“สาทิตย์” ชี้ “อภิสิทธิ์” กลับพรรคมีบทบาทอีกหรือไม่ อยู่ที่สมาชิกตัดสินใจ เปิดกว้างต้อนรับ

เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2568 นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและอดีต ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ในรายการ “เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand” ถึงสถานการณ์ภายในพรรคประชาธิปัตย์ ล่าสุด นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ลาออกจากหัวหน้าพรรค ซึ่งหลายฝ่ายมองว่า นี่คือวิกฤตอีกครั้งของพรรค แต่ขณะเดียวกันก็มีผู้มองว่าเป็นโอกาสในการพลิกฟื้นพรรคได้เช่นกัน ว่า ย่อมส่งผลกระทบต่อพรรคประชาธิปัตย์อย่างแน่นอน แม้พรรคประชาธิปัตย์จะก่อตั้งมานานกว่า 60 ปี และเป็นพรรคการเมืองที่มีลักษณะเป็นพรรคมวลชน หรือพรรคสถาบันก็ตาม ผลกระทบดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจาก จำนวน ส.ส. ของพรรคประชาธิปัตย์ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยจากการเลือกตั้งปี 2562 เหลือเพียง 50 กว่าคน และในการเลือกตั้งปี 2566 ก็ลดลงอีกครึ่งหนึ่ง เหลือ 25 คน นอกจากนี้ ผลสำรวจความคิดเห็น (โพล) ต่างๆ ก็แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่คะแนนนิยมของพรรคจะลดต่ำลงเรื่อยๆ จึงถือว่าพรรคกำลังเผชิญกับวิกฤตศรัทธาจากประชาชนอย่างชัดเจน

“การลาออกของคุณเฉลิมชัยครั้งนี้ อาจเป็น จังหวะสำคัญที่หลายฝ่ายภายนอกจับตามองว่าพรรคประชาธิปัตย์จะใช้โอกาสนี้ในการฟื้นฟูพรรคหรือไม่ คุณสาธิตยังกล่าวด้วยความประหลาดใจว่า การลาออกครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่คุณปลื้มออกมาแสดงความเห็นว่า ประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่เขาเคยรัก และตั้งคำถามว่าทำไมไม่คืนพรรคให้คุณอภิสิทธิ์ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการจุดประกายก่อนที่คุณเฉลิมชัยจะลาออก คุณสาธิตเข้าใจในสถานการณ์ของคุณเฉลิมชัยที่เข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคในช่วงเวลาที่พรรคเผชิญกับปัญหาด้านทิศทางและวิกฤตศรัทธาจากประชาชน การก้าวเดินต่อไปของพรรคในจังหวะนี้จึงขึ้นอยู่กับสมาชิกพรรคในปัจจุบัน ว่าจะสรุปบทเรียนจากสถานการณ์ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะ 2 ปีหลังสุด ว่าทิศทางของพรรคสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนผู้สนับสนุนพรรคหรือไม่ และหากได้ข้อสรุปว่าถึงเวลาที่ต้องฟื้นฟูพรรคประชาธิปัตย์ จะเปิดกว้างเพื่อต้อนรับบุคลากรที่เคยได้รับความเชื่อถือและเคยทำงานให้กับพรรคประชาธิปัตย์กลับมามีบทบาทอีกครั้งหรือไม่ ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์มีการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคผ่านองค์ประชุมใหญ่ ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกจากทุกส่วนกว่า 250 คน ไม่ว่าจะเป็นกรรมการบริหารพรรค ส.ส. ปัจจุบัน อดีต ส.ส. อดีตรัฐมนตรี สาขาพรรค หรือท้องถิ่น”

เมื่อถูกถามถึงผู้ที่เหมาะสมจะกอบกู้วิกฤตศรัทธาของพรรคประชาธิปัตย์ นายสาธิต กล่าวว่า พรรคเคยมีบุคลากรที่มีความสามารถเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศมากมาย แต่ในช่วงหลังได้ทยอยลาออกไปเนื่องจากมีความเห็นไม่ตรงกันในทิศทางการเมือง เช่น คุณกรณ์ จาติกวณิชย์ ที่ไปตั้งพรรคใหม่ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และคุณอภิรักษ์ โกษะโยธิน เป็นต้น ดังนั้น หากพรรคสรุปบทเรียนและตัดสินใจที่จะเปิดกว้าง ก็มีหลายบุคคลที่ควรจะได้รับการเชื้อเชิญหรือเปิดทางให้กลับมามีบทบาทในพรรคอีกครั้ง ในจำนวนนี้ มีการพูดถึงคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และคุณกรณ์ จาติกวณิชย์ โดยเฉพาะคุณชวน หลีกภัย ที่ดูเหมือนจะสนับสนุนคุณอภิสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม การจะให้บุคคลเหล่านี้กลับมาได้นั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของสมาชิกพรรคในปัจจุบัน ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิ์เลือก

ในฐานะศิษย์เก่าของพรรคประชาธิปัตย์ คุณสาธิตรู้สึกประหลาดใจว่า แม้ผลโพลจะบ่งชี้ว่าคะแนนนิยมของพรรคดิ่งลง แต่ในจังหวะนี้กลับมีการกล่าวถึงการลาออกของคุณเฉลิมชัยว่าเป็นโอกาสที่ดีที่พรรคประชาธิปัตย์จะใช้ในการฟื้นฟูตัวเอง ท่านสันนิษฐานว่า สาเหตุอาจมาจากการที่ประชาชนรู้สึกว่าพรรคการเมืองหลักๆ ในปัจจุบันต่างก็มีปัญหามากมาย รวมถึงข้อกล่าวหาและคดีความต่างๆ ผู้คนจึงอาจต้องการพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์ชัดเจน และมีบุคลากรที่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์เช่นในอดีตของพรรคประชาธิปัตย์ นี่จึงอาจเป็นจุดที่ทำให้ประชาชนเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ใช้โอกาสนี้ในการฟื้นฟูพรรค เชื้อเชิญคนมีคุณภาพ และคนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมงาน

เมื่อถามว่าคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เหมาะสมกับสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันหรือไม่ นายสาธิตกล่าวให้ความเห็นส่วนตัวว่า เหมาะสม โดยเหตุผลคือ คุณอภิสิทธิ์เคยประกาศอย่างชัดเจนว่า ไม่มีพรรคการเมืองอื่นในใจและจะไม่ไปสังกัดพรรคใด โดยเคยปฏิเสธคำชวนให้ไปตั้งพรรคใหม่มาแล้วหลายครั้ง ท่านยืนยันว่า จะกลับมาทำงานการเมืองก็ต่อเมื่ออุดมการณ์ของพรรคกลับมา นอกจากนี้ ในช่วงที่เว้นวรรคทางการเมือง คุณอภิสิทธิ์ยังได้สั่งสมประสบการณ์ในภาคธุรกิจ และเป็นวิทยากรบรรยายทางวิชาการทั้งในและต่างประเทศ จึงถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม

นายสาธิตยังกล่าวในฐานะผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคในปัจจุบันว่า มีหลายคนที่โทรศัพท์มาสอบถามว่า จริงหรือไม่ ที่คนในพรรคต้องการให้คุณอภิสิทธิ์กลับมา และหากคุณอภิสิทธิ์กลับเข้ามาในพรรคจริง หลายคนที่เคยออกจากพรรคไปก็พร้อมที่จะกลับมาร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์เช่นเดิม คุณสาธิตเองก็ยืนยันอย่างชัดเจนว่า หากคุณอภิสิทธิ์กลับมา เขาจะกลับเข้าพรรคด้วย เพราะตลอด 2 ปีที่ผ่านมาหลังจากที่ออกจากพรรค เขาก็ยังไม่มีพรรคการเมืองอื่นในใจเลย

ดังนั้น จึงต้องจับตาดูว่า คณะกรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบันจะยอมรับคุณอภิสิทธิ์กลับไปหรือไม่ ซึ่งคุณสาธิตเชื่อว่าจะช่วยดึงบุคลากรเก่าแก่ที่มีฝีมือทางการเมืองให้กลับมาร่วมงานกับพรรคได้อย่างแน่นอน