ซิกท์ ชูจุดขายวันสต็อปเซอร์วิส มั่นใจรถเช่า EV-ลิมูซีนดันยอด 540 ล้านบาท
GH News August 31, 2025 09:21 AM

รถเช่าซิกท์หวังรัฐบาลดันมาตรการฟื้นท่องเที่ยว กระตุ้นตลาดรถยนต์เช่า ชี้กลุ่มลูกค้าให้ความสนใจเช่ารถยนต์ไฟฟ้าเพื่อทดลองใช้เพิ่มขึ้น ส่วนตลาดลิมูซีนพร้อมคนขับได้รับความสนใจจากหน่วยงานเอกชน-ภาครัฐต่อเนื่อง มั่นใจดันรายได้ทั้งปีแตะ 540 ล้านบาท

นายภูมน สมดี ผู้จัดการทั่วไป ซิกท์ รถเช่า ประเทศไทย (SIXT) ผู้นำบริการรถเช่าระยะสั้นและลิมูซีน ภายใต้บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ MGC-ASIA เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า โดยปีนี้บริษัทมั่นใจว่าจะมีรายได้เติบโตเพิ่มขึ้น 20-25% หรือคิดเป็นรายได้ที่ 540-675 ล้านบาท จากปี 2567 ที่รถเช่าซิกท์มีรายได้ 450 ล้านบาท

โดยปัจจัยที่ทำให้มั่นใจว่าจะมีรายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้นั้น เป็นผลมาจากการเติบโตของธุรกิจรถเช่าระยะสั้นเพื่อการท่องเที่ยว ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากกลุ่มนักท่องเที่ยว บวกกับในกลุ่มของรถเช่าลิมูซีน พร้อมพนักงานขับรถ มีการเติบโตและได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน

ส่งผลให้ปีนี้ บริษัทได้ลงทุนเพื่อซื้อรถเข้าพอร์ตอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับตลาดรถเช่าระยะสั้น ทั้งในส่วนของรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน และรถยนต์ไฟฟ้า เข้ามาเติมเต็มและเตรียมพร้อมไว้สำหรับรองรับบริการลูกค้า โดยเฉพาะรถยนต์ในกลุ่มลิมูซีนที่มีผู้ให้ความสนใจเข้าใช้บริการ ทั้งในส่วนของบริษัทเอกชน และหน่วยงานภาครัฐที่ต้องการให้บริษัทเข้าไปดูแลในส่วนของการเดินทางพร้อมพนักงานขับรถ เห็นได้จากสัดส่วนที่เพิ่มเข้ามาสูงถึง 10% ในปีนี้

ส่วนรถเช่าระยะสั้นเพื่อการท่องเที่ยว ก็มีการเติบโตเช่นเดียวกัน โดยได้รับความสนใจจากกลุ่มนักเดินทาง นักท่องเที่ยวในพื้นที่ต่าง ๆ แล้ว เป็นที่น่าจับตาว่าในตลาดรถเช่าระยะสั้น โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้านั้น ได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะกลุ่มผู้เช่าที่มีความสนใจจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าไว้ใช้งาน แต่ยังไม่มั่นใจ จึงนิยมหันมาเช่ารถไฟฟ้าเพื่อทดลองใช้เป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันบริษัทมีตลาดรถเช่าระยะสั้นในสัดส่วนสูงถึง 90% ของรายได้

“ปีนี้แม้ใครจะบอกว่าภาคการท่องเที่ยวไม่ค่อยดีนัก แต่ยังไม่เป็นปัญหาสำหรับซิกท์ เพราะเรายังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยทั้งในตลาดรถเช่าระยะสั้นและรถเช่าลิมูซีน ทำให้เรามั่นใจว่าทั้งปีจะมีรายได้ถึงเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน”

นายภูมนยังกล่าวต่อไปว่า ปีนี้บริษัทได้ทยอยซื้อรถยนต์เข้าพอร์ตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในกลุ่มเครื่องยนต์ ICE และรถยนต์ไฟฟ้า EV มาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ซื้อรถยนต์ฮอนด้าเข้าพอร์ตเพิ่มรวม 72 คัน แบ่งเป็น Honda City Turbo รุ่น SV จำนวน 48 คัน New Honda HR-V e:HEV รุ่น EL จำนวน 24 คัน

ส่วนรถอีวีนั้น บริษัทได้ขยายพอร์ตไปที่รถ XPENG G6 และ ZEEKR X รวมทั้งได้ขยายไปให้บริการส่วนของรถยนต์ไฟฟ้า อย่าง XPENG X9 เพื่อจับกลุ่มลูกค้ารถเช่าระยะสั้นที่ต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้าแบบ MPV

เบื้องต้นทำให้ปีนี้ บริษัทจะอยู่ที่การลงทุนซื้อรถเข้าพอร์ตโดย รถเช่าซิกท์ ทั้งนี้ คาดว่าจะมีรถเช่าในพอร์ตอยู่ที่ราว ๆ 1,500-1,600 คัน ไว้คอยให้บริการ ส่วนแผนการขยายสาขาให้บริการนั้น หลังจากขยายสาขาล่าสุดคือ สาขาวิภาวดี ดอนเมือง เป็นสาขาล่าสุด ส่งผลให้ปัจจุบัน ซิกท์ รถเช่า ประเทศไทย มี 17 สาขาทั่วประเทศ คือ ลาดพร้าว, พระราม 4, พัฒนาการ-ศรีนครินทร์, ระยอง, หาดใหญ่, โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต รีสอร์ท รวมถึงเคาน์เตอร์สนามบินต่าง ๆ ได้แก่ สุวรรณภูมิ, เชียงใหม่, น่าน, อุดรธานี, ขอนแก่น, อุบลราชธานี, ภูเก็ต, กระบี่, สมุย และสุราษฎร์ธานี ซึ่งเชื่อว่ายังเพียงพอสำหรับการให้บริการในปัจจุบัน

“แม้ว่าปีนี้ตลาดท่องเที่ยวอาจจะดูซบเซาไป แต่ซิกท์เรามั่นใจว่าทุกอย่างยังคงเดินต่อไปได้ โดยเฉพาะในกลุ่มของตลาดรถเช่าลิมูซีน และกลุ่มที่ต้องการทดลองเช่าใช้รถยนต์ไฟฟ้า เราเองมีความแข็งแรงพอสมควร จากนี้ไปคงต้องรอดูมาตรการ ทางการท่องเที่ยวของประเทศไทยว่าจะขับเคลื่อนไปในทิศทางใด จะมีอีเวนต์ใหญ่ ๆ เข้ามาใช้รถเช่าลิมูซีนหรือไม่ เพราะเรามีความได้เปรียบในการจัดเตรียม ตลอดการจัดงาน และหากรัฐบาลสามารถโปรโมตการท่องเที่ยวมาได้ เราก็หวังว่าหลาย ๆ อย่างจะกลับมาได้”

นอกจากนี้ ในส่วนของงานบริการหลังการขายนั้น บริษัทจะมุ่งเน้นการต่อยอดพัฒยาแอปพลิเคชั่นรถเช่า ซิกท์ ให้สามารถใช้งานได้ง่าย มีความสะดวกในการจองมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์การให้บริการลูกค้าอย่างวันสต็อปเซอร์วิส มีครบ ทุกประเภทรถยนต์ และการบริการรถเช่า

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.