‘สำนักงานสลากฯ’ คาดสัปดาห์หน้าสรุปเพดาน cash back ออมเงินจากการซื้อ L6 แบบดิจิทัล มั่นใจเริ่มได้ภายใน 4 เดือน พร้อมเดินเครื่อง ‘สลาก กอช.’ เคาะขายงวดแรกไม่เกิน ธ.ค. 68 ใบละ 50 บาท ซื้อสูงสุดได้ 3 พันบาทต่อเดือน

3 ต.ค. 2568 – พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ภายในสัปดาห์หน้าจะสรุปเพดานการคืนเงิน (cash back) สำหรับการออมเงินจากการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก (L6) แบบดิจิทัล ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการสลากฯ ซึ่งจะคิดจากสัดส่วนค่าใช้จ่ายและบริหารของสำนักงานกินแบ่งรัฐบาล โดยปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ 17% ซึ่งในสัดส่วนดังกล่าว ประกอบด้วยส่วนลดสำหรับตัวแทน 12-14% และค่าบริหารจัดการของสำนักงานสลากฯ อยู่ที่ 3-5% ทั้งนี้ ยืนยันว่า การดำเนินการดังกล่าวจะไม่กระทบกับสำนักงานสลากฯอย่างแน่นอน

สำหรับสัดส่วน 17% ที่เป็นค่าใช้จ่ายและบริหารของสำนักงานสลากฯนี้ อยู่ในอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่จะสามารถอนุมัติได้ ซึ่งเป็นไปตามพ.ร.บ.สำนักงานสลากฯ โดยมั่นใจว่าจะเริ่มได้ภายใน 4 เดือนอย่างแน่นอน

“cashback L6 ที่ประชาชนจะได้คืนนั้น จะต้องเป็นสลากดิจิทัลที่ซื้อผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันมีทั้งสิ้น 27 ล้านใบ สำหรับหลักการ คือ ผู้ซื้อที่ไม่ถูกรางวัลจะได้รับเงินคืนและนำไปสะสมไว้ โดยเบื้องต้นจะสามารถถอนได้เมื่ออายุ 55 ปี แต่หากอายุเกิน 60 ปี จะต้องถือไปอีก 5 ปีถึงจะได้เงินก้อนนั้นคืน และเริ่มรอบใหม่ได้” พ.ท.หนุน กล่าว

ปัจจุบันรายได้จากการขายสลากฯ ทั้งหมด แบ่งเป็น 60% เป็นเงินรางวัล, ไม่น้อยกว่า 23% ส่งรายได้เข้าแผ่นดิน และไม่น้อยกว่า 17% เป็นค่าใช้จ่ายและบริหารจัดการของสำนักงานสลากฯ

นายธีรลักษ์ แสงสนิท รองปลัดกระทรวงการคลัง ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กล่าวถึงการร่วมมือ (MOU) การออกรางวัลสลาก กอช. ระหว่างกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (GLO) ว่า การลงนามครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการออกรางวัล สลาก กอช. ให้เป็นไปตามหลักมาตรฐานสากล ISO 9001:2015 เช่นเดียวกับกระบวนการออกรางวัลของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

ขณะนี้ กอช. อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมทั้งระบบการขาย และการออกรางวัลสลาก กอช. ถือเป็นการสร้างนวัตกรรมการออมที่ตอบโจทย์สังคมยุคใหม่ เปิดโอกาสให้คนไทยทุกคนได้ออมเงินอย่างมีแรงจูงใจ ภายใต้แนวคิด ศุกร์ได้ลุ้น – สุขได้ออม เงินทุกบาทที่ซื้อสลากจะกลายเป็นเงินออมทั้งหมด ทั้งยังมีกลไกให้ผู้ซื้อติดตามและตรวจสอบผลรางวัลได้ด้วยตัวเอง

นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ กล่าวว่า สลาก กอช. เป็นนวัตกรรมการออมใหม่ ที่ใช้พฤติกรรมความชอบเสี่ยงดวงของคนไทยมาเปลี่ยนเป็นเงินเก็บ ผ่านการลุ้นรางวัลทุกสัปดาห์ โดยคนไทยทุกคนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป สามารถซื้อสลาก กอช. ได้ ในรูปแบบสลากขูดดิจิทัล ราคาใบละ 50 บาท ซื้อได้สูงสุด 3,000 บาทต่อเดือน (60 ใบ) ออกรางวัลทุกวันศุกร์ เวลา 17.00 น. แบ่งเป็น รางวัลที่ 1 มูลค่า 1 ล้านบาท จำนวน 5 รางวัล และรางวัลที่ 2 มูลค่า 1,000 บาท จำนวน 10,000 รางวัล ส่วนผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป สามารถซื้อได้ โดยต้องออมไว้ 5 ปี และยังซื้อได้ไม่จำกัดรอบ หากเสียชีวิต เงินออมทั้งหมดจะตกสู่ทายาทตามกฎหมายหรือบุคคลที่ผู้ซื้อระบุไว้

“ร่าง พ.ร.บ. กองทุนการออมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ที่ผ่านการเห็นชอบจากวุฒิสภามาแล้วนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างนายกรัฐมนตรี นำขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งกฎหมายจะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้น 60 วัน นับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ในระหว่างนี้ กอช. ได้นำเสนอร่างกฎกระทรวงหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการออกสลาก กอช. ซึ่งจะกำหนดเกี่ยวกับรูปแบบการออกรางวัล โดยกำหนด สลาก กอช. เป็นรูปแบบดิจิทัลและมีหมายเลขหกตัว ออกจำนวน 5 ชุด ชุดละหนึ่งล้านฉบับ ราคาฉบับละ 50 บาท มีสิทธิลุ้นรางวัลได้ถึงสามสิทธิ ลุ้นเลขหกตัวตรงรางวัลที่หนึ่ง เลขหน้าสามตัวและเลขหลังสามตัวเป็นรางวัลที่สอง โดยรายละเอียดในการออกรางวัล ให้กระทรวงการคลัง ได้พิจารณานำเข้า ครม. ต่อไป” นางสาวจารุลักษณ์ กล่าว

อย่างไรก็ดี เมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้แล้ว ผู้ที่สนใจจะสามารถซื้อผ่านแอปพลิเคชัน กอช. และเครือข่ายพันธมิตรในอนาคตได้ การสมัครทำได้ง่าย เพียงใช้เลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก และเลขหลังบัตรประชาชน สำหรับผู้ที่ถูกรางวัล เงินรางวัลจะถูกโอนเข้าบัญชีพร้อมเพย์ของผู้ซื้อทันที