วันที่ 5 ก.ย.2568 น.ส.อัญญ์มาลี สิรินวงษ์ อายุ 30 ปี แม่ค้าออนไลน์ชาวจังหวัดอุบลราชธานี ได้เดินทางเข้าร้องเรียนต่อ ดร.ปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ “ดร.แก้ว” ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจ “ดร.แก้วช่วยได้” หลังอ้างว่าถูก “เฮียเป้ง” หรือนายนิวัฒน์ อายุ 50 ปี นายทุนเงินกู้ออนไลน์และอดีตเจ้านายเก่า เอาเปรียบจากการกู้ยืมเงินโดยใช้รถยนต์ค้ำประกัน แต่กลับไม่ยอมคืนรถ พร้อมยังอ้างมีเส้นสายตำรวจในพื้นที่จนไม่เกรงกลัวกฎหมาย

น.ส.อัญญ์มาลี  ผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ค.2566 เวลา 21.00 น. ได้นำรถยนต์ยี่ห้อ MG5 สีขาว ทะเบียน ขง 1772 อุบลราชธานี ไปจอดค้ำประกันเงินกู้จำนวน 90,000 บาทกับนายนิวัฒน์ หรือ “เฮียเป้ง” บริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านนนทบุรี แต่ได้รับเงินจริงเพียง 78,000 บาท เนื่องจากถูกหักค่าจอด 3,000 บาท ค่าเอกสาร 1,000 บาท และดอกเบี้ยล่วงหน้าอีก 9,000 บาท โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน ทั้งที่ในสัญญาไม่ได้กำหนดชัดเจนว่าจะหลุดจำนำภายในกี่เดือน หากมีการชำระดอกเบี้ยต่อเนื่องก็สามารถต่อสัญญาได้ ตนจึงชำระดอกเบี้ยมาโดยตลอด โดยวันที่ 30 ก.ค.2566 ได้โอนชำระ 9,000 บาท ตามสัญญา ก่อนที่จะรวบรวมเงินกว่า 112,000 บาท เพื่อมาไถ่ถอนรถคืนในเดือนสิงหาคม แต่กลับพบว่ารถถูกนำไปใช้งานส่วนตัวตั้งแต่วันส่งมอบ เนื่องจากตรวจสอบผ่านระบบ i-Smart ของศูนย์ MG แล้วพบความผิดปกติ

เมื่อตนติดต่อขอไถ่ถอนรถคืน เฮียเป้งกลับอ้างว่าให้โอนเงินมาก่อนแล้วจะนำรถมาส่งคืนภายใน 2–3 วัน ซึ่งสร้างความไม่มั่นใจเพราะเลขบัญชีที่ให้โอนเป็นบัญชีผู้อื่นที่เสี่ยงจะถูกโกง  โดยต่อมาวันที่ 7 กันยายน 2566 ตนและแม่ได้เตรียมเงินไปเพื่อขอไถ่ถอน แต่เมื่อไปถึงกลับถูกปฏิเสธไม่ให้นำรถกลับ โดยเฮียเป้งบอกเพียงว่าให้โอนเงินแล้วรอรับรถเองภายหลัง นอกจากนี้ยังพบการท้าทายจากเฮียเป้งว่า “ไปแจ้งความได้เลย เขาไม่กลัว เพราะตำรวจนนทบุรีเคลียร์ได้หมด”  และอ้างอีกว่าตัวเขาเป็นเพียงคนกลางเท่านั้น รถยนต์ไม่ได้อยู่ที่ตัวเขา ตนจึงเดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.บางใหญ่ วันนั้นเลยตามคำท้า  แต่กลับมีเพียงการลงบันทึกประจำวันโดยไม่มีการออกหมายเรียกหรือสืบสวนคดีแต่อย่างใด ต่อมาแม่ตนต้องเข้าร้องต่อสำนักงานยุติธรรมจังหวัดอุบลราชธานี มีการทำหนังสือถึง สภ.บางใหญ่ แต่คดีก็ยังไร้ความคืบหน้า ขณะที่ตนยังสูญเงินเพิ่ม ทั้งจากการว่าจ้างนักสืบ รวมถึงการเสียเงินให้เจ้าหน้าที่บางนายที่อ้างจะช่วยเหลือแต่ไม่เป็นผล จนกระทั่งเมื่อวันที่ 1 พ.ย.2567 ตนและแม่เดินทางมาเจรจาที่นนทบุรี ตามที่ตำรวจนัดหมาย โดยมีการพบกับเฮียเป้งแต่เขากลับไม่คืนรถ และบอกให้ไปตามหารถเองจาก GPS

น.ส.อัญญ์มาลี กล่าวทั้งน้ำตาว่า ความเดือดร้อนนี้ส่งผลกระทบหนักต่อครอบครัว แม่ที่มีอายุมากเกิดความเครียดจนสุขภาพทรุด ส่วนตนเองเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษ ความดันสูง ต้องผ่าคลอดก่อนกำหนดเมื่อวันที่ 10 พ.ย.2567 แม้จะพยายามต่อสู้ทุกทาง แต่กลับถูกปฏิเสธและเพิกเฉย จึงจำเป็นต้องหันมาพึ่งพาสื่อเป็นทางออกสุดท้ายเพื่อให้ความจริงปรากฏและนำไปสู่การเอาผิดนายทุนรวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

ด้าน ดร.ปรเมศร์ หรือ “ดร.แก้ว” ระบุว่า เรื่องนี้ถือเป็นความไม่ชอบธรรมอย่างยิ่ง เนื่องจากแม้การปล่อยเงินกู้จะเป็นการทำมาหากิน แต่หากมีการฉ้อโกงโดยไม่คืนรถเมื่อถึงกำหนดไถ่ถอน ตำรวจจำเป็นต้องเข้ามาควบคุมและดำเนินคดี ไม่ใช่ปล่อยให้เรื่องเงียบหายมานานกว่า 2 ปี พร้อมยืนยันว่าจะเร่งรัดตำรวจในพื้นที่ โดยเฉพาะ สภ.บางใหญ่ และตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ให้ดำเนินการอย่างจริงจัง เพื่อคืนรถแก่ผู้เสียหายโดยเร็ว และดำเนินคดีเอาผิดทั้งต่อนายทุนผู้เอาเปรียบและเจ้าหน้าที่รัฐที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ขณะเดียวกันขณะนี้มีคำสั่งยึดทรัพย์ออกมาแล้ว และอยู่ระหว่างการสืบทรัพย์ ขณะที่ไฟแนนซ์ก็ได้ฟ้องแพ่งควบคู่ไปด้วย โดยยืนยันว่าจะช่วยเหลือผู้เสียหายจนถึงที่สุดเพื่อให้ได้รับความยุติธรรม