นักวิจัยญี่ปุ่น คว้ารางวัลอิกโนเบล (Ig Nobel Prize) สาขาชีววิทยา สุดทึ่ง หลังทาสีวัวเป็นม้าลาย ช่วยป้องกันไม่ให้แมลงวันตอม
วันที่ 19 ก.ย. สื่อญี่ปุ่น รายงานว่า ทีมนักวิจัยจากญี่ปุ่นคว้ารางวัลอิกโนเบล (Ig Nobel Prize) จากงานวิจัยที่ทดลองว่าการทาสีวัวเป็นลายม้าลายสามารถช่วยป้องกันไม่ให้แมลงวันตอมได้
ทีมวิจัยญี่ปุ่นได้รับแรงบันดาลใจจากงานวิจัยก่อนหน้าที่ชี้ว่า ลายบนตัวม้าลายช่วยป้องกันแมลงวันตอมได้ จึงตั้งสมมติฐานว่าวัวอาจได้รับการปกป้องในลักษณะเดียวกันหากทาสีวัวเป็นม้าลาย นักวิจัยจึงได้ทำการทดลองกับวัวสายพันธุ์ญี่ปุ่นแบล็ก
ผลการทดลองพบว่า จำนวนแมลงวันที่เกาะและกัดตามลำตัวและขาของวัวที่ถูกทาลายม้าลายมีน้อยกว่าครึ่งหนึ่ง เมื่อเทียบกับวัวที่ไม่ได้ทา นอกจากนี้ วัวที่มีลายยังแสดงพฤติกรรมปัดป้องแมลง เช่น สะบัดหัวหรือกระทืบเท้า น้อยกว่าวัวที่ไม่มีลายอีกเช่นกัน
ภาพประกอบ
ทีมวิจัยกล่าวว่า ผลการศึกษานี้สามารถนำไปใช้เพื่อลดความเครียดของวัว และพัฒนาแนวทางใหม่ในการป้องกันแมลงกัดกินสัตว์เลี้ยง โดยไม่ต้องพึ่งพาสารเคมีกำจัดแมลง
ซึ่งนอกจากจะก่อให้เกิดการติดเชื้อแล้ว ยังมีผลต่อสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สีที่ใช้ในการทดลองจะหลุดออกภายในไม่กี่วัน จึงจำเป็นต้องหาวิธีที่ให้ผลยาวนานกว่า
ขณะเดียวกัน ด้านโคจิมะ โทโมกิ จากองค์การวิจัยการเกษตรและอาหารแห่งชาติ ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมวิจัย เปิดเผยว่า งานวิจัยเริ่มต้นขึ้นหลังจากมีเกษตรกรผู้เลี้ยงวัวมาขอคำปรึกษาเรื่องการป้องกันแมลงวันตอม เขาได้รับแรงบันดาลใจจากรายการโทรทัศน์ที่พูดถึงผลของลายม้าลาย
โคจิมะระบุว่า วิธีนี้อาจช่วยลดการใช้สารเคมีกำจัดแมลง และยังเป็นแนวทางแก้ปัญหาการดื้อยาของแมลงในสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย
ภาพประกอบ
ในการกล่าวสุนทรพจน์ที่งานประกาศรางวัล เขากล่าวว่า “พวกเราขอขอบคุณเพื่อนร่วมงาน เพื่อน และครอบครัว” พร้อมเสริมว่ารางวัลนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้ทีมเดินหน้าทำการวิจัยต่อไป
ทั้งนี้ ปีนี้นับเป็นปีที่ 19 ติดต่อกันที่ญี่ปุ่นได้รับรางวัล Ig Nobel อย่างน้อยหนึ่งรางวัล รวมทั้งหมดมีงานวิจัย 10 โครงการที่ได้รับรางวัล หนึ่งในนั้นเป็นการศึกษาว่า จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อบอกคนหลงตัวเองหรือบุคคลอื่นๆ ว่าพวกเขาฉลาด อีกโครงการมุ่งหาคำตอบว่า “กิ้งก่า” ชอบพิซซ่าแบบใดมากที่สุด
สำหรับรางวัลอิกโนเบล (Ig Nobel Prize)เริ่มต้นในปี ค.ศ. 1991 ในสหรัฐฯ จัดขึ้นเพื่อเชิดชูงานวิจัยหรือสิ่งประดิษฐ์ที่ดูขำขันแต่มีแง่คิดและคุณค่าทางวิทยาศาสตร์