สุโขทัยอ่วมหนัก แม่น้ำยมล้นตลิ่งท่วม 3 อำเภอ พนังกั้นน้ำเสียหายหลายจุด ผู้ว่าฯ ลงพื้นที่บัญชาการณ์ เผยการจัดการน้ำไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้
รายงานข่าวจากจังหวัดสุโขทัย จากระดับน้ำในแม่น้ำยม จ.แพร่มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น ทำให้เมื่อช่วงเวลา 02.00 น. มวลน้ำได้ไหลมาสมทบในจังหวัด จนทำให้น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน 3 อำเภอ ได้แก่ 1) อ.เมืองสุโขทัย หมู่ที่ 1 ชุมชนวัดคูหาสุวรรณ ตำบลปากแคว กระแสน้ำได้ซัดกระสอบทรายที่วางเรียงกั้นไว้ตกลงมาเป็นทางยาวกว่า 500 เมตร ทางเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เจ้าหน้าที่อส. และทหารจาก บชร.3 และ กอ.รมนสุโขทัย ได้เข้าให้การช่วยเหลือโดยเร่งวางกระสอบทราย ขวางทางน้ำบริเวณตลิ่งหมู่ 1 ขณะนี้ยังคงเหลืออีกประมาณ 100 เมตรถึงจะสามารถปิดกั้นทางไม่ให้น้ำเข้ามาได้ในช่วงนี้
2) อำเภอสวรรคโลก หมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 6 ตำบลท่าทอง ตรวจสอบพบว่าคันดินป้องกันน้ำริมแม่น้ำยมขาดเนื่องจากน้ำกัดเซาะ สภาพเบื้องต้น จุดดังกล่าวเป็นคันดินริมน้ำยมขาดประมาณ 50 เมตร ทำให้ปริมาณน้ำยมไหลเข้าท่วมพื้นที่อยู่อาศัยของชาวบ้านและพื้นที่ทำการเกษตร บ้านเรือนได้รับความเสียหาย ประมาณ 150 หลังคาเรือน
3) อำเภอศรีสำโรง หมู่ที่ 5 ชุมชนบ้านเกาะ ตำบลวัดเกาะ เกิดพนังกั้นแม่น้ำยมพังเสียหายกว่า 20 เมตรและเอียง 100 เมตร ทำให้น้ำไหลเข้าท่วม พื้นที่พักอาศัยและพื้นที่ทำการเกษตร ได้รับความเสียหาย 2 ตำบล คือ ตำบลวัดเกาะและตำบลบ้านนา บ้านเรือนได้รับความเสียหายประมาณ 350 หลังคาเรือน
ต่อมานายนพฤทธิ์ ศิริโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ได้ลงพื้นที่และให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์อุทกภัยจังหวัดสุโขทัยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมามวลน้ำที่ไหลผ่านสถานีวัดน้ำศรีสัชนาลัย วัดปริมาณได้ 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยปกติแล้วจะมีผันน้ำลงสู่คลองยม–น่าน ประมาณ 400 – 500 ลูกบาศก์เมตร และแบ่งเข้ามาในอำเภอเมืองประมาณ 500 – 600 ลูกบาศก์เมตร
แต่ข้อจำกัดการบริหารจัดการน้ำครั้งนี้ คือ ปริมาณน้ำในแม่น้ำน่าน ที่จังหวัดอุตรดิตถ์มีปริมาณมาก ทำให้มวลน้ำไหลเข้ามาสมทบในคลองยม-น่าน ทำให้การผันน้ำครั้งนี้สามารถแบ่งน้ำจากแม่น้ำยมไปได้เพียง 100- 200 ลูกบาศก์เมตรเท่านั้น จึงทำให้มวลน้ำที่เหลือไหลทะลักเข้าเมือง
ทำให้การบริหารจัดการน้ำครั้งนี้ไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ทางจังหวัดได้ โดยได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการบริหารจัดการเส้นทางน้ำ ตลอดจนการระบายน้ำเพื่อลดผลกระทบแก่ประชาชนโดยเร็ว ซึ่งอำเภอเมืองสุโขทัยได้นำรถแบคโฮจัดเรียงแท่งแบริเออร์ เสริมกระสอบทราย และอพยพประชาชน ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อย่างไรก็ตาม คาดว่าระดับน้ำจะเริ่มทรงตัวและจะทยอยลดลงหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม