“ภาวุธ” ดันตลาดสตาร์ทอัพ Data AI ลงทุน PAM เสริมแกร่ง SME ไทยแข่งขันได้ ดึงฐานข้อมูลลูกค้าชาวไทยไว้ ลดการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติ เสริมความมั่นคงดิจิทัล
นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ CEO บริษัทกลุ่ม EfraStructure ที่ลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยี และ บริษัท Pay Solutions ประกาศจับมือ 3DS Interactive โดย นายไชยพงศ์ ลาภเลี้ยงตระกูล CEO และ นางสาวชนัญญา เลาหะพันธุ์ CMO เพื่อลงทุนใน PAM (Personalized Automation Marketing) สร้างระบบศูนย์รวมข้อมูลลูกค้า Customer Data Platform (CDP) ของคนไทย ร่วมกับ AI ช่วยให้ผู้ประกอบการ SME ไทยได้เป็นเจ้าของ และควบคุมข้อมูลลูกค้าอย่างแท้จริง ลดการถูกปิดกั้นการเข้าถึงข้อมูลที่เคยเจอจากการขายผ่านแพลตฟอร์ม E-Marketplace ต่างชาติ
“ธุรกิจไทยควรได้ใช้ข้อมูลที่เป็นของตัวเอง ไม่ใช่ปล่อยให้แพลตฟอร์มต่างชาติเก็บและควบคุม โดย PAM จะเป็นเครื่องมือศูนย์รวมข้อมูลลูกค้าที่ทำให้ SME ไทยเข้าถึงลูกค้าได้ตรงจริง และใช้ข้อมูลเพื่อพัฒนากลยุทธ์การตลาดได้อย่างเต็มที่” คุณภาวุธ พงษ์วิทยภานุ กล่าว
นางสาวชนัญญา เลาหะพันธุ์ เปิดเผยว่า ศูนย์รวมข้อมูลลูกค้า CDP (Customer Data Platform) คือหัวใจสำคัญของ Marketing Automation และเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์มการตลาดหรือ MarTech ทั้งหมด
โดยเฉพาะในยุคที่มี AI หากธุรกิจมีฐานลูกค้าจำนวนมาก การมี CDP จะช่วยเก็บและรวมข้อมูลลูกค้าจากหลายช่องทางเข้ามาไว้ในที่เดียว ทำให้สามารถระบุตัวตนลูกค้าข้ามแพลตฟอร์มได้อย่างแม่นยำ เมื่อเรามีข้อมูลเหล่านี้แล้วจะสามารถแบ่งกลุ่มลูกค้าตามความสนใจและพฤติกรรม และส่งข้อความที่ Personalized ได้ตรงใจผ่านหลายช่องทางตามที่ลูกค้าใช้งานอยู่จริง ซึ่งทั้งหมดนี้คือภาพใหญ่ของการทำ Marketing Automation ที่จะช่วยให้ SME ไทยทำธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและแข่งขันได้ในระดับโลก
หนึ่งในจุดแข็งสำคัญของ PAM คือการพัฒนาศูนย์รวมข้อมูลลูกค้า ด้วยทีมงานคนไทย เพื่อคนไทย ทำให้ธุรกิจไม่ต้องพึ่งพาซอฟต์แวร์ต่างชาติ ลดความเสี่ยงจากการถูกจำกัดการเข้าถึงข้อมูล รวมถึงปัญหาด้านค่าใช้จ่ายที่สูงเกินความจำเป็น ทั้งยังช่วยสร้าง ความมั่นคงทางดิจิทัล (Digital Sovereignty) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจไทยยุคใหม่
1. ข้อมูลอยู่ในมือคนไทย ผู้ประกอบการเป็นเจ้าของข้อมูลจริง ไม่ถูกปิดกั้นจาก E-Marketplace
2. เห็นลูกค้าชัดเจนขึ้น รวมข้อมูลจากทุกช่องทางมาวิเคราะห์เป็นภาพเดียว
3. ทำการตลาดตรงใจ ส่งข้อเสนอและแคมเปญแบบ Personalization เพิ่มยอดขาย
4. ลดการพึ่งพาต่างชาติ ใช้เทคโนโลยีที่พัฒนาโดยคนไทย ค่าใช้จ่ายคุ้มค่า ควบคุมได้เอง
5. สร้างความมั่นคงดิจิทัล เสริมศักยภาพ SME ไทยให้ยืนหยัดอย่างยั่งยืนในตลาดโลก
ก้าวใหม่ของธุรกิจไทยสู่การแข่งขันระดับโลก
การลงทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของภาคธุรกิจไทย ที่จะยืนหยัดสร้างเทคโนโลยีของตนเอง เพื่อให้ SME สามารถยกระดับการดำเนินงานอย่างยั่งยืนในระยะยาว และยังเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีข้อมูลของภูมิภาคอาเซียน และไม่ได้เป็นเพียงการสร้างเทคโนโลยีใหม่ แต่คือการสร้าง “อนาคต” ให้กับผู้ประกอบการไทย เมื่อ SME ไทยได้เป็นเจ้าของข้อมูลจริง ส่งผลให้มีพลังในการแข่งขันทัดเทียมระดับโลกอย่างภาคภูมิ
“นี่คือก้าวสำคัญที่สะท้อนว่า ประเทศไทยไม่ได้เป็นเพียงผู้ใช้เทคโนโลยี แต่พร้อมจะเป็นผู้สร้างเทคโนโลยี ที่ตอบโจทย์คนไทย และยืนหยัดบนเวทีเศรษฐกิจดิจิทัลโลกได้อย่างมั่นคง เมื่อ Data อยู่ในมือคนไทย อนาคต SME ไทยจึงอยู่ในมือเรา”