กำลังใจสมาชิกพรรคเพื่อไทย มาเต็มเปี่ยม เมื่อ “นายหญิง” ของพวกเขา ออกโรงมาปลุกใจให้ทุกคน “สู้ต่อ” ในวันที่สถานการณ์ของพรรคกำลัง “ติดลบ” !

การประชุมสส.พรรคเพื่อไทย วันนี้ (16ก.ย.68)  สมาชิกพรรคต่างฮือฮา เมื่อ “คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์” อดีตภริยา “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ซึ่งเป็น “นายใหญ่” ของพรรค เข้าร่วม พร้อมกับ “แพทองธาร ชินวัตร” บุตรสาว ซึ่งทำหน้าที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย  พยายามประคับประคองพรรค ในยามที่ ผู้นำทางจิตวิญญาณ ต้องกลับไปเข้าเรือนจำ รับโทษ เป็นเวลา 1ปีตามคำสั่งของศาลฎีกาฯ

บรรยากาศการประชุมพรรคเพื่อไทยวันนี้จึงมีความหมายยิ่งนัก เพราะไม่เพียงแต่ มีแพทองธาร เข้ามาร่วมเหมือนเคย แต่คุณหญิงพจมาน ยังปรากฏตัวในยามที่พรรคเผชิญกับภาวะคับขัน โดยนายหญิง พูดเพียงไม่กี่ประโยค “สู้ๆนะคะ” ทำให้สส.ต่างยืนขึ้นทั้งห้องประชุม

เพราะทุกคนย่อมเข้าใจ “นัยยะ” ได้ว่า  การให้ “สู้ต่อ” นั้นไม่ใช่เฉพาะ “พรรคเพื่อไทย” เท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณว่า “ชินวัตร” ยังสู้ต่อและจะสู้อย่างเต็มที่ในสนามการเมือง จากนี้ไป

หลายคนในพรรคต่างรับรู้กันดีว่า คุณหญิงพจมาน นั้นเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญ ทั้งต่อทักษิณ ทั้งในมุมครอบครัว และมิติทางการเมือง มาตั้งแต่ยุคที่ทักษิณ เข้าสู่ถนนสายการเมือง ตั้งแต่พรรคพลังธรรม จนมาถึงการตั้งพรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็นจังหวะชีวิตที่ทักษิณ รุ่งโรจน์มากที่สุด

รวมทั้งยังเคยผ่านคดีประวัติศาสตร์ สำคัญด้วยกันมาแล้ว นั่นคือคดีซุกหุ้น แม้ในที่สุดทักษิณจะรอดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อปี 2544 มาได้ แต่ต้องถือว่า ครอบครัวชินวัตร ในขณะนั้นต้องเผชิญหน้ากับการพิจารณาคดีขององค์คณะตุลาการรัฐธรรมนูญ  

แต่มาครั้งนี้ ครอบครัวชินวัตร กำลังรับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบากมากกว่าครั้งไหน เมื่อทักษิณ ต้องสวมใส่ชุดนักโทษ และเข้าไปใช้ชีวิตในเรือนจำคลองเปรม

“ผลกระทบ” ที่เกิดขึ้น ไม่เพียงเฉพาะ ครอบครัวชินวัตร เท่านั้น แต่สำหรับพรรคเพื่อไทยแล้ว การตกลงจาก “อำนาจ” จากรัฐบาลไปเป็นพรรคฝ่ายค้านจึงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก โดยเฉพาะการเลือกตั้งครั้งหน้า ที่จะเกิดขึ้นก่อนปี 2570 พรรคเพื่อไทย จะชูนโยบายเรือธง เรื่องใด ที่ประสบความสำเร็จ

นอกจากนี้กรณีคดีคลิปเสียง การที่แพทองธาร ทำพลาดครั้งใหญ่ ด้วยการต่อสายสนทนากับ “ฮุน เซน” ผู้นำกัมพูชาตัวจริง จนทำให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งต่อตัวเองและกระแสความนิยมของพรรคเสื่อมถอย

แต่เมื่อวันนี้ พรรคเพื่อไทย แม้ “นายใหญ่” ยังอยู่ในเรือนจำ แต่พวกเขายังมี “นายหญิง” ขึ้นมาทำหน้าที่ ขับเคลื่อนพรรค และแน่นอนว่า สัญญาณจากคุณหญิงพจมาน ในทุกความเคลื่อนไหว ย่อมอยู่ในสายตาทั้ง “มิตร” และ “ศัตรู”

เมื่อวันที่ 7 ก.ย.68 คุณหญิงพจมาน ได้ให้ตัวแทนเดินทางมาที่พรรคภูมิใจไทย เพื่อนำช่อแจกันดอกไม้ มาแสดงความยินดีกับ “อนุทิน ชาญวีรกูล”  หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ภายหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ช่อแจกันดอกไม้มีนามบัตรตัว P เขียนว่า พจมาน ดามาพงศ์

ทั้งที่ “แม่ทัพนายกอง” ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจ ฟาดฟันกันอย่างรุนแรง แต่คุณหญิงพจมาน เลือกที่จะส่งดอกไม้มาแสดงความยินดีกับอนุทิน  และแม้ในสายตาคนอื่นอาจมองว่า พรรคเพื่อไทย ยอมอ่อนลงให้ ก็ตาม

แต่อีกด้านหนึ่ง นี่อาจเป็นสัญญาณที่ “นักการเมือง”  เองยังต้องศึกษา เพราะคุณหญิงพจมาน อาจไม่เลือกสานต่อ “ความขัดแย้ง” ระหว่าง “แดง” กับ “น้ำเงิน” สัญญาณจากคุณหญิงพจมาน ทำให้นำไปสู่การตีความทางการเมืองตามมาทันที

ต่อมาเมื่อวันที่ 15 ก.ย.คุณหญิงพจมาน ปรากฏตัวอีกครั้ง พร้อมกับลูกๆ เดินทางไปเยี่ยมทักษิณ ที่เรือนจำคลองเปรม  เพื่อให้กำลังใจทักษิณ  ในวันที่ครอบครัวต้องเผชิญกับปัญหาใหญ่อีกครั้ง

อย่างไรก็ตามคุณหญิงพจมาน นั้นแท้จริงแล้ว ได้อยู่ในทุกช่วงขณะของพรรคเพื่อไทย เพราะอย่าลืมว่า ก่อนที่ทักษิณ จะเลือก แพทองธาร ให้มาเป็นนายกฯคนที่ 31 ก็เคยเสียงค้านจากคุณหญิงพจมานมาแล้ว เพราะด้วยสายตาที่มองข้ามช็อต ว่าจะเกิดปัญหาอะไรตามมา บ้าง แต่เมื่อทักษิณ และแพทองธาร ตัดสินใจเดินหน้า จะด้วยแรงกดดันหรือ “ไฟทว์บังคับ” ก็ตาม แต่สุดท้าย ปัญหาก็เกิดขึ้นจริง จนทำให้ลูกสาวต้องพ้นจากนายกฯคนที่ 31

วันนี้พรรคเพื่อไทย ในจังหวะที่ทักษิณ ไม่อาจบัญชาการด้วยตนเองได้ อาจจะดีกว่าหรือไม่ เมื่อนายหญิง ผู้มองการณ์ไกลและอยู่เบื้องหลังมาตลอด อาจถึงเวลาต้องออกมานำทัพด้วยตัวเองโดยที่ไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งใดๆในพรรค แต่ทุกคนย่อมรู้ดีว่า นี่อาจถึงเวลาของ “ตัวจริง” ต้องลงมาเล่นเอง เพื่อรักษาพรรคเพื่อไทย เอาไว้ !