พิพัฒน์ ยัน รัฐบาลอนุทิน เดินหน้าแลนด์บริดจ์ ผนึกทีมบ้านใหญ่ชุมพร ขับเคลื่อนศก.ใต้
ข่าวสด September 17, 2025 04:40 PM

พิพัฒน์ ยัน รัฐบาลอนุทิน เดินหน้าโครงการแลนด์บริดจ์ ผนึกบ้านใหญ่ชุมพร ขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคใต้ ชี้ ที่ผ่านมาเสียโอกาสไปมาก เชื่อ EIA เดินหน้าไปเยอะแล้ว

เมื่อเวลา 09.20 น. วันที่ 17 ก.ย. 2568 ที่พรรคภูมิใจไทย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ว่าที่รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม เปิดเผยถึงการเดินหน้าโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (โครงการแลนด์บริดจ์) ภายหลังการเปิดตัวทีม อบจ.ชุมพร ของนายชุมพล จุลใส อดีต สส.ประชาธิปัตย์ ที่มาสมัครสมาชิกพรรคภูมิใจไทยในวันนี้

โดยนายพิพัฒน์ กล่าวว่า ต้องขอบคุณทีม อบจ.ชุมพร ที่มาร่วมกันเพื่อพัฒนาประเทศของเราต่อไป แต่สิ่งที่สำคัญที่พวกเรามีการประสานและรวมตัวกัน เพราะเรามีนโยบายที่จะพัฒนา โดยเฉพาะเรื่องที่สำคัญที่สุดอย่างกรณีโครงการแลนด์บริดจ์ว่าจะเกิดหรือไม่ ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ก็มีการให้สัมภาษณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเราจะเดินหน้าโครงการนี้ต่อไป

นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า โครงการแลนด์บริดจ์เริ่มต้นจากสมัยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตรมว.คมนาคม ที่จะมีการสร้างระบบราง ถนน และระบบท่อ ของ 2 ฝั่งในทะเลอันดามัน และอ่าวไทย ซึ่งจะเป็นการสร้างอาชีพให้กับคนไทยเพิ่มขึ้นอีก โดยเฉพาะพื้นที่ จ.ชุมพร และระนอง ที่จะสามารถจ้างงานเพิ่มขึ้นได้มาก ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ

โดยตนได้หารือเป็นการส่วนตัวกับนายชุมพลว่า เราจะมาสานความสำเร็จและเป็นการพัฒนาจังหวัดของเรา พวกเราต้องช่วยกันคิดและจัดทำอย่างไรให้โครงการนี้ราบรื่นไปได้ จึงเป็นที่มาที่ทำให้เรามาอยู่ด้วยกัน

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ตนได้รับหน้าที่ให้พูดคุยกับเพื่อนๆ พื้นที่ภาคใต้ว่า มีอุดมการณ์มาทำงานร่วมกันในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภาคใต้ เพราะที่ผ่านมาเราเสียโอกาสเยอะมาก เพราะพวกเราไม่ได้มีการรวมตัวกัน ซึ่งหากมีการรวมตัวและช่วยกันในเรื่องยุทธศาสตร์ ก็มั่นใจว่าจะสามารถพัฒนาภาคใต้ได้มากกว่านี้

ผู้สื่อข่าวถามกรณีการเดินหน้าโครงการแลนด์บริจด์ที่มีคนไม่เห็นด้วย และขอให้ชะลอโครงการดังกล่าว เพราะเกรงว่าจะศึกษาผลกระทบ EIA ไม่ทัน นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ถ้าเราไม่สานต่อในวันนี้ ก็จะมีการชะลอไปเรื่อยๆ และโอกาสคงไม่เกิด

ซึ่งตนในฐานะที่เป็นคนใต้ในจ.สงขลา และมีบริษัทเดินเรือระหว่างประเทศ ซึ่งไม่ได้วิ่งในประเทศไทย ตนก็คิดว่าเรามีความรู้ในระดับหนึ่ง ซึ่งคำว่าแลนด์บริดจ์ คุ้มกับการลงทุนหรือไม่ ก็คงไม่ใช่ประเทศไทยเป็นผู้ลงทุน แต่ต้องมีการเชิญชวนเอกชนเข้ามาร่วมลงทุน เพราะวันนี้ประเทศไทยไม่พร้อมในเรื่องการกู้ยืมเงิน แต่มั่นใจว่าเรามีศักยภาพในการเชิญชวนให้คนมาใช้ท่าเรือทั้ง 2 ฝั่ง

ส่วนในระยะเวลา 4 เดือน จะสามารถจัดทำการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ได้ทันหรือไม่นั้น นายพิพัฒน์ กล่าวว่า เท่าที่ตนได้ทราบมา การสำรวจหรือการทำ EIA น่าจะทำไปได้ไกลแล้ว แต่ตอนนี้อยู่ในการตัดสินใจของรัฐบาลของนายอนุทิน ว่าในระยะเวลา 4 เดือน เรื่องของแลนด์บริจด์เราจะสานต่อหรือไม่

ซึ่งนายอนุทินก็มีการให้สัมภาษณ์ไปแล้ว เนื่องจากเป็นการลงทุนที่ไม่น้อยกว่า 1 ล้านล้านบาท ซึ่งจะเป็นการสร้างงานอีกชิ้นหนึ่งที่เป็นงานชิ้นใหญ่ หลังจากที่เรามีการ EEC ไปก่อนหน้านี้ และหลังจากนั้นประเทศไทยยังไม่มีโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งเราพยายามทำโครงการนี้ให้สำเร็จ และที่สำคัญคือการทำให้เป็นตัวเชื่อม SEC ซึ่งเรามีความพร้อม และความตั้งใจของนายกฯ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงระยะเวลาสั้นๆ

นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า แต่หากเราไม่คิดที่จะริเริ่มอะไร 4 เดือนก็จะผ่านไปแบบเปล่าประโยชน์ ถ้าครั้งต่อไปพรรคภูมิใจไทยได้รับความไว้วางใจจากประชาชน เราจะมาสานต่อนโยบาย แต่หากไม่ได้รับความไว้วางใจก็ขอฝากโครงการที่ดีๆ หรือโครงการที่จะทำให้คนไทยมีรายได้เพิ่มขึ้นให้กับรัฐบาลชุดต่อไป ย้ำว่านโยบายดังกล่าวเป็นความตั้งใจของพรรคภูมิใจไทยและนายกฯ

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.