ทส. เปิดเวทีสื่อสารเชิงรุกฯ แก้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนป่าไม้แก่น-นิคมสหกรณ์บาเจาะ ด้านกรมป่าไม้ มั่นใจ พร้อมเร่งรัดดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว
6 ก.ย. 68 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมป่าไม้ ได้จัดงาน “สื่อสารเชิงรุกถ่ายทอดข้อมูลสู่ประชาชนในการแก้ไขปัญหาพื้นที่ทับซ้อนระหว่างป่าสงวนแห่งชาติ ป่าไม้แก่น จังหวัดปัตตานีและนิคมสหกรณ์บาเจาะ จังหวัดนราธิวาส ท้องที่จังหวัดปัตตานี” มีกิจกรรมที่สำคัญได้แก่ การชี้แจงแนวทาง แก้ไขปัญหาพื้นที่ทับซ้อนระหว่างป่าสงวนแห่งชาติ ป่าไม้แก่น และนิคมสหกรณ์บาเจาะ, พิธีมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยทำกินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ, การมอบหนังสืออนุญาตให้หน่วยงานราชการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้, การมอบประกาศเกียรติคุณให้มัสยิดที่มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ และการมอบเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ รักษ์ป่า รักแผ่นดิน ให้ผู้ช่วยเหลือราชการกรมป่าไม้
ในการจัดงานครั้งนี้ นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ ได้มอบหมายให้ ดร.พงศ์พยัคฆ์ ศรียา รองอธิบดีกรมป่าไม้ เป็นประธานเปิดงาน นายสนั่น สนธิเมือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวต้อนรับ โดยมีผู้บริหารกรมป่าไม้ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชน เข้าร่วม ณ โรงเรียนดรุณศาสน์วิทยา อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี
ทั้งนี้ แนวทางการแก้ไขปัญหาพื้นที่ทับซ้อนดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มุ่งเน้นบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนและเป็นธรรม และมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ อันเนื่องมาจากการทับซ้อนระหว่างพื้นที่รัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่ส่งผลต่อการดำรงชีวิตของพี่น้องประชาชน
กิจกรรมที่กรมป่าไม้จัดขึ้น ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เห็นว่า หน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาพื้นที่ทับซ้อนให้กับพี่น้องประชาชน สำหรับพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยังคงพบปัญหาการทับซ้อนของพื้นที่ระหว่างป่าสงวนแห่งชาติ ป่าไม้แก่น และนิคมสหกรณ์บาเจาะ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ที่ผ่านมากรมป่าไม้ได้ดำเนินการแก้ไขมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี พ.ศ. 2530 ได้เพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อดำเนินการนิคมสหกรณ์บาเจาะ แต่อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันพบว่า ยังมีแนวเขตทับซ้อนกันอยู่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงมาสร้างความเข้าใจให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาที่ดินทับซ้อนดังกล่าว
กรมป่าไม้ไม่ได้นิ่งนอนใจ และกำลังเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา โดยจะมีการสำรวจข้อเท็จจริงในพื้นที่ เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาปรับปรุงแนวเขตและเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อคืนสิทธิให้กับพี่น้องประชาชนที่ควรจะได้รับตามเจตนารมณ์ของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และพร้อมปฏิบัติหน้าที่เพื่อดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้มีวิถีชีวิตที่ดีขึ้น
ที่ผ่านมากรมป่าไม้ได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาพื้นที่ทับซ้อน ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนมาหลายพื้นที่ โดยครั้งนี้ได้มาดำเนินการในจังหวัดปัตตานี ซึ่งกรมป่าไม้จะเร่งรัดดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว นอกจากจะมาแก้ไขปัญหาพื้นที่ทับซ้อนแล้ว ยังจัดให้มีการมอบสมุดประจำตัว ให้แก่ผู้ที่ได้รับการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยทำกินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 ให้แก่ราษฎรจำนวน 125 ราย เนื้อที่ประมาณ 542 ไร่ ราษฎรจะได้อยู่อาศัยทำกินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติอย่างถูกต้อง หน่วยงานต่าง ๆ สามารถเข้าไปพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานได้ ทำให้มีถนน ไฟฟ้า และมีน้ำประปาใช้ พี่น้องประชาชนจะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น