม

วิสัยทัศน์เพื่อให้บุคลากร รฟม.สามารถสร้างสรรค์ความคิดใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการสานต่อภารกิจของ รฟม.ไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงในแต่ละยุคสมัย ซึ่งในท้ายที่สุดก็จะกลายเป็นผลประโยชน์คืนสู่สาธารณะอย่างยั่งยืน

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.