วันที่ 7 กันยายน 2568 ประชาชนชาวจังหวัดสระบุรีแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการที่รัฐบาลยุค นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการที่ทางพรรคภูมิใจไทย จะนำเรื่องของโครงการ “คนละครึ่ง”ขึ้นมาปัดฝุ่นใหม่เพื่อที่จะให้ประชาชนใช้ เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากในปัจจุบัน พร้อมฝากถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกคนใหม่ป้ายแดงว่าช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ซบเซามาเป็นเวลานาน
จากกรณีนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ ถึงกระแสข่าว เรื่องการฟื้นโครงการคนละครึ่งในรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค รวมถึงทีมงาน ด้านนโยบาย มีการพูดถึงมาตรการที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น หนึ่งในนั้น คือโครงการ “คนละครึ่ง” ซึ่งถือเป็นนโยบายที่ได้รับการพิจารณา แต่หากนำกลับมาใช้ก็อาจไม่ใช่รูปแบบเดิมทั้งหมด อาจมีสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมให้ครอบคลุมและตอบโจทย์มากขึ้น
ทางด้านนายจตุรงค์ ศรีวัน พ่อค้าขายผักตลาดวงษ์ทอง เผยว่าตนเองเห็นว่าเป็นโครงการที่ดี เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ประชาชนให้ดีขึ้น เนื่องจากว่าช่วงนี้บริเวณตลาดเงียบมาก มีคนเดินแต่ไม่ค่อยจะซื้อของ ตนเองอยากให้โครงการคนละครึ่งกลับมาใช้ใหม่ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนในเรื่องนายกคนใหม่ ตนเองไม่ได้คาดหวังอะไรมาก แต่อยากที่จะให้ทำอะไรที่ใหม่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม คิดว่านายกคนใหม่น่าจะทำอะไรที่ไม่เหมือนเดิมคิดว่าน่าจะทำอะไรที่มันใหม่ขึ้นมาคิดว่าเศรษฐกิจน่าจะดีขึ้นกว่าเดิม และขอให้นายกสู้ สู้ ช่วยทำทุกอย่างให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้
ด้านนายอุทัย ไพรสนธิ์ อายุ 66 ปี พ่อค้าขายอาหารตามสั่ง เล่าว่า ตนเองคิดว่าเป็นสิ่งที่ดี เนื่องจากว่าช่วงนี้แต่ละวันขายของได้เพียง 600-700 บาท ซื้อของลงทุนก็หมดแล้ว โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ซึ่งทุกวันนี้ขายของก็เงียบเหงาลงทุกวัน ส่วนความคาดหวังกับนายก คนใหม่ตนเองไม่ได้คาดหวังอะไรมากรู้สึกเฉยๆ เนื่องจากที่ผ่านๆมากี่คนๆ ก็เหมือนเดิมตนเองก็ยังคงจะต้องค้าขายอยู่เหมือนเดิม ตนเองอยากให้นายกคนใหม่ช่วยเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ช่วยประชาชนชาวรากหญ้าบ้างทุกวันนี้ลำบากกันเหลือเกิน ข้าวของก็แพง ซึ่งไม่มีการควบคุมสินค้าอะไรเลยทุกอย่างราคาสูงหมด ทุกวันนี้ขายองก็ได้พอซื้อกับข้าวกินไปวันๆ ทุกวันนี้จิตใจมันด้านไปแล้ว แต่ก็ดีกว่าอยู่บ้านเพราะอยู่บ้านก็ไม่มีอะไรจะกิน ซึ่งถ้ารัฐบาลช่วยได้ก็ดี
ด้านนายปัญญา วารีริน อายุ 67 ปีชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ตนเองเห็นว่าการที่รัฐบาลจะนำโครงการ คนละครึ่ง มาใช้ตนเองเห็นว่าเป็นการที่ดี จะได้กระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ประชาชนก็จะได้รับการช่วยเหลือครึ่งหนึ่ง และออกเองอีกครึ่งหนึ่ง และเป็นการลดค่าใช้จ่ายของประชาชนในครัวเรือน ตนเองก็ยังไม่มั่นใจว่ามันจะมีอีกเหรอ อยากให้เกิดขึ้นจริงๆจะได้เป็นการกระจายรายได้กันไปทั่ว ส่วนตัวอยากให้นายกคนใหม่เข้ามาช่วยเหลือประชาชน และดูแลประชาชนกันบ้าง เนื่องจากตอนนี้เศรษฐกิจมันแย่มาก