สตาร์ตอัพฟินเทคสัญชาติไทย Beam เปิดตัวอุปกรณ์รับชำระเงินรุ่นใหม่ “Bolt+” ที่ออกแบบและพัฒนาโดยทีมงานไทยทั้งหมด เจาะตลาดผู้ประกอบการร้านค้าและธุรกิจทุกรูปแบบ ชูจุดขายเรื่องความสะดวก ครบทุกช่องทาง และดีไซน์ที่ยกระดับภาพลักษณ์ร้านค้า
วิน วารีเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง Beam มองว่า ประเทศไทยมีศักยภาพก้าวสู่สังคมไร้เงินสดถึง 90% ของธุรกรรมทั้งหมดภายในปี 2030 โดยมีแรงหนุนจากการใช้งาน Mobile Banking ซึ่งสูงถึง 97% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศ
“หากไทยบรรลุเป้าหมายนี้ จะช่วยประหยัดต้นทุนทางเศรษฐกิจได้สูงถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 48,000 ล้านบาท”
Beam ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2019 และมีผลิตภัณฑ์หลัก 3 ตัว คือ Beam Checkup (ระบบจ่ายเงินออนไลน์), Beam Bolt (แอปรับชำระหน้าร้าน) และ Beam Bridge (ระบบเชื่อมต่อพาร์ตเนอร์) ก่อนต่อยอดมาสู่ฮาร์ดแวร์ตัวล่าสุด Bolt+
รองรับการชำระเงินทุกรูปแบบ ทั้งบัตรเครดิต/เดบิต, QR พร้อมเพย์, e-Wallet อย่าง Alipay และ WeChat Pay รวมถึงผ่อนชำระกับธนาคารชั้นนำสูงสุด 7 แห่ง
ค่าธรรมเนียมโปร่งใส ฟรีค่าธรรมเนียมสำหรับ QR พร้อมเพย์ ส่วนบัตรเครดิต/เดบิตเริ่มต้นที่ 1.8% ไม่มีค่ารายเดือนหรือค่ามัดจำเครื่อง
เริ่มใช้งานง่าย สมัครและอนุมัติบัญชีได้ภายใน 1-3 วันทำการ หากเป็นลูกค้าเดิมของ Beam สามารถใช้งานได้ทันที
ยืดหยุ่นต่อการใช้งาน ใช้ได้ทั้งแบบ Stand Alone หรือเชื่อมต่อ POS เดิม รองรับ WiFi, ฮอตสปอต และซิมการ์ด
มาตรฐานความปลอดภัยสากล อยู่ภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย พร้อมมาตรฐาน PCI DSS Level 1 และ PDPA
Bolt+ ยังโดดเด่นด้านงานออกแบบ ด้วยสไตล์มินิมอลกลมกลืนกับเคาน์เตอร์ชำระเงิน ใช้งานได้ทั้งแบบตั้งโต๊ะและถือไปรับจ่ายที่โต๊ะลูกค้า
Beam เปิดให้ร้านค้าและผู้ประกอบการ สั่งจอง Bolt+ ในราคา 4,490 บาท ผ่านเว็บไซต์ beamcheckout.com/th/store โดยเริ่มจัดส่งตั้งแต่เดือนตุลาคม 2568 เป็นต้นไป
พร้อมกันนี้ยังเปิดตัวโครงการ “Cashless Club” มอบสิทธิพิเศษแก่ร้านค้าที่สนับสนุนสังคมไร้เงินสด เช่น ส่วนลดสูงสุด 15% สำหรับการซื้อเครื่อง Bolt+ และสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม โดยมีการมอบตราสัญลักษณ์ “ดาว” ให้ร้านค้าที่เข้าร่วม