‘ทางหลวงชนบท’ เผยน้ำท่วมบนโครงข่ายทางหลวงชนบท สัญจรผ่านไม่ได้ 15 สายทาง เตรียมพร้อมนำเครื่องจักรเข้าจัดการสิ่งกีดขวางบริเวณที่ได้รับผลกระทบจากดินสไลด์ แนะประชาชนปฏิบัติตามป้ายเตือนเพื่อความปลอดภัย

3 ต.ค. 2568 – นายพิชิต หุ่นศิริ รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท(ทช.) รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่าขณะนี้ในส่วนของกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ยังได้กำชับสำนักงานทางหลวงชนบท (สทช.) และแขวงทางหลวงชนบท (ขทช.) ในพื้นที่ที่กำลังประสบเหตุน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง โดยได้เน้นย้ำให้หน่วยงานในสังกัดปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ทช. ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องมือเครื่องจักร ดำเนินการกำจัดดินโคลน และท่อนไม้ที่สไลด์ลงมากีดขวางการจราจรในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรได้อย่างสะดวกปลอดภัยโดยเร็ว นอกจากนี้ยังได้ให้ความสำคัญในเรื่องการบูรณาการร่วมกับจังหวัด ทั้งการสนับสนุนกำลังคน รถบรรทุกน้ำ การบริหารจัดการเส้นทางและอำนวยความสะดวกให้ประชาชน รวมไปถึงการส่งมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคเพื่อส่งต่อให้ผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

ทั้งนี้ ปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัยของ ทช. สำนักบำรุงทาง รายงานว่าขณะนี้ (3 ต.ค. 68 เวลา 11.00 น.) มีโครงข่ายในความรับผิดชอบของ ทช. ประสบอุทกภัยใน 23 จังหวัด รวม 52 สายทาง (อุตรดิตถ์, เพชรบูรณ์, แพร่, พะเยา, แม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่, กาฬสินธุ์, ชัยภูมิ, มหาสารคาม, ร้อยเอ็ด, อุดรธานี, อุบลราชธานี, จันทบุรี, ชลบุรี, ปราจีนบุรี, นครสวรรค์, พิจิตร, พิษณุโลก, ราชบุรี, ลพบุรี, สมุทรปราการ, สุโขทัย, พระนครศรีอยุธยา) แบ่งเป็นสามารถสัญจรผ่านได้ 37 สายทาง ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 15 สายทาง

1. ถนนทางหลวงชนบทสาย อต.2002 แยก ทล.11 (กม.ที่ 291+008) – บ้านแก่ง อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ กม.ที่ 10+600 – 11+075, กม.ที่ 2+600 – 3+000, กม.ที่ 10+600 – 11+075 ระดับน้ำ 15-55 เซนติเมตร2. สะพานข้ามแม่น้ำยม (สาย พร.001) อ.หนองม่วงไข่ จ.แพร่ กม.ที่ 0+485 – 1+185 น้ำกัดเซาะคอสะพานขาด3. สะพานแม่น้ำยม (สาย พย.002) อ.ปง จ.พะเยา กม.ที่ 0+300 – 0+700 น้ำไหลกัดเซาะผิวจราจรและคันทาง4. สะพานบ้านป่าปุ๊ (สาย มส.014) อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน กม.ที่ 0+000 – 0+000 สะพานชำรุดเสียหาย5. ถนนทางหลวงชนบทสาย รอ.4007 แยก ทล.2259 (กม.ที่ 19+400) – บ้านสว่าง อ.เสลภูมิ, โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด กม.ที่ 17+700 – 18+170 ระดับน้ำ 150 เซนติเมตร

6. ถนนทางหลวงชนบทสาย อด.4013 แยก ทล.2376 (กม.ที่ 16+375) – บ้านนาตูม อ.นายูง จ.อุดรธานี กม.ที่ 12+400 – 12+405 น้ำหลาก7. สะพานบางเคียน (สาย นว.017) อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ กม.ที่ 0+700 – 1+930 น้ำไหลกัดเซาะผิวจราจรและคันทาง8. ถนนทางหลวงชนบทสาย นว.3119 แยก ทล.225 (กม.ที่ 7+100) – ชุมชนเกาะยม กม.ที่ 0+500 – 2+700 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ระดับน้ำ 30 เซนติเมตร9. ถนนทางหลวงชนบทสาย นว.3102 แยก ทล.117 (กม.ที่ 16+150) – บ้านเนิน อ.เก้าเลี้ยว, ชุมแสง จ.นครสวรรค์ กม.ที่ 8+020 – 11+100 ระดับน้ำ 80 เซนติเมตร10. ถนนทางหลวงชนบทสาย พจ.4011 แยก ทล.1289 (กม.ที่ 10+900) – บ้านทุ่งอ่างทอง กม.ที่ 2+400 ถึง 3+060 อ.โพทะเล จ.พิจิตร ระดับน้ำ 40 เซนติเมตร

11. ถนนทางหลวงชนบทสาย พจ.4021 แยก ทล.1289 (กม.ที่ 10+060) – บ้านไผ่ท่าโพใต้ อ.บึงนาราง, โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร กม.ที่ 7+000 – 8+500 ระดับน้ำ 35 เซนติเมตร12. ถนนทางหลวงชนบทสาย พจ.5022 เชื่อมถนนเทศบาลตำบลโพทะเล – บ้านบางพล้อ อ.โพทะเล จ.พิจิตร กม.ที่ 3+051 – 6+951 ระดับน้ำ 25 เซนติเมตร13. ถนนทางหลวงชนบทสาย พล.4028 แยก ทล.1143 (กม.ที่ 40+300) – บ้านแก่งบัวคำ อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก กม.ที่ 1+500 – 3+520 ระดับน้ำ 100 เซนติเมตร14. สะพานหัวเวียง (สาย อย.020) อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา กม.ที่ 0+000 – 0+350 น้ำหลาก และ15. สะพานข้ามคลองบางหลวง (สาย อย.030) อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา กม.ที่ 0+000 – 0+683 น้ำหลาก ระดับน้ำสูง 116 เซนติเมตร

ทั้งนี้ สำหรับในพื้นที่ที่ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ทช. ได้ติดตั้งป้ายเตือน ป้ายบอกระดับน้ำ และปักเสาตามแนวเขตทาง เรียบร้อยแล้ว หากระดับน้ำลดลงจะเร่งดำเนินการประเมินสถานการณ์และเร่งเข้าซ่อมแซมเบื้องต้นโดยเร็วที่สุดต่อไป โดยประชาชนสามารถแจ้งเหตุอุทกภัยได้ที่แขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่หรือสายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146