สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ประกาศปรับเพิ่มอัตราชดเชยราคา LPG ขึ้นเป็น 0.3783 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ราคา LPG โลกยังทรงตัวที่ 505 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน
ส่วนภาพรวมบัญชี LPG ติดลบรวม -42,611 ล้านบาท แต่ยังมีเงินไหลเข้าประมาณ 830 ล้านบาทต่อเดือน จับตาราคาจำหน่ายปลีก LPG หลังสิ้นสุดตรึงราคา 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม สิ้นเดือน ก.ย. 2568 นี้
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของ “ฐานเศรษฐกิจ” พบว่า นางไพลิน ฟุ้งเกียรติ ผู้อำนวยการสำนักการเงินและบัญชี และในฐานะรักษาการแทนผู้อำนวยการ สกนช. ได้ลงนามเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2568 ประกาศการกำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุน อัตราเงินชดเชย อัตราเงินคืนจากกองทุน และอัตราเงินชดเชยคืนกองทุนสำหรับก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) โดยกำหนดเปลี่ยนแปลงเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในบัญชี LPG ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 2568 เป็นต้นไป
สำหรับประกาศดังกล่าวได้กำหนดให้โรงแยกก๊าซธรรมชาติ ส่งเงินเข้ากองทุนฯ สำหรับ LPG ที่ผลิตในประเทศเพื่อจำหน่ายเป็นเชื้อเพลิง ในอัตรา 4.6359 บาทต่อกิโลกรัม โดยปรับเพิ่มขึ้นจากเดิมที่กำหนดไว้ 4.1113 บาทต่อกิโลกรัม
จับตาราคราคาก๊าซหุงต้มครัวเรือนหลังสิ้นสุดตรึงราคาสิ้น ก.ย. 68
ซึ่งไม่รวมถึง LPG ที่ผลิตจากโรงแยกก๊าซฯของ บริษัท ปตท. สผ. สยาม จำกัด อ.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร และ LPG ที่ผลิตจากโรงแยกก๊าซฯ ของ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) อ.กงไกรลาศ จ. สุโขทัย
อย่างไรก็ตามให้ บริษัท ยูเอซี โกลบอลฯ ส่งเงินเข้ากองทุนฯ ในอัตรา 3.0284 บาทต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากเดิมที่กำหนดให้ส่งเข้า 2.5038 บาทต่อกิโลกรัม
นอกจากนี้ ได้ปรับเงินชดเชยราคา LPG เพิ่มขึ้นเป็น 0.3783 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิมชดเชยอยู่ 0.1463 บาทต่อกิโลกรัม โดยไม่รวม LPG จากการแยกก๊าซฯ ที่ซื้อหรือได้จากรัฐ ผู้รับสัมปทาน หรือผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC) ซึ่งโรงแยกก๊าซฯ ของ บริษัท ปตท. สผ.สยาม จำกัด โดยราคาขายปลีก LPG ยังคงเท่าเดิมที่ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ถึง 30 ก.ย. 2568 หลังจากนั้นต้องรอคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณาต่อไป
ส่วนเงินส่งเข้ากองทุนฯ สำหรับ LPG ที่ซื้อหรือได้มาจากโรงแยกก๊าซฯ ของ บริษัท ปตท. สผ. สยาม จำกัด ยังคงเท่าเดิมที่ 5.0371 บาทต่อกิโลกรัม
ขณะที่ LPG ที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออกไปต่างประเทศ ตาม พ.ร.บ.การค้าน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2543 และได้รับเงินชดเชยจากกองทุนฯ แล้ว ให้ส่งเงินชดเชยคืนกองทุนฯ 0.3783 บาทต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากเดิมที่กำหนดให้ส่งเข้า 0.1463 บาทต่อกิโลกรัม
สำหรับบัญชี LPG ของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ล่าสุด ณ วันที่ 14 ก.ย. 2568 ภาพรวมติดลบอยู่ -20,664 ล้านบาท โดยคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) กำหนดกรอบวงเงินสำหรับอุดหนุนราคา LPG ได้ไม่เกิน 50,000 ล้านบาท ปัจจุบันกองทุนฯ มีเงินไหลเข้าจาก LPG จำนวน 27.69 ล้านบาทต่อวัน (ประมาณ 830 ล้านบาทต่อเดือน) ขณะที่ราคา LPG โลกล่าสุดของเดือน ก.ย. 2568 ยังอยู่ระดับประมาณ 505 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน เท่ากับเดือน ส.ค. 2568
ประกาศดังกล่าวเป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่กำหนดนโยบายให้ กบน. บริหารกองทุนฯ อย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับความเสี่ยงกรณีเกิดวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิงดังนี้
เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนหรือชะลอการขาดแคลนในประเทศ เพื่อความมั่นคงด้านพลังงานและเศรษฐกิจของประเทศ
