จับตา ศึกชิงซ่อมสส.เขต 7 เชียงราย วันอาทิตย์นี้ ‘เพื่อไทย-พรรคประชาชน’ลุยหาเสียงต่อเนื่อง เลขาฯกกต.ห่วงคนออกมาใช้สิทธิ์น้อย เหตุสภาอายุสั้นลง
วันที่ 12 ก.ย.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งซ่อม สส.เขตเลือกตั้งที่ 7 เชียงราย แทนนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 14 ก.ย.นี้ว่า ผู้สมัครมี 2 คน จากตัวแทน 2 พรรคใหญ่ คือ หมายเลข 1 นายสง่า พรมเมือง ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย และ หมายเลข 2 นายสุทัศน์ ยาละ ผู้สมัครของพรรคประชาชน ยังคงเดินหน้าขอคะแนนเสียงเต็มที่
แม้การเมืองใหญ่จะมีการเปลี่ยนแปลงนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี และคาดว่าเหลือเวลาอีกไม่นานของการดำรงวาระ ซึ่งอาจมีการยุบสภาเพื่อให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่
โดยนายสง่า ยังคงใช้กลยุทธ์หาเสียง ด้วยการลงพบปะประชาชนตามชุมชนและในหมู่บ้าน ตลอดจนร่วมงานกิจกรรมต่างๆ ของประชาชนในหมู่บ้าน ตำบล และอำเภอเป็นหลัก เพื่อดึงฐานคะแนนเสียงให้กับตัวเอง
ส่วนนายสุทัศน์ เน้นการพบปะประชาชนตามย่านชุมชน ร้านค้า ตลาดที่มีผู้คนอาศัยอยู่พลุกพล่าน สลับกับการเข้าถึงประชาชนตามชุมชน โดยใช้รถออกปราศรัยหาเสียง แต่ทั้ง 2 พรรคยังไม่มีการจัดเวทีปราศรัยใหญ่ หรือมีผู้ใหญ่ของแต่ละพรรคลงพื้นที่มาช่วยหาเสียง
สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 7 เชียงราย ประกอบด้วย อำเภอแม่จัน (เฉพาะตำบลจันจว้า และตำบลจันจว้าใต้) อำเภอเชียงแสน อำเภอดอยหลวง อำเภอเชียงของ (เฉพาะตำบลครึ่ง ตำบลศรีดอนชัย ตำบลริมโขง ตำบลเวียง ตำบลสถาน และตำบลห้วยซ้อ) และอำเภอเวียงแก่น โดยกกต.จัดให้ลงคะแนนเลือกตั้งซ่อมสส. ในวันอาทิตย์ที่ 14 ก.ย.2568 ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. กล่าววา ในช่วงนี้จะมีการจัดเลือกตั้งซ่อมสส. 3 จังหวัดคือเชียงราย ศรีสะเกษและกาญจนบุรี แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยวันที่ 14 ก.ย. จะเลือกตั้งซ่อมสส.เขต 7 เชียงราย ซึ่งตนจะลงพื้นที่ไปร่วมสังเกตการณ์ เท่าที่ได้รับรายงานสถานการณ์เรียบร้อยดี การหาเสียงและสภาพอากาศไม่มีอะไรหนักใจ น้ำไม่ได้ท่วม
ส่วนที่จ.ศรีสะเกษ จะมีการเลือกตั้งซ่อมในวันที่ 28 ก.ย. แม้จะเป็นจังหวัดที่ติดชายแดน แต่ไม่ใช่พื้นที่ปะทะ ตอนนี้ประชาชนกลับเข้าบ้านเรือนทุกครอบครัวแล้ว ส่วนความพร้อมของประชาชนและเจ้าหน้านั้น เจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องความมั่นคงได้ให้ความมั่นใจว่าสามารถเลือกตั้งได้ จึงได้ประกาศวันเลือกตั้ง สำหรับในจ.กาญจนบุรีนั้น กกต.ได้มีหนังสือถึงคณะรัฐมนตรีเพื่อเสนอเป็นพระราชกฤษฎีกาไปแล้ว
“ยอมรับกังวลเรื่องคนไปใช้สิทธิ์ ทั้งที่เชียงราย ศรีสะเกษ หรือกาญจนบุรี หากอายุสภาฯสั้น คนจะไปใช้สิทธิ์มากเท่าที่เราตั้งไว้หรือไม่ ซึ่งต้องใช้ความพยายามขอให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และการที่อายุสภาสั้น ไม่แน่ใจว่าจะเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้พรรคการเมืองจะรณรงค์ให้ประชาชนออกไปเลือกตั้งได้มากแค่ไหน อย่างที่บอกว่าอยู่ไปก็น่าจะไม่ถึงหนึ่งปี แต่เราก็ต้องจัดเลือกตั้งเพราะเรายึดอายุสภาเป็นหลักคือให้ครบ 4 ปี”