“สส.ปกรณ์วุฒิ” ปชน.ฝากข้อความถึงนักการเมืองและประชาชน เลิกเล่นการเมืองแบบเดิมๆอย่ามัวแต่ทะเลาะกัน ทำให้ปัญหาปากท้องไม่เคยถูกแก้! ให้เลิกคิดว่าต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ทุกเรื่องต้องทำไปพร้อมๆ กัน
วันที่ 16 ก.ย.2568 เวลา 09.35 น.ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึงวาระการประชุมสภาฯนี้ ว่า จะมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ล้มละลาย ที่ยังค้างอยู่ในระเบียบวาระการประชุม และหากมีการพิจารณาอย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะเข้าสู่การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด ต่ออีกฉบับ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาพิจารณาหลายสัปดาห์เพราะมีหลายมาตรา นอกจากนี้ ยังมีร่าง พ.ร.บ.ที่เกี่ยวกับท้องถิ่น ทั้งเรื่องการจัดการบริหารราชการ และบุคลากรท้องถิ่น การจัดตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เทศบาล การกำหนดอายุผู้สมัคร และวาระการดำรงตำแหน่ง
เมื่อถามถึง การทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะฝ่ายค้าน นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เริ่มทำงานอย่างไม่เป็นทางการแล้ว ซึ่งสังคมได้รับทราบแล้วว่าเรากำลังจะมีรัฐบาลเสียงข้างน้อย ดังนั้น ตนได้ประสานกับพรรค พท. ตลอดเวลา ส่วนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในฐานะที่เป็นรัฐบาลและมีเสียงข้างน้อยในสภาฯ เขาก็ต้องมาขอความร่วมมือเรื่องต่างๆ จากเรา จึงกลายเป็นความร่วมมือกันทั้ง พรรค ปชน. พรรค พท. และพรรค ภท. เพื่อกำหนดวาระการประชุมในสภาฯ อยากเชิญชวนให้พรรค พท. ในฐานะที่เราเป็นเสียงข้างมากในสภาฯ ผ่านกฎหมายต่างๆ ที่เป็นประโยชน์กับประชาชนให้มากที่สุด
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าจะไม่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ทันภายใน 4 เดือน นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ร่างรัฐธรรมนูญไม่ได้มีความซับซ้อน จะมีก็เพียงแค่ศาลรัฐธรรมนูญตอบในสิ่งที่เราไม่ได้ถามไป แต่บรรยากาศการหารือของทั้งสามพรรคก็เป็นไปได้ด้วยดี เพราะทุกฝ่ายเห็นตรงกัน พยายามหาทางออกร่วมกัน เมื่อคืนที่ผ่านมา พรรค ปชน. ก็ได้มีการประชุมถึงเรื่องนี้เช่นกัน นำโดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรค ปชน. ทั้งนี้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพียงมาตราเดียว หากเห็นตรงกันหมดก็จะใช้เวลาไม่นาน โดยคำถามที่หนึ่งใช้มติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่วนคำถามที่สองอยู่ที่รัฐสภา แก้เพียงคำถามเดียว
เมื่อถามถึง ข้อวิจารณ์ที่ระบุว่าอยากให้แก้เศรษฐกิจปากท้องมากกว่าแก้รัฐธรรมนูญ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า สมาชิกรัฐสภามี 700 คน คงไม่ใช้ทรัพยากรที่มีทั้งหมดทำเรื่องเรื่องเดียว ทุกเรื่องสามารถทำพร้อมกันได้ ตนคิดว่าควรเลิกใช้ ตรรกะนี้ได้แล้ว เรื่องต่างๆ มีผู้รับผิดชอบโดยตรงอยู่แล้ว ทุกอย่างทำพร้อมกันได้
“ยืนยันว่ารัฐธรรมนูญนี้ถูกร่างขึ้นโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ซึ่งไม่มีความชอบธรรมและมีอำนาจนอกระบบ ที่ไม่ยึดโยงกับประชาชนจำนวนมาก และเป็นต้นเหตุที่ทำให้การเมืองไม่มีเสถียรภาพ ส่งผลให้การแก้ไขปัญหาเรื่องปากท้องของประชาชนเป็นไปได้ยาก ทุกเรื่องสอดคล้องกัน ดังนั้น จึงเห็นสมควรต้องมีการแก้ไข”นายปกรณ์วุฒิ กล่าว