สภาผู้บริโภคสนับสนุนนโยบาย “ตั๋วบุฟเฟ่ต์ขนส่งสาธารณะ 30 บาทต่อวัน” ช่วยลดภาระประชาชนได้ 3,000–5,000 บาทต่อเดือน ตามเป้าหมายค่าโดยสารไม่เกิน 10% ของค่าแรงขั้นต่ำ พร้อมเสนอให้อบจ.ใช้ภาษีล้อเลื่อนตั้งกองทุนพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะทั่วประเทศ
สภาผู้บริโภคออกโรงหนุนรัฐบาลเดินหน้านโยบาย “ตั๋วบุฟเฟ่ต์ขนส่งสาธารณะไม่เกิน 30 บาทตลอดวัน” ครอบคลุมทั้งรถเมล์ เรือ และรถไฟฟ้า มุ่งหวังช่วยประชาชนประหยัดค่าเดินทาง ลดค่าครองชีพ และสร้างระบบขนส่งสาธารณะคุณภาพที่ประชาชนทุกคนเข้าถึงได้
สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาผู้บริโภค เปิดเผยว่า การใช้ตั๋วบุฟเฟ่ต์ราคาเดียวตลอดวัน จะช่วยลดภาระประชาชนได้อย่างน้อย 3,000–5,000 บาทต่อเดือน สอดคล้องกับข้อแนะนำของธนาคารโลกที่ให้ค่าโดยสารสาธารณะไม่ควรเกิน 10% ของค่าแรงขั้นต่ำ อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมการเดินทางแบบ Car Free Everyday ลดมลพิษทางอากาศ PM 2.5 และการใช้พลังงานฟอสซิล
นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอให้ องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ใช้รายได้จากภาษีล้อเลื่อน จัดตั้งกองทุนสนับสนุนระบบขนส่งสาธารณะ โดยยกตัวอย่างหลายจังหวัดที่เริ่มดำเนินการแล้ว เช่น ภูเก็ตให้ผู้สูงอายุและนักเรียนขึ้นรถไฟฟ้าฟรี ลำพูนและกาญจนบุรีลงทุนจัดรถเมล์ไฟฟ้าในท้องถิ่น แม้มีภาระขาดทุนเล็กน้อย ขณะที่เชียงใหม่ก็พร้อมสนับสนุนนโยบายเช่นกัน
ภาครัฐยังได้รับแรงหนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ที่กำลังผลักดันร่าง พ.ร.บ.ตั๋วร่วม รวมถึงกรมขนส่งทางรางและกรมขนส่งทางบกที่มุ่งพัฒนาระบบรางและฟื้นฟูบริการรถเมล์
สภาผู้บริโภคมั่นใจว่า หากรัฐบาลผลักดันนโยบายนี้สำเร็จ จะเป็นต้นแบบที่สามารถขยายผลสู่จังหวัดต่างๆ ได้ทั่วประเทศ ประชาชนจะได้รับประโยชน์ทันที ทั้งในด้านการประหยัดค่าใช้จ่ายและการยกระดับคุณภาพชีวิตในระยะยาว