“อนุทิน” สวมชุด อส. ควง 3 รมว. ลุยสุรินทร์ ดูสถานการณ์-เยียวยาประชาชนชายแดนไทย-กัมพูชา ลงนามสมุดเยี่ยมขอบคุณทหารที่รักษาอธิปไตย อวยพรให้ชนะ แคล้วคลาด ขณะแม่ทัพภาค 2 ป้ายแดง ย้ำมีความพร้อมแผนเผชิญเหตุ – สร้างขวัญกำลังใจ ดูแลสวัสดิการทหารอย่างมีประสิทธิภาพ
ที่ จ.สุรินทร์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย พร้อมด้วย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ นายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมช.กลาโหม พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์จากสนามบิน จ.บุรีรัมย์ ถึงท่าอากาศยานสุรินทร์ภักดี จ.สุรินทร์ ในเวลา 11.45 น. เพื่อปฏิบัติภารกิจลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา จ.สุรินทร์ รวมถึงติดตามตามการช่วยเหลือเยียวยาแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
จากนั้น เวลา 12.00 น. นายกฯ และคณะ เดินทางมาถึงกองบัญชาการกองกำลังสุรนารี โดยมี พล.ท.วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 และพล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ต้อนรับ จากนั้น นายกฯ ถวายราชสักการะพระรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ก่อนจะถ่ายภาพร่วมกัน
ก่อนเข้าร่วมประชุมรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์สถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา จ.สุรินทร์ โดยมีพล.ท.วีระยุทธ เป็นผู้รายงานสถานการณ์ว่า ขอบคุณที่นายกฯ มาตรวจเยี่ยมศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ซึ่งทางศูนย์ปฏิบัติการตามแนวความคิดรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดน ตามพันธกิจ 5 ประการ เพื่อสร้างความมั่นคง และสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยตามแนวชายแดน ซึ่งยังคงมีเงื่อนไขที่สำคัญ ดังนี้ ด้านชายแดนลาว ปัญหาที่สำคัญ คือปัญหาสันดอนในแม่น้ำโขง ที่เกิดจากสนธิสัญญาที่มีมาในอดีต และปัญหายาเสพติด มีผลการจับกุมยาบ้า ยาไอซ์ในปริมาณความผิดที่สูงขึ้น
พล.ท.วีระยุทธ กล่าวต่อว่า ด้านชายแดนกัมพูชามีปัญหาสำคัญ คือ ปัญหาแนวชายแดน และการลักลอบตัดไม้ ได้มอบให้กองกำลังสุรนารีรับผิดชอบ 5 จังหวัด และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง โดยมีแนวทางปฎิบัติที่สำคัญ ดังนี้ ปัญหาเส้นเขตแดนในห้วงที่ผ่านมา เกิดปัญหาความขัดแย้งจนถึงการใช้กำลังทหาร ส่งผลให้เกิดความสูญเสียแก่กำลังทหารและประชาชน ตั้งแต่วันที่ 24 – 28 ก.ค.68 ได้มีการเจรจาข้อตกลงหยุดยิง ที่ประเทศมาเลเซีย
ขณะที่หน่วยในพื้นที่ปัจจุบัน ได้วางกำลังควบคุมระยะสำคัญที่จะได้เปรียบทางยุทธวิธี จัดตั้งจุดศูนย์กลางเพิ่มมาตรการเฝ้าตรวจ ทั้งกำลังพลและเครื่องมือ ปรับปรุงที่มั่นดัดแปลงให้แข็งแรง รวมถึงเส้นทางที่มีการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ปรับปรับปรุงแผนเผชิญเหตุให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยให้ความสำคัญกับการจัดการเหตุการณ์การดำเนินการ และการยุทธ ให้มีความพร้อมในการเผชิญสถานการณ์เพื่อปฏิบัติได้ตามแผนที่กำหนด
อีกทั้งกำกับดูแลเรื่องสวัสดิการกำลังพลทุกระดับ เสริมสร้างขวัญและกำลังใจ เพื่อให้ปฎิบัติภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้อุดมการณ์ของกองทัพบกเพื่อชาติศาสน์กษัตริย์และประชาชน
ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นการฟังบรรยายสถานการณ์ นายอนุทิน ได้ลงนามในสมุดเยี่ยมของกองบัญชากองกำลังสุรนารี ว่า “ขอเป็นกำลังใจ และขออำนวยพรให้พี่น้องทหารปฏิบัติภารกิจรักษาอธิปไตยของชาติทุกคน จงประสบชัยชนะ และแคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวง ด้วยความเคารพ และขอบพระคุณยิ่ง”
จากนั้น นายกฯ ได้มอบสิ่งของบำรุงขวัญให้กำลังป้องกันชายแดนของกองกำลังสุรนารี อาทิ ข้าวสาร ไข่ไก่ น้ำมัน และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เป็นต้น
อย่างไรก็ตามการลงพื้นวันนี้ของนายอนุทิน ถือว่าเป็นครั้งแรก ตั้งแต่ดำรงตำแหน่งเป็นนายกฯ ซึ่งได้สวมเครื่องแบบกองอาสารักษาดินแดน ติดยศนายกองใหญ่ เทียบเท่ายศพลเอก ซึ่งเป็นยศของรมว.มหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดน กระทรวงมหาดไทย