YouTube มากกว่า ‘วิดีโอ’ สู่แพลตฟอร์มธุรกิจที่เข้าถึงผู้บริโภค
GH News October 03, 2025 09:04 AM

เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา “ยูทูบ” (YouTube) แพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์ระดับโลก มีอายุครบ 2 ทศวรรษ ผ่านร้อนผ่านหนาวขับเคี่ยวแข่งขันในสมรภูมิคอนเทนต์มาตั้งแต่ยุคแรก ๆ ผ่านการเปลี่ยนแปลงตามเทรนด์การรับชมด้วยการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง จนอาจกล่าวได้ว่ามาไกลกว่ายุคเริ่มต้นมาก

สำหรับในประเทศไทย “ยูทูบ” เข้ามาทำตลาดกว่า 11 ปี จากการเป็นศูนย์รวมคอนเทนต์ความบันเทิงสู่ศูนย์กลางในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจครีเอเตอร์ แจ้งเกิด “ยูทูบเบอร์” จำนวนมาก มีไม่น้อยที่ต่อยอดฐานความนิยม และปลุกปั้นธุรกิจของตนเอง

การเติบโตของ “ยูทูบ”

จากข้อมูลบนบล็อกทางการของกูเกิล ประเทศไทย ระบุว่า ปัจจุบันวิดีโอที่อัพโหลดบนยูทูบมีมากกว่า 2 หมื่นล้านรายการ เป็นทั้งเพลง Shorts พอดแคสต์ และคอนเทนต์ประเภทอื่น ๆ โดยวิดีโอแรกที่มีการอัพโหลดบนแพลตฟอร์ม ชื่อว่า “Me at the Zoo” มีความยาววิดีโอเพียง 19 วินาที

มีจำนวนวิดีโอที่มีการอัพโหลดในแต่ละวันเฉลี่ยแล้วมากกว่า 20 ล้านคลิป และในปี 2024 ผู้ใช้ยูทูบมีการแสดงความคิดเห็นในวิดีโอเฉลี่ยต่อวันมากกว่า 100 ล้านรายการ พร้อมกด “ชอบ” ราว 3.5 พันล้านครั้ง ขณะที่ครีเอเตอร์มีการกดหัวใจให้ความคิดเห็นจากผู้ชม 10 ล้านคน โดยเฉลี่ยทุก ๆ วัน

และในปีนี้ ยูทูบได้ต่อยอดการเติบโตด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพิ่มเติม เช่น Ask Music สร้างสถานีวิทยุที่ปรับตามความต้องการด้วยการอธิบายแนวเพลงที่ต้องการฟัง และสำหรับผู้ใช้ YouTube Premium สามารถเร่งสปีดวิดีโอให้เร็วขึ้นสูงสุด 4 เท่า เป็นต้น

เจาะอินไซต์ผู้ชมชาวไทย

“ซัปนา ชาฎา” รองประธานภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียใต้ Google เอเชีย-แปซิฟิก กล่าวว่า พฤติกรรมของผู้ชมจะสลับการดูยูทูบในรูปแบบ (Format) ประเภท (Genre) และอุปกรณ์ (Device) ต่าง ๆ บนแพลตฟอร์ม แม้วิดีโอสั้นจะมีการเติบโตอย่างรวดเร็วด้วยยอดรับชม YouTube Shorts ที่พุ่งจาก 7 หมื่นล้าน เป็น 2 แสนล้านครั้งต่อวันทั่วโลก ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการรับชมคอนเทนต์แบบยาวแต่อย่างใด

ผลสำรวจของ Google และ Kantar ระบุด้วยว่า ยูทูบเป็นแพลตฟอร์มวิดีโออันดับ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เข้าถึงผู้บริโภคได้มากกว่าแพลตฟอร์มวิดีโออื่น ๆ ในแต่ละวัน

ในประเทศไทย การรับชมวิดีโอประเภทละครได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีระยะเวลาการรับชมเพิ่มขึ้น 115% ส่วนวิดีโอแนวพอดแคสต์ก็มาแรงไม่แพ้กัน มีระยะเวลาการรับชมเพิ่มขึ้น 50% ในปีที่ผ่านมา รวมถึงเวลาการรับชมผ่านทีวีที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (Connected TV) เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า ในช่วง 3 ปี

“สิ่งที่ทำให้ยูทูบมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือการเป็นทุกสิ่งครบจบในที่เดียว สามารถสับเปลี่ยนรูปแบบวิดีโอและอุปกรณ์ที่ใช้รับชมได้อย่างราบรื่น ตั้งแต่คอนเทนต์แบบยาวที่ดื่มด่ำได้เต็มตาบนทีวี ไปจนถึง Shorts สั้น ๆ บนมือถือ ถือเป็นอีโคซิสเต็มการรับชมที่มีเพียงยูทูบเท่านั้นที่มอบให้ได้ เปิดโอกาสให้แบรนด์เชื่อมโยงกับผู้ชมในทุกช่วงเวลาของวัน”

พลัง YouTube Shopping

นอกจากนี้ อีโคซิสเต็มการรับชมที่แข็งแรงของยูทูบ ยังดึงดูดให้แบรนด์ใส่เม็ดเงินลงทุนโฆษณาเข้ามาอย่างต่อเนื่อง สะท้อนผ่านข้อมูลของสมาคมโฆษณาดิจิทัล (DAAT) ที่ระบุว่า ยูทูบเป็น Top 3 ช่องทางสื่อดิจิทัลที่นักการตลาดเลือกใช้ โดยคาดการณ์ว่าเม็ดเงินที่ใช้กับยูทูบในปี 2025 จะอยู่ที่ 4,397 ล้านบาท

และจากข้อมูลล่าสุดของ Analytic Edge ระบุด้วยว่า ยูทูบสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) สูงกว่าทีวี 2.9 เท่า สูงกว่าแพลตฟอร์มโซเชียลอื่น ๆ 1.6 เท่า

ในปี 2024 ที่ผ่านมา ยูทูบยังขยายอีโคซิสเต็มไปในฝั่งของอีคอมเมิร์ซเต็มรูปแบบ ด้วยการจับมือกับ “ช้อปปี้” (Shopee) เปิดตัวโปรแกรมแอฟฟิลิเอต “YouTube Shopping” ที่เปิดโอกาสให้ครีเอเตอร์ปักตะกร้าสินค้าในวิดีโอของตนเอง ซึ่ง “ไทย” เป็นประเทศที่ 4 ในโลกที่เปิดตัวโปรแกรมนี้

“มุกพิม อนันตชัย” หัวหน้าฝ่ายพันธมิตรธุรกิจ YouTube ประเทศไทย และเวียดนาม กล่าวว่า YouTube Shopping ช่วยให้แบรนด์ต่าง ๆ เข้าถึงกลุ่มผู้ชมที่มีส่วนร่วมสูงด้วยการพาร์ตเนอร์กับครีเอเตอร์ ทำให้เวลาในการรับชมคอนเทนต์เกี่ยวกับการช็อปปิ้งบนแพลตฟอร์มสูงขึ้น 400% เมื่อเทียบปีก่อนหน้า

จากข้อมูล ณ เดือน มิ.ย. 2025 พบว่า 35% ของครีเอเตอร์ที่สร้างรายได้กับยูทูบอยู่แล้ว กำลังสร้างรายได้มากขึ้นจากการเข้าร่วมโปรแกรมแอฟฟิลิเอต YouTube Shopping สะท้อนว่าครีเอเตอร์ได้เปลี่ยนสิ่งที่ตนชื่นชอบให้กลายเป็นธุรกิจที่ยั่งยืนบนยูทูบ

“คอมมิวนิตี้บนยูทูบกลายเป็นส่วนสำคัญในการช่วยผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้า และก่อให้เกิดยอดขายจริง ๆ สอดคล้องกับการเติบโตของตลาดวิดีโอคอมเมิร์ซที่ขยายตัว 4 เท่า ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา”

แพลตฟอร์มแห่งการ “โน้มน้าว”

“มุกพิม” กล่าวด้วยว่า ความพิเศษของครีเอเตอร์บนยูทูบ คือการ “โน้มน้าว” ใจคน เรียกว่าเป็น The ART of Influence ประกอบด้วย 1.A-Attention ผู้ชมเข้ามาที่ยูทูบอย่างมีเป้าหมาย ไม่ว่าจะเพื่อเรียนรู้ รับข้อมูลที่ดี หรือค้นคว้าข้อมูลก่อนการตัดสินใจซื้อ โดย 92% ของคนไทยใช้ยูทูบเพื่อทำความเข้าใจในสิ่งที่สนใจอย่างเจาะลึกยิ่งขึ้น

2.R-Relevance คนไทย 91% มองว่าคอนเทนต์บนยูทูบมีความเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ตนสนใจอยู่เสมอ และ 3.T-Trust 88% ของคนไทยเชื่อมั่นในมุมมอง และความเห็นที่ครีเอเตอร์บนยูทูบมีต่อแบรนด์และผลิตภัณฑ์มากกว่าแพลตฟอร์มอื่น ๆ

“จากการร่วมงานกับยูทูบ ประเทศไทย ช่วง 11 ปีที่ผ่านมา ได้เห็นถึงวิวัฒนาการของแพลตฟอร์มมาโดยตลอด ทุกช่วงเวลามีครีเอเตอร์เป็นหัวใจสำคัญ รวมถึงแบรนด์ต่าง ๆ ยังร่วมมือกับครีเอเตอร์ในรูปแบบที่สร้างสรรค์และน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้แบรนด์ก้าวข้ามการโฆษณาแบบเดิม ไปสู่การสร้างพันธมิตรที่แท้จริงกับครีเอเตอร์บนยูทูบ”

เสียงสะท้อนจากแบรนด์

ด้าน “โสภณ แกะทอง” หัวหน้าฝ่ายสื่อและดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง บริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับยูนิลีเวอร์ “ยูทูบ” ไม่ได้เป็นเพียงแพลตฟอร์มวิดีโอ แต่เป็นแพลตฟอร์มธุรกิจที่ช่วยให้บริษัทสร้างมูลค่าแบรนด์ พร้อมขับเคลื่อนการตลาดที่เน้นประสิทธิภาพ สะท้อนผ่านตัวเลขสถิติของแบรนด์ต่าง ๆ เช่น TRESemme มียอดรับชมจนจบ (Completion Views) สูงกว่าแพลตฟอร์มอื่นถึง 7 เท่า และ Comfort มียอดจดจำโฆษณาเพิ่มขึ้น 16.6%

“รูปแบบวิดีโอที่หลากหลาย และคุณภาพของกลุ่มครีเอเตอร์ที่เป็นเอกลักษณ์บนยูทูบ ช่วยให้บริษัทเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถเล่าเรื่องราวของแบรนด์ที่น่าประทับใจและเข้าถึงใจผู้คน พร้อมขับเคลื่อนผู้บริโภคจากการรับรู้ไปสู่การตัดสินใจซื้อได้อย่างราบรื่น”

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่ “ยูทูบ” ได้กลายเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มธุรกิจที่ทรงพลังได้นั้นมาจากการสั่งสมฐานผู้ชมด้วยการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.