คณะนิเทศศาสตร์ DPU จับมือ CRG เปิดเวทีจริง สร้างคนรุ่นใหม่ให้ “ทำได้มากกว่าสร้างคอนเทนต์” ตอบโจทย์ธุรกิจอาหาร

คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) จัดพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) กับ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (CRG) หนึ่งในผู้นำธุรกิจร้านอาหารของประเทศ เพื่อสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงภาคทฤษฎีเข้ากับการปฏิบัติในภาคอุตสาหกรรมโดยตรง และพัฒนาบัณฑิตให้มีศักยภาพรอบด้านในยุคดิจิทัล เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2568 ณ ห้องประชุมทวี บุณยเกตุ

ความร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นจากเจตนารมณ์ร่วมกันในการพัฒนาศักยภาพของคนรุ่นใหม่ โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ศิวนารถ หงษ์ประยูร คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ และ คุณธวัช ทองอินทร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด เป็นผู้แทนลงนาม ท่ามกลางคณาจารย์ ผู้บริหาร และนักศึกษาที่เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน ความร่วมมือที่จะเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ฝึกปฏิบัติงานจริงกับแบรนด์ในเครือ CRG กว่า 20 แบรนด์ ครอบคลุมทั้งร้านอาหารบริการด่วน เบเกอรี่ และเครื่องดื่ม

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ศิวนารถ หงษ์ประยูร กล่าวถึงเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ของคณะนิเทศศาสตร์ว่า การร่วมมือกับองค์กรขนาดใหญ่คือกลไกสำคัญที่จะขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ของสถาบันให้เป็นจริง โดยเฉพาะในบริบทที่คณะฯ มีจำนวนนักศึกษามาก จึงจำเป็นต้องแสวงหาพันธมิตรทางวิชาการอย่างต่อเนื่อง เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ทำงานร่วมกับสถานประกอบการจริง

นอกจากนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ศิวนารถ ยังกล่าวด้วยว่า ธุรกิจร้านอาหารในยุคปัจจุบันยังมีการแข่งขันที่สูง การสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าไม่ได้วัดกันที่รสชาติเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของประสบการณ์โดยรวม (Experience) ซึ่งคอนเทนต์และสื่อดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งยวด ความร่วมมือครั้งนี้จึงเป็นสถานการณ์ที่เกิดประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย โดย CRG จะได้รับมุมมองและแนวคิดที่สดใหม่จากคนรุ่นใหม่ ส่วนนักศึกษาจะได้สร้างแฟ้มสะสมผลงานที่แข็งแกร่งสำหรับการประกอบอาชีพในอนาคต

“วิสัยทัศน์ของเราคือ การสร้างนักศึกษาให้เป็น ‘Beyond Content Creator’ ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อนักศึกษาได้รับโจทย์และได้ทำงานร่วมกับสถานประกอบการจริง โดยเฉพาะกับองค์กรขนาดใหญ่อย่าง CRG เพราะนอกจากจะเป็นการเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ฝึกฝนฝีมือในธุรกิจที่กำลังเติบโตแล้ว ยังเป็นการสร้างแฟ้มสะสมผลงานที่ดี (Portfolio) เพื่อการเติบโตในสายอาชีพต่อไป”

ด้าน คุณธวัช ทองอินทร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (CRG) กล่าวเสริมถึงความร่วมมือกับทาง DPU สอดคล้องกับทิศทางการเติบโตขององค์กร ที่มุ่งมั่นที่จะขยายสาขา เพื่อให้บริการลูกค้า ให้ครอบคลุม ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว  การฝึกประสบการณ์วิชาชีพจึงเป็นกลไกสำคัญในการเตรียมบุคลากรให้พร้อมรับโจทย์ของตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในด้านการสื่อสารดิจิทัลที่กำลังกลายเป็นหัวใจหลักของธุรกิจ

คุณธวัช ยังเปิดเผยภาพรวมขององค์กรว่า CRG เป็นหนึ่งในบริษัทภายใต้เครือเซ็นทรัลกรุ๊ป มีแบรนด์ในความดูแลกว่า 20 แบรนด์ อาทิ KFC, Auntie Anne’s, Ootoya และคัตสึยะ ซึ่งสะท้อนถึงขนาดและความหลากหลายของธุรกิจที่นักศึกษาจะได้เข้ามาเรียนรู้ ภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา องค์กรได้กำหนดให้ “Digital Marketing” เป็นคำสำคัญที่ต้องได้รับความสนใจในทุกระดับของการดำเนินงาน โดยเปลี่ยนบทบาทจากเครื่องมือเสริมมาเป็นแกนกลางของกลยุทธ์ธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบ

“ทิศทางของธุรกิจได้เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน จากเดิมที่ Digital Marketing อาจเป็นเพียงเครื่องมือเสริม แต่ปัจจุบันเราได้รับโจทย์ที่ชัดเจนว่านี่คือหัวใจสำคัญ การสร้างคอนเทนต์และการเล่าเรื่องจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งยวด เราคาดหวังว่าสื่อที่ผลิตออกมาจะต้องมีคุณภาพและสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันได้ ไม่ว่าจะเป็น Gen Y, Gen Z หรือ Gen X ก็ตาม”

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนว่าคณะนิเทศศาสตร์ DPU พัฒนานักศึกษาให้เป็น “Beyond Content Creator” ได้อย่างไร อาจารย์ชัชวรินทร์ พูลสวัสดิ์อาจารย์ประจำหลักสูตรการสร้างสรรค์อีเวนต์และการจัดการอุตสาหกรรมบันเทิง ได้นำเสนอแนวทางการเตรียมความพร้อมนักศึกษา ผ่านกลไกที่เป็นรูปธรรมสองแกนหลัก ได้แก่ Potentialized Activity และ Potential Income

โดย Potentialized Activity เป็นการจัดกิจกรรมเสริมศักยภาพรายบุคคลอย่างเข้มข้น มีการจัดเวิร์กชอปอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้งในหัวข้อที่สำรวจจากความต้องการของนักศึกษาโดยตรง นอกจากนี้ยังได้จัดสรรพื้นที่สร้างสรรค์อย่าง “Sandbox” ซึ่งเป็น Co-learning Space ที่นักศึกษาใช้นำเสนองาน พูดคุย หรือซ้อมเต้นได้ และยังมี CA Club ชมรมที่ก่อตั้งโดยนักศึกษาเองเพื่อเป็นพื้นที่ในการแสดงออกเฉพาะทาง รวมไปถึงการเชิญผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรพันธมิตรชั้นนำมาบรรยายเพื่ออัปสกิล, การสนับสนุนให้นักศึกษาได้จัดอีเวนต์จริง รวมถึงการเปิดโอกาสให้ได้เข้าฝึกงานในบริษัทชั้นนำ

ในส่วน Potential Income เป็นการเปิดโอกาสให้นักศึกษาสามารถสร้างรายได้ได้จริงตั้งแต่ยังเรียนอยู่ ผ่านความร่วมมือกับองค์กรพันธมิตรที่จะเข้ามามอบโจทย์จริงให้นักศึกษาได้ลงมือทำผ่านรายวิชา นอกจากนี้คณะฯ ยังได้จัดตั้ง “Creation Hub (บริษัทจำลอง)” เพื่อทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางในการรับงานจากองค์กรภายนอก และส่งต่อให้นักศึกษาที่มีทักษะตรงกับความต้องการได้ทำงานจริง 

“บริษัทจำลองเราตั้งขึ้นมาเพื่อรองรับการทำงานจริงอย่างเป็นระบบ และทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการรับงานจากองค์กรภายนอกมาให้กับนักศึกษา ที่ผ่านมาเด็กของเรามีศักยภาพมากพอที่จะออกแบบโลโก้ และทำสื่อประชาสัมพันธ์ให้กับโครงการต่างๆ นอกจากนี้เรายังมีสตูดิโอและโรงละคร ซึ่งพร้อมเปิดพื้นที่ให้องค์กรอย่าง CRG เข้ามาจ้างงานโดยตรง โดยเฉพาะในกลุ่มนักศึกษาที่มีศักยภาพเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่มีอัตราค่าจ้างที่เข้าถึงได้และพร้อมใช้งานจริง”

ขณะที่ในฝั่งของภาคธุรกิจ คุณนรเศรษฐ์ จันทร์สุวรรณ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายนวัตกรรมการจ้างงานและอัตรากำลัง ขึ้นเวทีเพื่อกล่าวเสริมถึงความสัมพันธ์และศักยภาพของนักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ พร้อมเปิดเผยว่าวีดิทัศน์แนะนำองค์กร CRG เป็นผลงานที่ศิษย์เก่าและอาจารย์จากคณะนิเทศศาสตร์เป็นผู้สร้างสรรค์ ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์คุณภาพที่ชัดเจนของบัณฑิตได้เป็นอย่างดี

“ธุรกิจร้านอาหารกับงานด้านนิเทศศาสตร์ภายนอกอาจจะมองว่าร่วมมือกันได้ยาก แต่ในภาพรวมเรามีจุดร่วมที่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะงานด้านการตลาดและการทำสื่อ ผมเชื่อมั่นว่าความร่วมมือนี้จะช่วยยกระดับศักยภาพและขยายโอกาสให้เปิดกว้างยิ่งขึ้น สำหรับวันนี้นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ตอนนี้บริษัทได้เริ่มหารือถึงโครงการความร่วมมืออื่นๆ ที่เราจะร่วมกันทำในอนาคต ซึ่งจะช่วยพัฒนาทักษะในบริบทจริงให้กับนักศึกษามากยิ่งขึ้น” 

ทั้งนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีการลงนามความร่วมมือ คณะผู้บริหารจาก CRG ยังได้เข้าเยี่ยมชมสตูดิโอและห้องปฏิบัติการของคณะนิเทศศาสตร์ อาทิ  Content Studio, Voice-Over Studio, Performing Arts Studio, Live Streaming Studio และ Editor Room ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพร้อมด้านอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ได้มาตรฐานระดับอุตสาหกรรม พร้อมรองรับการทำงานร่วมกับภาคธุรกิจได้อย่างเต็มรูปแบบในก้าวต่อไป