การเมืองฉุด ความเชื่อมั่นอุตฯ ร่วงต่อเนื่อง จับตา ‘คนละครึ่ง’ พยุงกำลังซื้อปลายปี
ข่าวสด September 17, 2025 04:20 PM

ส.อ.ท. เผยดัชนีความเชื่อมั่นอุตฯ เดือนส.ค.ลดลงต่อเนื่อง อยู่ที่ 86.4 ชี้การเมืองไม่แน่นอน ภาครัฐเบิกจ่ายล่าช้า ปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชากระทบ 14,000 ล้านบาท

นายนาวา จันทนสุรคน รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ในเดือนส.ค.2568 อยู่ที่ระดับ 86.4 ลดลงจากเดือนก่อนอยู่ที่ระดับ 86.6 เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมือง ภายหลังจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ให้สถานะนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลง

นอกจากนี้ การเบิกจ่ายงบลงทุนที่ยังต่ำกว่าเป้าหมาย โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 (ต.ค.2567-ส.ค.2568) ที่เบิกจ่ายล่าช้า ประกอบกับความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับอัตราภาษีของสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสินค้าที่เปิดตลาดให้สหรัฐ (Regional Value Content : RVC) ล้วนส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกและนำเข้า

ขณะเดียวกัน สถานการณ์การปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงส่งผลให้การค้าชายแดนได้รับผลกระทบ และคาดว่าจะก่อให้เกิดการสูญเสียมูลค่าทางการค้าในเดือนส.ค.กว่า 14,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อีกทั้งการที่แรงงานกัมพูชาทยอยเดินทางกลับประเทศ ซึ่งนำไปสู่ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในระยะสั้นในอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้น และสถานการณ์น้ำท่วมซ้ำซากจากพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการค้าและการเกษตรในพื้นที่ภาคเหนือ

สำหรับดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า ปรับตัวลดลงเช่นกัน อยู่ที่ระดับ 88.9 ลดลงจากเดือนก่อนอยู่ที่ระดับ 89.2 เนื่องจากความกังวลต่อความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ อาจกระทบต่อการดำเนินนโยบายสำคัญ อาทิ การเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ การแก้ปัญหาชายแดน และการฟื้นฟูเศรษฐกิจ

อุปสงค์จากประเทศคู่ค้ามีแนวโน้มลดลง หลังการบังคับใช้มาตรการภาษีนำเข้าศุลกากรแบบตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตและส่งออกของไทย ทั้งยังมีความเสี่ยงไทยจะถูกเก็บภาษี 40% จากความไม่ชัดเจนของเงื่อนไขสินค้าสวมสิทธิ์ (Transshipment) โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยสนับสนุนที่คาดว่าจะช่วยประคับประคองสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ได้แก่ โครงการคนละครึ่ง คาดว่าจะช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพ กระตุ้นกำลังซื้อของประชาชน และเพิ่มการหมุนเวียนของเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจ การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่น เดือนพ.ย.-ธ.ค.2568 คาดว่าจะส่งผลดีต่อการใช้จ่าย และการบริโภคสินค้า

ทั้งนี้ ส.อ.ท.มีข้อเสนอแนะให้รัฐบาลเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้ เพื่อให้เม็ดเงินลงทุนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ และเตรียมพร้อมดำเนินโครงการ ภายใต้งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2569 ควบคู่กับเร่งรัดออกมาตรการช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการ ที่ได้รับผลกระทบจากการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างเป็นรูปธรรม เช่น สามารถนำรายจ่ายค่าขนส่งส่วนเพิ่ม มาหักเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ 2 เท่า เป็นต้น

///////////////////////////////

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.