จับแล้วมือปืนฆ่ากู้ภัยอยุธยา สารภาพสิ้นแผนการลงมือ ซัดทอดผู้ใหญ่บ้านจ้างวาน แฉพิรุธเงินประกัน ถูกทำไว้ให้ทั้งครอบครัว เผยพ่อเพิ่งตายอย่างน่าสงสัยเมื่อ 4 เดือนก่อน
จากกรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นายศรายุทธ นกจั่น หรือเก่ง อายุ 24 ปี เจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา จุดบ้านแพรก (รหัส 318) เสียชีวิต บริเวณถนนเลียบคลอง หมู่ 5 ต.คลองน้อย อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันที่ 19 ก.ย.68 พ.ต.อ.ภูมิธัช โฆษิตวนิชพงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา, พ.ต.อ.ชนะ ธีรศรัณยานนท์ ผกก.สภ.บ้านแพรก, พ.ต.อ.ชินโชติ วัฒนธนานพ ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.พีรพัสส์ ชูช่วย ผกก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา, พ.ต.ท.มนต์ชัย เหลืองประเสริฐ รอง ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.1 พร้อมชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุม นายวชรวิทย์ หรือโจ้ อายุ 31 ปี ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวน
เบื้องต้น ผู้ต้องหาสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุยิง นายศรายุทธ เสียชีวิตจริง และซัดทอดว่า นายภานุพงษ์ หรือปอนด์ อายุ 31 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.คลองน้อย อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นผู้ว่าจ้าง และจัดหาอาวุธปืนให้ ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาออกหมายค้น และเข้าตรวจค้นบ้านพักและที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 เพื่อตรวจหาหลักฐาน เช่น อาวุธปืน เสื้อผ้า หรือของใช้ในวันเกิดเหตุ โดยเฉพาะบริเวณป่ารกร้างหลังบ้านที่คาดว่าอาจนำของไปทิ้งไว้ หลังพบเสื้อผ้าบางส่วนถูกทิ้งไว้บริเวณดังกล่าว ซึ่งไม่พบอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ
จากนั้นจึงคุมตัว นายภานุพงษ์ ไปสอบสวนที่ สภ.บ้านแพรก โดย นายภานุพงษ์ ยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วน นายวชรวิทย์ มือปืน สารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจาก นายภานุพงษ์ ให้ลงมือยิง นายศรายุทธ โดยวางแผนกันมาตั้งแต่เดือน ส.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้ใหญ่ปอนด์ เป็นผู้จัดหาอาวุธปืนแล้วซ่อนไว้ในลำโพงที่โรงรถ ภายในบ้านของผู้ใหญ่ปอนด์ จากนั้นวันที่ 9 ก.ย. ได้วางแผนที่จะก่อเหตุสังหารอีกครั้ง นายวชรวิทย์ ได้ไปดักรอผู้เสียชีวิต แต่ไม่พบตัว จึงกลับมาบอกผู้ใหญ่ปอนด์
กระทั่งวันที่ 10 ก.ย. เวลาประมาณ 17.00 น. ผู้ใหญ่ปอนด์ ติดต่อกับ นายวชรวิทย์ อีกครั้ง บอกว่า อาวุธปืนยังวางอยู่ที่เดิม และให้ไปดักผู้เสียชีวิตที่บริเวณที่เกิดเหตุ โดยผู้ใหญ่ปอนด์ จะลวงผู้เสียชีวิตออกมากินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านข้างโลตัสบ้านแพรก จากนั้นเวลาประมาณ 20.42 น. ผู้ใหญ่ปอนด์ ได้โทรบอก นายวชรวิทย์ ว่าผู้เสียชีวิตกำลังกลับบ้าน นายวชรวิทย์ที่ดักรออยู่ก็แกล้งทำทีว่ารถจยย.เสีย ขอความช่วยเหลือจากผู้เสียชีวิต พอผู้เสียชีวิตจอดรถลงไปช่วย นายวชรวิทย์ ก็ชักปืนออกมายิงทันที ก่อนหลบหนีกลับไปซ่อนตัวที่บ้านของผู้ใหญ่ปอนด์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจชุดสืบสวน ให้ข้อมูลว่า ชนวนของการสังหารครั้งนี้ อาจเกี่ยวข้องกับเงินประกันชีวิตของพ่อผู้เสียชีวิต ซึ่งเสียชีวิตจากการจมน้ำเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยผู้ใหญ่ปอนด์ เป็นผู้ทำประกันไว้ วงเงินคุ้มครอง 2 ล้านบาท แต่เมื่อได้รับเงินมาแล้ว กลับนำไปมอบให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตเพียง 5–6 หมื่นบาท สร้างความไม่พอใจให้ นายศรายุทธ ลูกชายของผู้เสียชีวิต ซึ่งบ่นกับคนใกล้ชิดว่า “พ่อตายทั้งที ไม่น่าได้น้อยขนาดนี้”
และจากการสืบสวนขยายผลพบว่า เมื่อประมาณ 2 เดือนก่อน ผู้ใหญ่ปอนด์ ได้ทำประกันชีวิตให้ นายศรายุทธ อาจจะเป็นไปได้ว่าถูกผู้เสียชีวิตติดตามทวงเงินประกันของพ่อ กับการสังหารเพื่อเอาเงินประกันของผู้เสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม
ด้าน นายนาวิน คงดี นายกสมาคมอยุธยารวมใจหน่วยกู้ภัยอยุธยา เปิดเผยว่า ตนเริ่มระแคะระคายถึงเรื่องเงินประกัน เนื่องจากเมื่อประมาณ 4 เดือนก่อน พ่อของ นายศรายุทธ เสียชีวิตจากการจมน้ำ ขณะไปหาผักบุ้งตามคำสั่งของนายจ้าง และถูกใช้ให้ออกไปเก็บเพิ่มอีกครั้ง จนเกิดอาการวูบและเสียชีวิต โดยพ่อของ นายศรายุทธ มีประกันชีวิตวงเงินถึง 2 ล้านบาท ซึ่งเป็นประกันที่นายจ้างทำไว้ให้ แต่ภายหลังทำบุญร้อยวัน ครอบครัวกลับได้รับเงินมาเพียงเล็กน้อย
ที่น่าผิดสังเกตคือ นายจ้างได้ทำประกันชีวิตไว้ให้กับสมาชิกครอบครัว นายศรายุทธ ทั้งหมด 4 คน ได้แก่ พ่อ แม่ พี่ชาย และตัวนายศรายุทธ ซึ่งประเด็นนี้ถือเป็นปมที่น่าสงสัยเกี่ยวกับการเสียชีวิต ตนเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม และเชื่อในฝีมือของตำรวจ ว่าจะสามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริง และเอาผิดผู้ที่อยู่เบื้องหลังได้อย่างแน่นอน