หนุ่มแค้นจัด โดนด่าเป็นขี้ยา วางเพลิงเผาบ้าน-รถเก๋งพยาบาล ร้านชำหน้าบ้านก็โดนด้วย เสียหายกว่า 2 ล้าน พยายามชิงรถชาวบ้านหนี
เมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 10 ก.ย.68 พ.ต.ท.รัชพล โมรารัตน์ สว.(สอบสวน) สภ.ย่อยนาข่า จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งจาก นายไพบูลย์ ดวงตาโพธิ์ สารวัตรกำนันตำบลนากว้าง ว่ามีเหตุคนร้ายวางเพลิงเผาทรัพย์ บ้าน 2 หลัง ภายในบ้านเชียงพัง หมู่ 2 ต.นากว้าง อ.เมือง จ.อุดรธานี
โดยหลังแรกที่บ้านสวนไม่มีเลขที่ อยู่ท้ายหมู่บ้าน เสียหายทั้งหลังพร้อมด้วยรถเก๋ง 1 คัน และร้านที่สองเป็นร้านขายของชำ ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ได้รับความเสียหายบางส่วน ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ นายอนุชา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี ซึ่งมีบ้านอยู่ตรงข้ามกับร้านชำ หลังก่อเหตุได้ขี่รถจยย.หลบหนีไป
ต่อมาเวลาประมาณ 09.00 น.วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ย่อยนาข่า ก็ได้รับแจ้งจาก ผญบ.บ้านเม่น ต.บ้านขาว อ.เมือง จ.อุดรธานี และชาวบ้าน ว่าพบตัว นายอนุชา กำลังพยายามจะลักรถจยย.พ่วงข้างของชาวบ้านเพื่อหลบหนี ชาวบ้านจึงช่วยกันควบคุมตัวไว้ได้ ตำรวจจึงนำตัว นายอนุชา มาสอบสวน
จากการสอบสวน นายอนุชา ให้การรับสารภาพว่า ตนอาศัยอยู่บ้านตรงข้ามกับร้านขายของชำของ นายบุญนาค สุขมานพ อายุ 46 ปี และบ้านของนางพยาบาล โดยอยู่อาศัยอยู่ที่บ้านเพียงคนเดียว ส่วนพ่อตายแม่ไปมีสามีใหม่ สาเหตุที่ตนลงมือเผาบ้านของนางพยาบาลเพราะว่า เขากล่าวหาว่าตนเสพยาบ้า ส่วนสาเหตุที่เผาร้านขายของชำเพราะแค้นที่เจ้าของร้านจ้างคนมาฆ่าตน เมื่อคืนนี้ตนเดินไปบ้านสวนของนางพยาบาล แล้วทุบกระจกข้างบ้าน เข้าไปจุดไฟเผา จากนั้นก็ทุบกระจกรถจุดไฟเผารถเก๋งแล้วก็เดินกลับมาบ้าน
นายอนุชา ให้การต่อไปว่า หลังจากนั้นตนก็เดินไปจุดไฟเผาร้านขายของชำ จุดจนไฟลุกไหม้ที่หน้าบ้าน ตนมองดูไฟลุกไหม้ แล้วจึงเดินหนีเพราะมีชาวบ้านขับรถผ่านไปมา จากนั้นก็ยืมรถนายดำเพื่อนบ้านขี่หลบหนีไป โดยแวะเติมน้ำมันขี่หนีไปแบบไม่มีจุดหมาย พอน้ำมันหมดก็จอดรถ แล้วเดินไปเรื่อยๆ เห็นชาวบ้านขี่รถซาเล้งมาหาปลา ตนก็ทำทีเข้าไปขอน้ำดื่ม จากนั้นก็ชิงรถซาเล้งขี่หลบหนีไป จนถูกจับตัวได้ ซึ่งตอนก่อเหตุตนไม่ได้เสพยาบ้า ตนเคยเสพยาบ้าแต่เลิกแล้ว
“ครั้งแรกว่าจะเผาบ้านของพยาบาลอีกหลัง ที่อยู่หน้าบ้านด้วย แต่คิดไปคิดมาก็สงสารที่ยายซึ่งเป็นแม่ของพยาบาล อาศัยอยู่ในบ้านพูดกับตนว่ายอมตนหมดทุกอย่างแล้ว ทำให้ตนใจอ่อนจึงไม่เผา แต่ก็ยอมรับว่าทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ พอเผาบ้านแล้ว ก็รู้สึกผิดอยากขอโทษในสิ่งที่ตนทำลงไป ตนได้ขอโทษและกราบผู้เสียหายแล้ว”
น.ส.เครือวัลย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี พยาบาลวิชาชีพ สนง.เขตสุขภาพที่ 8 อุดรธานี กล่าวว่า ตนมีบ้าน 2 หลัง หลังแรกอยู่ติดกับร้านขายของชำและบ้านผู้ก่อเหตุ และหลังนี้เป็นบ้านสวน ปกติจะอยู่ทั้งสองหลัง แบบไปๆ มาๆ ทำให้บ้านหลังนี้มีทรัพย์สินในบ้านจำนวนมาก และก่อนหน้านี้ตนจะอยู่กับลูกสาว แต่ลูกสาวไปเรียนที่ กทม. ตนก็อยู่คนเดียว ก็จะมีพี่สาวและหลานมานอนเป็นเพื่อน แต่ส่วนมากก็จะอยู่ที่นี่เพราะทำสวนปลูกผัก ก่อนเกิดเหตุ ตนเดินทางไปราชการที่ กทม. พี่สาวไม่ได้มานอนเฝ้าบ้านให้ มีชาวบ้านมาพบว่าไฟไหม้บ้านและรถเก๋ง จึงมาช่วยกันดับ พี่สาวได้โทรมาบอกตนก็รีบกลับมาดูบ้าน พอมาเห็นบ้านแล้วช็อค อธิบายไม่ถูก ก็รู้สึกเสียใจ ตนไม่รู้ว่าเขาก่อเหตุเพื่ออะไร
น.ส.เครือวัลย์ กล่าวต่อไปว่า คนก่อเหตุมีบ้านอยู่ตรงข้ามกับบ้านตน ฟังที่เขาเล่าว่าเขาติดยาเสพติด ปกติตนจะไม่ได้ไปสุงสิงพูดคุยกับเขา สำหรับความเสียหายคร่าวๆ ประมาณ 2 ล้าน
“ฝากถึงคนก่อเหตุ ตนไม่รู้ว่าเขาก่อเหตุเพราะอะไร หรือฤทธิ์ยาบ้าก็ตาม อาจจะไม่รับรู้ ไม่รู้สึกผิดอะไร แต่ฝากถึงเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สื่อ ที่เกี่ยวกับยาเสพติด อยากให้เข้ามาดูแล เพราะว่าจะได้ไม่เป็นปัญหาของสังคม ของหมู่บ้าน เพราะตอนนี้เด็กที่ติดยาเสพติดในหมู่บ้านก็เยอะ ส่วนของหนูมันสูญเสียไปแล้ว แต่ก็ไม่อยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับคนอื่นอีก ตนไม่ถึงกับหมดตัว เพราะมีอาชีพ แต่เป็นเงินที่หามาและสะสมมาทั้งชีวิตตนภูมิใจมาก เวลาโพสต์คลิปลงเฟซบุ๊กรู้สึกภูมิใจมากกับบ้านหลังนี้ เพราะมาจากน้ำพักน้ำแรง ก็เสียใจ”