กรมอุทยานฯ ทลายเครือข่ายค้าไม้เถื่อนข้ามชาติ ยึดไม้ประดู่ โกดังหนองคาย มูลค่า 14 ล้าน จ่อส่งออกจีน พบค้าไม้นาน 3 ปี รัฐเสียหาย 143 ล้าน ประเมินมูลค่าทรัพยากรป่าไม้ไทยเสียหาย 1,233 ล้าน เร่งขยายผลจับกุมผู้บงการ-เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง
18 ก.ย. 68 – นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมด้วยนายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผอ.กองกิจการอำนวยความยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) นายไพฑูรย์ มหาชื่นใจ รองผวจ.หนองคาย,
นายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา ผอ.สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า, นายพุทธพจน์ คูประสิทธิ์ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 (อุดรธานี) นายสราวุฒิ บุญเกื้อ ผอ.สํานักจัดการทรัพยากร ป่าไม้ที่ 6 (อุดรธานี) ตำรวจสภ.หนองคาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจตระเวนชายแดน กรมศุลกากร ฝ่ายปกครอง และผู้ที่เกี่ยวข้อง
ร่วมกันแถลงข่าวการเข้าตรวจสอบโกดังของบริษัท เฉินไท้ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ต.วัดธาตุ อ.เมือง จ.หนองคาย ซึ่งมีกลุ่มทุนต่างประเทศเป็นเจ้าของ
นายอรรถพล กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจากการขยายผลการสืบสวนเครือข่ายลักลอบค้าไม้เถื่อนข้ามชาติ ที่เริ่มต้นจากคดีในพื้นที่ภาคเหนือ เมื่อหลายเดือนก่อน กระทั่งเข้าตรวจสอบในบริษัท เฉินไท้ พบไม้ประดู่ที่ถูกลักลอบตัดจากป่าอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติ 378 ท่อน/แผ่น/ปุ่ม รวมปริมาตร 32.547 ลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นน้ำหนักประมาณ 28,000 กิโลกรัม ประเมินมูลค่าความเสียหายตามราคาท้องตลาด (คิดเป็นกิโลกรัมละ 500 บาท) ประมาณ 14 ล้านบาท
ขบวนการลักลอบทำไม้ประดู่ในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งได้ติดตามจากพยาน หลักฐานต่าง ๆ จนพบว่าขบวนการนี้มีนายทุนจากต่างประเทศเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง และให้เงินทุนสนับสนุนกับกลุ่มทำไม้ในพื้นที่ภาคเหนือ และจ้างวานชาวบ้านในพื้นที่ เข้าไปทำไม้ประดู่ทั้งในพื้นที่ป่าอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติ โดยมีเจ้าหน้าที่ภาครัฐหน่วยงานต่างๆ อำนวยความสะดวกในการดำเนินการของกลุ่มขบวนการ
จากการส่งเจ้าหน้าที่แฝงตัวติดตามความเคลื่อนไหวของขบวนการ พบว่ามีการนำไม้ออกมาจากพื้นที่ป่า โดยใช้รถยนต์กระบะลำเลียงไม้จากในพื้นที่ป่า มายังโกดังท้องที่ทางภาคเหนือ เพื่อรวบรวม และขนส่งไม้ประดู่ จากโกดังในภาคเหนือมายังโกดังทางภาคอีสาน โดยรถบรรทุก 10 ล้อ
และจะมีพ่อค้าไม้เข้ามาเลือกซื้อไม้ในโกดังหนองคาย เมื่อซื้อไม้แล้วจะขนส่งต่อไปยังต่างประเทศผ่านรถบรรทุกสิบล้อไปยังประเทศ สปป.ลาว และบริษัทขนส่ง โดยใช้รถตู้คอนเทนเนอร์ออกทางช่องทางท่าเรือแหลมฉบัง
เมื่อตรวจสอบเอกสารพบว่า บริษัทที่เกี่ยวข้องกับโกดังนี้ส่งไม้ออกทางเรือโดยแสดงรายการส่งออกสำแดงเป็นไม้ประดู่ โดยพบว่า มีประเทศปลายทางเป็นจีน และเวียดนาม ซึ่งคาดว่า จะส่งไม้ประดู่แปรรูปต่อไปยังประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศปลายทาง
โดยไม้ที่ส่งออกในช่วงปี พ.ศ. 2566 – 2568 ในระยะเวลา 3 ปี มีปริมาตรทั้งหมด 2,052.83 ลูกบาศก์เมตร ปริมาณ 2,467,972 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่าความเสียหายของรัฐเป็นเงินกว่า 143 ล้านบาท และหากเป็นราคาตลาด กิโลกรัมละ 300 – 500 บาท คิดเป็นความเสียหายประมาณ 1,233 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่า ที่ทรัพยากรป่าไม้ของประเทศไทยได้เสียหายไป
โดยทั้งนี้พบว่า นอกจากนายทุนต่างประเทศแล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องในการช่วยอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ และจะมีการขยายผลไปยังผู้บุคคลผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกระดับต่อไป