ออมสินขยายผลโปรเจกต์ ‘ลิบงสุขใจ ออมสินพัฒนา’ สู่ชุมชนเข้มแข็ง-คาร์บอนต่ำ หนุนท่องเที่ยววิถีใหม่ สร้าง Social Impact ให้ชุมชนแล้วกว่า 50,000 ราย
2 ก.ย. 2568 – นายวีระชัย อมรถกลสุเวช รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโส รักษาการผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เผยความก้าวหน้าการดำเนินโครงการพัฒนาชุมชนแบบองค์รวม (Holistic Area-Based Community Development) โครงการที่ 2 ภายใต้ชื่อ “ลิบงสุขใจ ออมสินพัฒนา” ในพื้นที่เกาะลิบง จังหวัดตรัง ครบรอบ 1 ปี ของการดำเนินงาน มีการขยายเป้าหมายการพัฒนาจากเดิม 7 ด้าน เป็น 12 ด้าน เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาและรองรับความต้องการที่จำเป็นของพื้นที่และยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างรอบด้าน ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ทั้งในมิติของการดูแลตนเอง การดูแลชุมชน รวมไปถึงการดูแลสิ่งแวดล้อมและเพิ่มโอกาสทางรายได้
ทั้งนี้ โครงการลิบงสุขใจ ออมสินพัฒนา เป็นการต่อยอดความสำเร็จงานพัฒนาชุมชนแบบองค์รวม โครงการที่ 1 “ออมสินฮ่วมใจ๋ฮักขุนน่าน” ที่การันตีความสำเร็จด้วยรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ปี 2567 (รางวัลการดำเนินงานอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมดีเด่น) โดยธนาคารกำหนดใช้แนวคิดนี้ในการทำงานพัฒนาชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อขยายผลการสร้าง Social Impact อย่างต่อเนื่อง ให้กับชุมชนแล้วกว่า 50,000 ราย
โครงการ “ลิบงสุขใจ ออมสินพัฒนา” ด้วยแนวคิด “ต้นแบบชุมชนคาร์บอนต่ำ” (Low Carbon Island) ตั้งเป้าหมายยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดี สิ่งแวดล้อมน่าอยู่ และเศรษฐกิจเติบโตไปพร้อมกัน โดยวางแผนการพัฒนาครอบคลุม 12 ด้าน ประกอบด้วย 1. Low Carbon 2. ยกระดับการท่องเที่ยว 3. การจัดการน้ำ 4. การแพทย์และสาธารณสุข 5. ส่งเสริมอาชีพ/สร้างรายได้ 6. ส่งเสริมความรู้ทางการเงิน 7. ส่งเสริมการออมทรัพย์ 8. การสนับสนุนแหล่งเงินทุน 9. แก้ไขปัญหาหนี้สิน 10. สถานศึกษาและการเรียนรู้ 11. การทำนุบำรุงศาสนา และ 12. คุณภาพชีวิต เพื่อตอบโจทย์คนในชุมชนที่ปัจจุบันโครงสร้างประชากรส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้สูงวัย ให้ได้รับโอกาสในการเข้าถึงความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ควบคู่กับการปลูกฝังจิตสำนึกส่งเสริมการดูแลรักษาถิ่นเกิด
ทั้งการเข้าถึงบริการสุขภาพและสวัสดิภาพที่รวดเร็วขึ้น การมีแหล่งน้ำที่มีคุณภาพและเพียงพอสำหรับใช้อุปโภคบริโภคตลอดปี ที่สำคัญคือการสร้างรายได้เพิ่มจากการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ซึ่งเกาะลิบงมีจุดแข็งด้านการท่องเที่ยวที่ยังถูกหลงลืม แต่มีศักยภาพเพียงพอสำหรับการยกระดับรายได้ให้คนในชุมชนซึ่งทั้งเกาะเป็นวิถีชีวิตชาวมุสลิม และปรับปรุงมาตรฐานผู้ประกอบการโฮมสเตย์ ส่งเสริมการตลาดขยายการท่องเที่ยว ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อม ด้วยการจัดการขยะอย่างเป็นระบบ การสนับสนุนพลังงานทดแทน และการเพิ่มพื้นที่สีเขียว
นอกจากนี้ ธนาคารได้ส่งเสริมให้ชุมชนมีการออมรูปแบบกลุ่ม อาทิ กลุ่มประมง กลุ่มเรือข้ามฟาก และกลุ่มรถซาเล้งโดยสาร รวมถึงส่งเสริมการออมเยาวชนกับธนาคารโรงเรียน เพื่อให้ชุมชนใส่ใจการออมและการบริหารจัดการเงินส่วนบุคคล
ทั้งนี้ ปัจจุบัน โครงการมีความคืบหน้ามากกว่า 60% โดยการปฏิบัติงานนำโดยทีมงานของธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ ร่วมกับหน่วยพัฒนาสังคมและชุมชน สังกัดธนาคารออมสินภาค 17 หน่วยงานภาคีที่เข้าร่วมบูรณาการองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญการพัฒนาแต่ละด้าน อาทิ กรมการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยมหิดล มทร.ศรีวิชัย เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง สาธารณสุขจังหวัดตรัง OKMD และ UNICEF
ผลงานความก้าวหน้าด้านที่สำคัญ เช่น การผลิตน้ำที่มีคุณภาพสำหรับอุปโภคบริโภคเปลี่ยนน้ำเค็มเป็นน้ำจืด การขุดเจาะบ่อบาดาลพร้อมถังเก็บน้ำสำหรับทั้งเกาะครอบคลุม 4 หมู่บ้าน การสนับสนุนเรือพยาบาลฉุกเฉิน “เรือออมสินชีพรักษ์” และสร้างหน่วยกู้ชีพฉุกเฉินเพื่อให้บริการทางการแพทย์ได้ทันท่วงที การติดตั้งระบบพลังงานทดแทนโซล่าร์เซลล์ส่องสว่าง การพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนให้มีรายได้เพิ่มขึ้น 20% และผู้ประกอบการโฮมสเตย์ มีรายได้เพิ่มขึ้น 34% ตลอดจนด้านสิ่งแวดล้อมที่อยู่ระหว่างวางแผนริเริ่มให้ชุมชนมีการจัดการขยะอย่างเป็นระบบ การฟื้นฟูระบบนิเวศด้วยการปลูกหญ้าทะเล การปลูกป่าเพื่อขยายพื้นที่สีเขียว เป็นต้น โดยยังมีกิจกรรมการพัฒนาที่อยู่ระหว่างดำเนินการในระยะที่ 2 เพื่อขยายผลการพัฒนาสู่เป้าหมายระยะถัดไป ในการขับเคลื่อนสู่การเป็นชุมชนคาร์บอนต่ำได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อให้ชาวเกาะลิบง จังหวัดตรัง สามารถพึ่งพาตนเองได้และมีคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนต่อไป