ศาลฎีกานัด 9ก.ย.ชี้ชะตา‘ทักษิณ’คดีชั้น14 จับตา เจ้าตัวจะมาฟังหรือไม่หลังบินดูไบ
ข่าวสด September 05, 2025 08:21 PM

ศาลฎีกาฯนัดชี้ชะตา ‘ทักษิณ’ คดีรักษาตัวชั้น 14 สิบโมงเช้าวันที่ 9 ก.ย.นี้ เจ้าตัวยืนยันมาฟังคำสั่งด้วยตัวเองอย่างแน่นอน แม้บินไปรักษาตัวที่ดูไบ

เมื่อวันที่ 5 ก.ย.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 9 ก.ย. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำสั่งบังคับโทษถึงที่สุดหรือไม่ของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากกรณีที่เดินทางกลับเข้ามายังประเทศไทยเมื่อปี 2566 ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปรับโทษ

ในวันเดียวกันหลังจากที่นายทักษิณ ถูกควบคุมตัวก็ถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาลตำรวจ ทันทีเนื่องจากมีอาการฉุกเฉิน ก่อนที่ระหว่างการพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจจะได้รับการพระราชทานอภัยโทษจากเดิมที่โทษจำคุก 8 ปี เหลือ 1 ปี และได้รับการพักโทษเมื่อวันที่ 18 ก.พ.2567

ทั้งนี้ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ เคยยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2566 และเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2567 ศาลมีคำสั่งยกคำร้องทัังสองเรื่องโดยไม่ต้องไต่สวน โดยให้เหตุว่าเมื่อศาลออกหมายจำคุก เมื่อคดีถึงที่สิ้นสุดไปแล้ว การบังคับโทษและอนุญาตให้ส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ เป็นอำนาจหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์

ปัญหาว่าเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ปฏิบัติชอบด้วยกฎหมายหรือไม่นั้น ไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาล จึงไม่ต้องไต่สวนให้ยกคำร้อง ได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อขอให้ศาลไต่สวนกรณีที่กรมราชาทัณฑ์อนุญาตให้ตัวนายทักษิณ ที่เดิมถูกตัดสินจำคุก 8 ปี และได้รับพระราชทานอภัยโทษเหลือ 1 ปี เข้ารับการรักษายังห้องพักชั้น 14 ที่โรงพยาบาลตำรวจ

นายชาญชัยเห็นว่าการกระทำดังกล่าวอาจขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 89, 89/2(1) (2) และมาตรา 246 และไม่อาจอ้างกฎกระทรวง เรื่องการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ. 2563 ลงวันที่ 25ก.ย. 2563 ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 55 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 เพราะขัดต่อบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

โดยศาลฎีกาฯ ได้นัดฟังคำสั่งคำร้องของนายชาญชัยในครั้งนี้ วันที่ 30 เม.ย.2568 ก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งยกคำร้องของนายชาญชัย เนื่องจากเจ้าตัวไม่ได้เป็นคู่ความและผู้เสียหายของคดีนี้ โดยศาลฎีกาจะเป็นผู้ไต่สวนเอง ก่อนนัดไต่สวนผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษคนปัจจุบันอย่างนายมานพ ชมชื่น ในวันที่ 13 มิ.ย. เกี่ยวกับข้อเท็จจริงของขั้นตอนการส่งตัวผู้ป่วยไปรักษานอกเรือนจำ ก่อนที่จะออกหมายเรียกพยานมาไต่สวนหลังจากนั้นทั้งหมด 20 ปาก

การไต่สวนพยานเริ่มขึ้นในเดือนกรกฎาคม โดยแบ่งเป็น วันที่ 4 ก.ค. เป็นการไต่สวนกลุ่มแพทย์และพยาบาลเวรของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ จำนวน 5 ปาก วันที่ 8 ก.ค. เป็นการไต่สวนพัศดีเวรและผู้ควบคุมตัวนายทักษิณทั้งหมด 9 ปาก

ต่อมาเป็นพยานกลุ่มผู้บริหารกรมราชทัณฑ์จำนวน 6 ปาก ในวันที่ 15 ก.ค. 18 ก.ค. เป็นพยานกลุ่มแพทย์ของโรงพยาบาลตำรวจจำนวน 6 ปาก และในวันที่ 25 ก.ค. เป็นการไต่สวนพยานกลุ่มบุคลากรของแพทยสภาจำนวน 3 ปาก

ต่อมาทีมทนายความของนายทักษิณ ได้เบิกตัวพยานของฝ่ายจำเลยขึ้นมาไต่สวนจำนวน 1 ปาก ในวันที่ 30 ก.ค. คือ ศ.ดร.วิษณุ เครืองาม นักกฎหมายและอดีตรองนายกรัฐมนตรีขึ้นไต่สวนเป็นพยานปากสุดท้าย

ภายหลังจากที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไต่สวนพยานทุกปากเสร็จสิ้น ศาลได้นัดวันฟังคำสั่งเป็นวันที่ 9 ก.ย. เวลา 10.00 น. โดยออกหมายเรียก นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษคนปัจจุบัน รวมถึงตัวนายทักษิณ เข้ามาฟังคำสั่งในวันดังกล่าวด้วย

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 22 ส.ค. นายทักษิณ ได้เข้าฟังคำพิพากษาคดีสำคัญของเจ้าตัวอีก 1 คดีคือ คดีที่ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 กรณีเมื่อเดือน พ.ค. 2558 นายทักษิณ ให้สัมภาษณ์สื่อทีวีประเทศเกาหลีใต้ พาดพิง สถาบันพระมหากษัตริย์ ก่อนที่ศาลจะพิพากษายกฟ้องเจ้าตัวในคดีนี้

ความผิดดังกล่าวทำให้นายทักษิณ ไม่สามารถเดินทางออกไปนอกประเทศได้ หลังจากถูกยกฟ้องทำให้สามารถเดินทางออกนอกประเทศ

กระทั่งเมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา มีคนพบนายทักษิณ ที่สนามบินดอนเมืองพร้อมคนสนิท 5 ราย เจ้าตัวบอกว่าจะเดินทางไปตรวจสุขภาพที่ประเทศสิงคโปร์ ก่อนที่ในระหว่างทางจะเปลี่ยนเส้นทางเดินทางไปรักษาตัวที่นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์แทน

โดยให้เหตุผลว่าก่อนเดินทางถูกเจ้าหน้าที่ ตม.กักตัวไว้ 2 ชั่วโมงทำให้ไม่สามารถนำเครื่องบินลงจอดที่สนามบินในประเทศสิงคโปร์ได้ จึงเปลี่ยนแผนบินไปรักษาตัวที่นครดูไบที่เจ้าตัวมีหมอกระดูกที่เป็นคนไข้ประจำอยู่ที่นั่น ซึ่งมีหลายฝ่ายกังวลว่าจะเจ้าตัวจะหลบหนีหรือไม่

ทั้งนี้นายทักษิณและคนใกล้ชิด ยืนยันว่าจะเดินทางกลับมายังประเทศไทยไม่เกินวันที่ 8 ก.ย. และนายทักษิณ จะเข้าฟังการนัดฟังคำสั่งของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วยตนเองอย่างแน่นอน

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.