พิพัฒน์ ยัน รบ.อนุทิน เดินหน้า แลนด์บริดจ์ ผนึกทีมงานภาคใต้ลุยดัน ศก.
GH News September 18, 2025 09:03 AM

‘พิพัฒน์’ ยัน รบ.อนุทิน เดินหน้า ‘แลนด์บริดจ์’ ผนึกทีมงานภาคใต้ลุยดัน ศก.

เมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ว่าที่รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงการเดินหน้าโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน หรือโครงการแลนด์บริดจ์ ภายหลังการเปิดตัวทีม อบจ.ชุมพร ของนายชุมพล จุลใส อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ ที่มาสมัครสมาชิกพรรค ภท.ในวันนี้ ว่า ต้องขอบคุณทีม อบจ.ชุมพร ที่มาร่วมกันเพื่อพัฒนาประเทศของเราต่อไป แต่สิ่งที่สำคัญที่พวกเราประสาน และรวมตัวกัน เพราะเรามีนโยบายที่จะพัฒนา โดยเฉพาะเรื่องที่สำคัญที่สุดอย่างโครงการแลนด์บริดจ์ว่าจะเกิดหรือไม่ ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ ให้สัมภาษณ์แล้ว และเราจะเดินหน้าโครงการนี้ต่อไป

นายพิพัฒน์กล่าวอีกว่า โครงการแลนด์บริดจ์เริ่มต้นจากสมัยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่จะสร้างระบบราง ถนน และระบบท่อ ของ 2 ฝั่งในทะเลอันดามัน และอ่าวไทย ซึ่งจะเป็นการสร้างอาชีพให้กับคนไทยเพิ่มขึ้นอีก โดยเฉพาะพื้นที่ จ.ชุมพร และ จ.ระนอง ที่จะจ้างงานเพิ่มขึ้นได้มากมาย จึงถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยตนได้หารือเป็นการส่วนตัวกับนายชุมพล ว่า เราจะมาสานความสำเร็จ และเป็นการพัฒนาจังหวัดของเรา พวกเราต้องช่วยกันคิด และจัดทำอย่างไรให้โครงการนี้ราบรื่นไปได้ จึงเป็นที่มาที่ทำให้เรามาอยู่ด้วยกัน

“ผมได้รับหน้าที่ให้พูดคุยกับเพื่อนๆ พื้นที่ภาคใต้ว่า มีอุดมการณ์มาทำงานร่วมกันในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภาคใต้ เพราะที่ผ่านมาเราเสียโอกาสเยอะมาก เพราะพวกเราไม่ได้มีการรวมตัวกัน ซึ่งหากมีการรวมตัวและช่วยกันในเรื่องยุทธศาสตร์ ก็มั่นใจว่าจะสามารถพัฒนาภาคใต้ได้มากกว่านี้” นายพิพัฒน์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามกรณีการเดินหน้าโครงการแลนด์บริจด์ ที่มีคนไม่เห็นด้วย และขอให้ชะลอโครงการดังกล่าว เพราะเกรงว่าจะศึกษาผลกระทบ EIA ไม่ทัน นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ถ้าไม่สานต่อในวันนี้ จะชะลอไปเรื่อยๆ และโอกาสคงไม่เกิด ตนในฐานะที่เป็นคนใต้ใน จ.สงขลา และมีบริษัทเดินเรือระหว่างประเทศ ซึ่งไม่ได้วิ่งในประเทศไทย คิดว่าเรามีความรู้ในระดับหนึ่ง คำว่าแลนด์บริดจ์ คุ้มกับการลงทุนหรือไม่ คงไม่ใช่ไทยเป็นผู้ลงทุน แต่ต้องเชิญชวนเอกชนเข้ามาร่วมลงทุน เพราะวันนี้ไทยไม่พร้อมในเรื่องการกู้ยืมเงิน แต่มั่นใจว่าเรามีศักยภาพ ในการเชิญชวนให้คนมาใช้ท่าเรือทั้ง 2 ฝั่ง

ถามอีกว่า ส่วนในระยะเวลา 4 เดือน จะจัดทำการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ได้ทันหรือไม่นั้น นายพิพัฒน์ กล่าวว่า เท่าที่ทราบ การสำรวจ หรือการทำ EIA น่าจะทำไปได้ไกลแล้ว แต่ขณะนี้อยู่ในการตัดสินใจของรัฐบาลนายอนุทิน ว่าในระยะเวลา 4 เดือน เรื่องของแลนด์บริจด์จะสานต่อหรือไม่ ซึ่งนายอนุทินก็ให้สัมภาษณ์ไปแล้ว เนื่องจากเป็นการลงทุนที่ไม่น้อยกว่า 1 ล้านล้านบาท จะเป็นการสร้างงานอีกชิ้นหนึ่งที่เป็นงานชิ้นใหญ่ หลังจากที่มี EEC ไปก่อนหน้านี้ และหลังจากนั้นไทยยังไม่มีโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งเราพยายามทำโครงการนี้ให้สำเร็จ ที่สำคัญคือการจะทำให้เป็นตัวเชื่อม SEC ซึ่งเรามีความพร้อม และความตั้งใจของนายกฯ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจในในช่วงระยะเวลาสั้นๆ

นายพิพัฒน์กล่าวต่อว่า หากเราไม่คิดที่จะริเริ่มอะไร 4 เดือน ก็จะผ่านไปแบบเปล่าประโยชน์ ฉะนั้น ขออย่าไปสนใจว่าเป็น 4 เดือน หรือกี่วัน เมื่อเข้ามา สิ่งที่ต้องทำ และทำได้มากน้อยขนาดไหน ถ้าครั้งต่อไปพรรค ภท.ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน เราจะมาสานต่อนโยบาย แต่หากไม่ได้รับความไว้วางใจ ก็ขอฝากโครงการที่ดีๆ หรือโครงการที่จะทำให้คนไทยมีรายได้เพิ่มขึ้นให้กับรัฐบาลชุดต่อไป พร้อมย้ำว่านโยบายดังกล่าว เป็นความตั้งใจของพรรค ภท.และนายกฯ

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.