“อารอง เค้ามูลคดี” เปิดใจหลังผ่าตัดนิ่วในท่อน้ำดี ล้มกลางถนนเพราะประมาทสุขภาพ หมอสั่งงดของทอด-มัน เตรียมผ่าอีกครั้ง 22 นี้ ฝากเตือนทุกวัยอย่าชะล่าใจ ตั้งเป้าอายุ 105 ปี
จากกรณี ที่ก่อนหน้านี้นักแสดงรุ่นใหญ่ รอง เค้ามูลคดี ต้องเข้าโรงพยาบาลด่วน และได้รับการผ่าตัดนิ่วให้ถุงน้ำดี
ล่าสุดเจ้าตัวมาร่วมงานประกาศรางวัลสุพรรณหงส์ครั้งที่ 33 และได้เผยประสบการณ์เฉียดอันตราย หลังปวดท้องรุนแรงจนล้มกลางถนนเพราะนิ่วในท่อน้ำดี ทั้งที่เคยตัดถุงน้ำดีไปแล้วกว่า 10 ปี สุดท้ายต้องเข้ารับการผ่าตัดและนอนโรงพยาบาลถึง 12 วัน พร้อมเตรียมเข้าห้องผ่าตัดอีกครั้งในวันที่ 22 กันยายนนี้
เจ้าตัวรับผิดเองว่า “ประมาท” ไม่ตรวจสุขภาพตามที่หมอเตือน ฝากข้อคิดคนทุกวัยอย่าละเลยการดูแลร่างกาย ย้ำหมอสั่งห้ามแตะของทอด-ของมัน โดยเฉพาะ “ขาหมู” ของโปรด พร้อมประกาศเป้าหมาย “อยู่ยาวถึง 105 ปี”
“สำหรับก่อนหน้านี้ที่เข้าโรงพยาบาล ก็เป็นนิ่วในท่อน้ำดี เราประมาทเอง คืออาการมันมีอยู่แล้วแต่เราก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นขนาดนั้น ก็เลยซื้อยาทานเอง พอทานไปเรื่อยเรื่อยอาการมันยิ่งกำเริบหนัก จนกระทั่งไม่ไหวล้ม ลูกก็เลยพาส่งโรงพยาบาล แต่ตอนนี้สบายแล้วแข็งแรงแล้ว
คือเราเป็นนิ่วในท่อน้ำดี เราตัดถุงน้ำดีทิ้งไป 10 กว่าปีแล้ว ก็ไม่รู้ว่าเศษนิ่วมันไปกระเด็นเข้าท่อน้ำดีได้ยังไง คือ 10 กว่าปีมันก็เลยงอกขึ้นเรื่อยเรื่อย ท่อน้ำดีมันเล็กมาก แต่ว่าตอนหลังที่หมอเห็นเมื่อปีที่แล้ว เค้าก็บอกว่าทำไมท่อน้ำดีมันใหญ่ขนาดนี้ เขาก็บอกว่าต้องมีอะไรแน่นอน ถ้าคุณอาว่างเมื่อไหร่มาตรวจอีกทีนึง
แต่เราก็ประมาทก็เลยไม่ไปตรวจ แล้วมันมีอยู่วันนึงที่เราไปซื้อของก็ล้มริมถนนเลย ก่อนหน้านี้ตอนที่ล้มไป ก็มีคนเข้ามาช่วยเอายาดมมาให้ดม เราก็ลุกขึ้น พอลุกขึ้นเสร็จก็ไปซื้อยากินแก้ปวดท้องมากิน พอซักสองวันผ่านไปมันปวดหนักขึ้น จนทนไม่ไหว ก็เลยบอกลูกว่า “ยุ้ยพาพ่อไปโรงพยาบาลเถอะลูก พ่อไม่ไหว”
ซึ่งพอไปหาหมอหมอก็บอกว่า เค้าเตือนแล้วไงให้มาหา แต่เราผิดเองเราประมาทเอง ตอนนี้ก็ผ่าแล้วนอนโรงพยาบาล 12 วัน ทีนี้ก็ยังออกไม่หมด เพราะว่ามันไปติดกับตับอ่อน ช่วงที่ผ่าก็ไม่รู้ว่าเป็นยังไงตับอ่อนมันอักเสบ ก็เลยต้องหยุดเอาไว้ก่อน แต่วันที่ 22 นี้จะไปเอาที่เหลือออก ก็ไม่มีอะไรแล้ว หมอบอกว่าพอเอาออกก็สบายแล้ว ซึ่ง 22 นี้ก็จะผ่าอีกรอบเป็นสองรอบ
แล้วสิ่งที่คุณหมอห้ามก็คือให้งดของทอดของมัน ห้ามทานเด็ดขาด ของชอบเลย ยิ่งขาหมูยิ่งชอบมาก หลังจากผ่าตัดมาก็ไม่มีอาการอื่นๆเลย ถามว่าเจ็บปวดไหม มันก็อาจจะมี แต่เราก็พยายามทำให้ไม่มี เพราะเรากลัวลูกเราตกใจ เรารู้ว่ายุ้ยห่วงเรามาก เราก็ไม่อยากให้เป็นภาระของใคร
ส่วนด้านอื่นก็ไม่มีอะไรให้น่าเป็นห่วงแล้ว มีแต่ความดันทุรัง(หัวเราะ) ลูกบอกว่าพ่อมีอย่างเดียวคือความดันทุรัง พ่อดื้อ แต่เราก็ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงนะครับ ยังอยู่อีกนาน อย่างน้อยต้องมี 105 ปี
แล้วก็อยากจะบอกกับคนที่ชะล่าใจ ต้องบอกเลยว่าคนสูงวัยประมาทไม่ได้ อย่าว่าแต่คนสูงวัยเลย คนหนุ่มคนสาวก็ประมาทไม่ได้ ทุกวันนี้ก็ไม่รู้ว่าเราทานอะไรเข้าไปบ้าง มันมีสิ่งที่มีพิษเจือปนเข้าไปหรือเปล่า หรือร่างกายเราเองมันมีอะไรแปลกแปลก เราดูแลตัวเองดีหรือเปล่า ถ้าประมาทก็จะเป็นอย่างผม การนอนโรงพยาบาลมันไม่ใช่เรื่องสนุกเลยครับ เพราะฉะนั้นดูแลตัวเองให้ดี เราก็ไม่กล้าเป็นอะไรแล้วกลัวยายชุมเป็นห่วง(หัวเราะ) ขอบคุณทุกคนขอบคุณทุกกำลังใจที่เป็นกำลังใจให้ผมขอบคุณครับ”