การบินไทยเล่าถึงโปรเจกต์ ‘Good Taste for a Good Cause เบื้องหลังรสชาติไทยที่บินไกลทั่วโลก’ ที่นำอาหารไทยจากถนนสู่ท้องฟ้า จนกลายเป็นรสชาติระดับโลก ด้วยความตั้งใจที่จะอาหารไทยออกไปสู่ชาวโลกและต้องทำเพื่อสังคม ในงาน “อร่อยเอาเรื่อง” Food Carnival  จัดโดย เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ณ มิวเซียมสยาม ระหว่างวันที่ 3–5 ตุลาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 12.00–21.00 น.

เทศกาลอาหาร “อร่อยเอาเรื่อง” Food Carnival  จัดโดย เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ และสื่อเครือมติชน ร่วมกับ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด, บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท ซิลพิน เอเชีย จำกัด, บริษัท กานเวลา ช๊อคโกแลต จำกัด, บริษัท สยามรอยัล อินเตอร์เนชั่นแนล ในนามของแบรนด์ทิพย์สมัย, กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์, บริษัท เนสเล่ย์ (ไทย) จำกัด, บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน), กรมทรัพย์สินทางปัญญา, แกร็บ ประเทศไทย, มติชน, ข่าวสด, สำนักพิมพ์มติชน และพาร์ตเนอร์ เพจแถวบ้าน ในเครือปันโปร, เพจชอบกิน ในเครือ ShobShop Media, เพจ Starvingtime เรื่องกินเรื่องใหญ่, Torpenguin, EventPass, รายการเรื่องเล่าเช้านี้ และอีกมากมาย

อีกหนึ่งเทศกาลอาหาร “ดีที่สุด” “อร่อยที่สุด” “ว้าวที่สุด” เปิดงานเชิญชวนสายกินผู้ชื่นชอบประสบการณ์ความอร่อย มาเดินช้อป เดินชิมอาหารหลากหลายสไตล์ กลางสวนสวยใจกลางกรุงเทพฯ ณ มิวเซียมสยาม ระหว่างวันที่ 3–5 ตุลาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 12.00–21.00 น.

มีกิจกรรมไฮไลต์มากมายโดยเฉพาะ Talks & Taste พาทุกคนบินลัดฟ้าไปกับ ‘Good Taste for a Good Cause เบื้องหลังรสชาติไทยที่บินไกลทั่วโลก’ ชวนฟังเรื่องราวจากครัวการบินไทยที่พาอาหารไทยจากถนนสู่ท้องฟ้า จนกลายเป็นรสชาติระดับโลก พร้อมเบื้องหลังเมนูในตำนาน พบกับ ‘กิตติพงษ์ สารสมบูรณ์’ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย ปิยะ บุญนำกิจสวัสดิ์ CEO บริษัท ซิลพิน เอเชีย จำกัด, ธนา คุณารักษ์วงศ์ CEO/ผู้ก่อตั้ง บริษัท กานเวลา ช๊อคโกแลต จำกัด และ รศ.พญ.ธัญนันท์ ใบสมุทร รองประธาน ผัดไทยทิพย์สมัย

กิตติพงษ์ สารสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขอชื่นชมมติชนที่จัดงาน และผมชอบงานนี้มา ชื่องานอร่อยเอาเรื่อง ทำให้รู้สึกว่าทุกสิ่งที่มาต้องอร่อยเอาเรื่องที่มาที่ไปของ Streets to Sky มาจาก โปรเจ็กใหญ่ Good Taste for a Good Cause อร่อยเอาเรื่องไม่พอต้องดีต่อใจด้วย ราเคยเข้าแผนฟื้นฟู โดนช่วงโควิด วิธีการที่จะทำอะไรเราต้องคิดนอกกรอบ เรามีหลักคิดว่า ต้องเอาลูกค้าอยู่ตรงกลาง เอาตลาดเป็นตัวตั้ง สร้างแวร์ลู เราหากินกับมนุษย์เพราะลูกค้าเราคือมนุษย์ เราใช้หลักขันธ์ 5 ถ้าเราจะคิดอะไรต้องฟูฟีล ช่วงที่เราฟื้นฟูการบินไทยเราหมดความน่าเชื่อถือ ทำให้คนรัก องค์ประกอบที่คนจะรักท่าน ท่านก็ต้องน่ารักก่อน ต้องจริงใจ เสมอต้นเสมอปราย สังคหวัตถุ 4 ต้องรู้จักให้คือ ทาน ปิยวาจา อัตถจริยา  สมานัตตตา และต้องมีซอฟพาวเวอร์มาเกี่ยวด้วย จึงออกมาเป็น Good Taste for a Good Cause อร่อยอย่างเดียวไม่พอต้องดีต่อใจ อุดมไปด้วยสตอรี่ Streets to Sky คือสตรีทฟู้ดขึ้นฟ้า

กิตติพงษ์ กล่าวต่อว่า ซิลพิน ,กานเวลา ช๊อคโกแลต และ ผัดไทยทิพย์สมัย เป็นแบรนด์ไทยที่ทำเพื่อสังคม ซิลพินมีความเป็นไทยแท้ มีความโดดเด่นในเรื่องของการทำรสและกลิ่น สกัดกลิ่นจากพืชผัก กานเวลาเป็นผู้ประกอบการรายย่อยที่เป็นเทพแห่งช๊อคโกแลต อร่อย ได้รางวัลเมืองนอก และช่วยเกษตรกร ผัดไทยทิปสมัย เรากินมาตั้งแต่เด็ก จึงคุ้นเคย เราบอกลูกน้องว่าถ้าเป็นผัดไทยเราต้องเชื่อเขา เพราะเขาผัดมา 86 เป็นของไทยและอร่อย ผมชอบคำว่า “โลโค่ ฮีโร่” เราอยากให้โลโค่ฮีโร่เหล่านี้โกอินเตอร์การบินไทยจึงเลือกทั้งหมดมาด้วยเหตุผลเหล่านี้

กิตติพงษ์  กล่าวอีกว่า อาหารที่ทำบนดินได้สะดวก อาจจะนำไปทำบนเครื่องไม่ได้ มีข้อจำกัดหลายอย่าง เราต่างเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เราเคารพคู่ค้าเสมอ ไม่เอาเปรียบใคร ชนะบางแพ้บ้าง แต่ไปด้วยกัน ที่สำคัญ เราคือลมใต้ปีกของผู้ประกอบการ เพราะสายการบินแห่งชาติไม่ใช่แค่พาผู้คนไป แต่ต้องทำเพื่อประเทศชาติ เราคิดว่าเราอยากจะสนับสนุนแบรนด์ไทย ตอนนั้นคำว่าซอฟต์พาวเวอร์ยังไม่เข้ามา เราคิดว่าคนดีต้องให้ก่อน สายการบินไทยแห่งชาติต้องให้ก่อน ให้โอกาส กับผู้ประกอบการไทย เมื่อการบินไทยให้โอกาสเขา มันก็นำไปสู่ชาวบ้านเกษตรกรในประเทศของเราเอง

“เราใช้หลัก 2 ข้อบอกน้องๆ ทุกคน อะไรก็ตามที่เราจะทำประเทศชาติและสังคมต้องได้ประโยชน์ก่อน แล้วจึงจะมาข้อที่สองคือการบินไทยได้ประโยชน์ รุ่นใหญ่ต้องคิดถึงส่วนรวมก่อนส่วนตัว เช่นเดียวกัน สายการบินแห่งชาติต้องนึกถึงประเทศชาติ และสังคมก่อน ตอนเข้าแผนฟื้นฟูแล้วมืดมิดมาก เราค่อย ๆ แก้ ปัญหา ถ้าเราใส่ใจสังคมและโลก กำไรมันจะมาเอง ถ้าถามเรื่องผลประกอบการ ถ้าไม่ดีก็ไม่ออกมาจากแผนฟื้นฟูหรอกครับ”

“โปรเจกต์นี้ การบินไทยจะออกอาวุธทั้งที มันต้องลึกและกว้าง ให้เครดิตมติชน เราอ่านหลายเล่มที่เกี่ยวกับอาหารของมติชน เรารู้ว่าอาหารไทยแท้ ๆ ไม่มี เราจึงได้แรงบันดาลใจ จากอุตสาหกรรมการกินของสุวรรณภูมิ เราให้โจทย์สามข้อ อาหารต้องอร่อย มีคุณภาพใช้วัตถุดิบของไทย ทำได้จริง อุดมไปด้วยสตอรี่ ถ้าน้องๆ ทำได้ก็มาเลย เมื่อเราทำออกไป ผู้โดยสารชอบ ผลตอบรับดีมาก ในทุก ๆ คลาส ไม่ใช่เฉพาะชาวต่างชาติ แต่คนไทยก็ชอบด้วย เราทำตัวคอทเทล ที่มาจากแรงบันดาลใจของ ร.5 จากข้อมูลการเสด็จประพาสเบลเยี่ยมของท่าน”

“สำหรับแบรนด์อื่น ๆ ข้อแนะนำ คือท่านต้องค้นหาตัวตนท่านก่อน ว่ามีจุดแข็งอะไร ลูกค้าคือใคร ถ้าจะทำอาหารต้องอร่อย มีข้อแตกต่าง 2 การที่อยากมาร่วมงานกับการบินไทย เราใช้ มหาศาล ต้องพร้อมโตด้วย ค่อย ๆ เป็นค่อยไป ค้นหาตัวตน สร้างจุดแตกต่าง อุดมไปด้วยสตอรี่ เมื่อเริ่มแข็งแรง พร้อมก็มาคุยกัน” กิตติพงษ์  กล่าว

ปิยะ บุญนำกิจสวัสดิ์ CEO บริษัท ซิลพิน เอเชีย จำกัด กล่าวว่า ซิวพินมาจากคำว่า ศิลปิน แรงบันดาลใจมาจากในหลวงรัชกาลที่ 9 ช่วงที่ท่านจากพวกเราไป พรหม ท่านทำหลายอย่างให้กับประเทศไทย เราอยู่เบื้องหลังแบรนด์ดังๆ หลาย ๆ แบรนด์ ไม่มีใครพูดว่าเราใช้กลิ่น เพื่ออรรส เราเปิดแบรนด์ที่ฝรั่งเศสก่อนกลับมาอยู่ที่เมืองไทย ของสิ่งต่างๆ มีคำพูดของพระองค์ท่านว่า ถ้าเราทำ หน้าที่ของตัวเองได้ดี ก็เป็นการช่วยประเทศชาติแล้วเหมือนกัน ช่วงนั้นมีการทะเลาะเบาะแว้งเกิดขึ้นถ้าทุกคน กลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง ก็คงไม่มีใครอยู่บนถนน จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการที่เราออกมาอยู่เบื้องหน้ เรามีความเชื่อว่าประเทศไทยมีสินค้าเกษตรไทย

ปิยะ  กล่าวว่า วานิลลา เป็นสินค้าเกษตร คนทั่วโลกไม่ได้กินฝักวนิลาแต่ทานกลิ่นวานิลลา มุมมองของเราคือทำยังไงให้ประเทศไทยมีกลิ่น จึงเริ่มตั้งแต่วันนั้น การบินไทยอยู่ในแผนฟื้นฟูธุรกิจ เราบอกลูกน้องว่าเราจะต้องรอ วันที่เราได้ร่วมงานกับการบินไทย ถ้าเราจะร่วมงานกับสายการบินต้องเป็นสายการบินแห่งชาติ ก็คือการบินไทยเท่านั้น เมื่อวันนั้นมาถึงเราก็ดีใจ การบินไทยอยากทำให้สายการบินไทย มีจุดเด่น มีความแตกต่าง มอบประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้โดยสารหลังจากออกจากแผนฟื้นฟู ด้วย อายตนะ 6 มันคือมิชชั่นของเราเหมือนกัน ที่อยากให้ประเทศไทยถูกมองในมุมมองที่แตกต่างจาก ประเทศอื่น เราไม่เคยขายข้าวด้วยกลิ่นของข้าวหอมมะลิไทย ประเทศฝรั่งเศสขายกลิ่นคือขายไวน์ จากแอลกอฮอล์ ฝรั่งเศสอธิบายตัวไวน์ด้วยกลิ่น ทำให้ไวน์ฝรั่งเศสแพงขึ้น จึงคิดว่า ต้องทำให้สินค้าไทยเป็นแบบนั้นบ้าง มันตรงทั้งความตั้งใจความคาดหวังและแพสชันของเรา จึงได้มาคุย กับทางการบินไทย นี่คือจุดเริ่มต้นในการเริ่มงานกัน

ทีมเราทุกคนรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในเส้นทางนี้ ซึ่งมีอีกโปรเจกของการบินไทยคือ soil to sky และแรงบันดาลใจของแบรนด์เหล่ามาจาก ชื่อในหลวงภูมิพล พลังจากแผ่นดิน ทุกอย่างในแบรนด์เราก็มาจากแผ่นดิน แค่เราได้ทำโปรเจ็กต์ร่วมกับสายการบินแห่งชาติ ก็ เป็นเรื่องที่ภูมิใจมากแล้ว

“แรงบันดาลใจเรามาจากรัชกาลที่ 9 แต่คอนเซปต์มาจากรัชกาลที่ 5 ในช่วงที่ท่านเปิดแผ่นดิน ท่านฉลองพระองค์เป็นสูตรสากล เอาตัวเองออกไปให้ทั่วโลกรู้จัก ใจเป็นไทยรูปลักษณ์ของเราเป็นไทยออกไปสู่ต่างชาติ หลังจากได้ร่วมโปรเจ็กต์กัน มีคนเข้ามารู้จักเรามากขึ้น มีคนเข้ามาขอสูตร “Rose of the Royal Voyage” เครื่องดื่มที่เราทำ คนติดต่อมาเยอะจากที่เราเป็นแบรนด์เบื้องหลังไม่ค่อยมีใครรู้จัก เราก็ถามทางการบินไทยว่าควรให้สูตรไหม เขาบอกว่าให้ไปเลย เขาอยากให้ rrv อยู่ในใจของทุกคน ถ้าการบินไทยจะไปที่ไหน แล้วคิดถึงเรา เราจะไปด้วย” CEO บริษัท ซิลพิน เอเชีย จำกัด กล่าว

ธนา คุณารักษ์วงศ์ CEO/ผู้ก่อตั้ง บริษัท กานเวลา ช๊อคโกแลต จำกัด กล่าวว่า เราเริ่มจากการปลูกโกโก้ก่อน ไม่ได้คิดว่าจะทำช็อกโกแลต แต่หนึ่ง เราเริ่มศึกษา เรามองเห็นตลาดว่าต่อไปจะไม่มีการซื้อ ผลผลิตและผลผลิตในตลาดจะล้น เราไปศึกษา แล้วพบว่ามูลค่าจริงๆ อยู่ที่ช็อกโกแลต จึงเริ่มทำช็อกโกแลต 70% ของผู้ผลิตอยู่ที่แอฟริกา

อเมริกาและยุโรป คือประเทศที่ช็อกโกแลตเยอะที่สุดในโลก เขาเป็นเมืองหนาวและปลูกไม่ได้ เราเห็น พ้อยท์ตรงนี้ เราทราบว่าถ้าซื้อช็อกโกแลต หนึ่งร้อยบาท จะมี ประมาณเพียงสามบาทที่ตกไปถึงมือ คนปลูก ช็อกโกแลตเป็นอาหารจากแรงงาน ทาส ตอนนี้ผู้ผลิตหลายๆ คนพยายามจะปรับสมดุลตรงนี้ เราคิดว่าคนไทยจะดีแค่ไหน ถ้าได้ทำช็อกโกแลต ปลูกเอง เป้าหมายของเราไม่แพ้ ใครในโลก

“เราศึกษา และจะทำเป็นธุรกิจ เราคิดว่าการทำธุรกิจ จะสร้างอิมแพค ช่วยเหลือหลายหลาย คนที่เรารู้จักได้ ที่ปลูกโกโก้เหมือนกัน เรามีความฝันว่าถ้าวันหนึ่งช็อกโกแลตของเราได้อยู่บนสายการบินแห่งชาติ มันเป็นความฝันที่เราไม่กล้าคาดหวัง จนวันนึงเมื่อโอกาสมา เราใกล้ความฝันมากเมื่อการบินไทยติดต่อมา เมื่อเราได้โอกาส ที่ช็อกโกแลตของเราจะขึ้นไปอยู่บนเครื่อง จึงควาโอกาสนั้นไว้ ช็อกโกแลตของเราเป็นช็อกโกแลตที่ปลูกในหมู่บ้านคลองลอย เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์”

“หมู่บ้านเล็ก ๆ นี้ปลุกโกโก้กันอยู่ไม่มาก แต่เขาได้เห็น โกโก้ของเขาขึ้นไปอยู่บนสายการบินไทย คนในหมู่บ้านปูโกโก้กันเพิ่มขึ้นกว่า สามร้อย ครอบครัว ตอนนี้ เป็นเพราะเขาเห็นว่าการบินไทยช่วยสนับสนุนเขา พวกเขาดีใจที่ชื่อหมู่บ้านเขาได้ขึ้นไปอยู่บนการบินไทย เรามีแบรนด์คาร์เทียร์ ทิฟฟานี่ ที่แจกช็อกโกแลตของเรา สิ่งนี้การันตีโดยการบินไทยว่าช็อกโกแลตของเรา มีคุณภาพ สิ่งนี้ไม่ได้ส่งผลแค่กานเวลา มันส่งผลไปถึงคราฟช็อกโกแลตของไทย ที่กำลังโต ดังนั้นเราจึงต้องมา ช่วยกัน เพื่อทำให้ตลาดใหญ่ยิ่งขึ้น ก็จะมั่นใจในคุณภาพเมื่อถึงวันนั้นเกษตรกร ที่ปลูกโกโก้ในไทย จะอยู่ได้อย่าง มีความสุข เป็นเป้าหมายของเรา”

รศ.พญ.ธัญนันท์ ใบสมุทร รองประธาน ผัดไทยทิพย์สมัย กล่าวว่า แบรนด์ของเรา 86 ปีแล้วเป็น เจน 3 โดยผัดไทยอยู่คู่คนไทยมานานเป็นอาหารประจำชาติ เรามีผัดไทยหลากหลายรูปแบบ เรามีชื่อเสียงที่ผัดไทยมันกุ้ง กุ้งสด ยุคสมัยเปลี่ยนไป คนชอบทานอะไรเปลี่ยนไป เป็นเป้าหมายของเราที่จะทำอาหารของเราให้ เข้ากับลูกค้าทุกคนทุกชนชาติ เราอยากให้ผัดไทยออกไปสู่โลก หลาย ๆ ครั้ง ที่อื่นเอาผัดไทยไปเปลี่ยนแปลง เราจึงเริ่มทำผลิตภัณฑ์ ให้ทุกเพศทุกวัย ก่อนที่เพิ่งเริ่มการบินไทยจึงมาเห็นเรา จึงได้คุยกันถึงโปรเจกต์นี้ มันจึงตรงกับสิ่งที่เราอยากทำมากๆ ที่อยากให้ผัดไทยออกไปสู่โลกภายนอก เขาบอกว่าอยากทำอาหารที่อร่อยและมีคุณภาพให้ผู้โดยสารการบินไทยทุกทุกคน สิ่งนี้สร้างแรงบันดาลใจของเรามากๆ เป็นความท้าทายของเรา ที่ผัดไทยแช่แข็ง จะทำอย่างไรให้ออกมาดีเพราะยากมาก เมื่อเราทำสำเร็จจึงได้เข้าร่วมกับโปรเจกต์นี้ ขอบคุณที่ให้ทิพย์สมัยได้ทำในสิ่งที่เราอยากทำ เรามีโจทย์ใหม่ที่การบินไทยให้มา ชื่อผัดไทยอร่อยเหาะ ทุกรุ่นมีซิกเนเจอร์ของตัวเองที่เราทำมา จึงออกมาเป็นผัดไทยซูเปอร์ ผัดไทยปูก้อน เสิร์ฟให้ บิสซิเนสคลาส อีกทั้งเราอยากคืน สู่สังคม ปูก้อนนี้เราสนับสนุน ชาวประมง ที่นครศรีธรรมราช สร้างอาชีพให้เขา เป็นความภูมิใจของเรามากๆ มีความเปลี่ยนแปลงเยอะมากหลังจากเราร่วมงานกัน เพื่อนๆ ของเรา จากที่ไม่เคยติดต่อกันก็ไลน์เข้ามา มาชมว่าอร่อยจริง หลังจากได้ทานบินเครื่อง มีเสียงตอบรับดีมาก

เทศกาลอาหาร Food Carnival “อร่อยเอาเรื่อง” ที่เส้นทางเศรษฐี และสื่อเครือมติชน ร่วมกับผู้สนับสนุนใจดี และพาร์ตเนอร์มากมาย จัดขึ้นด้วยความตั้งใจ เพื่อเชิญชวนทุกคนมาร่วมสัมผัสประสบการณ์กินดื่มตลอด 3 วันเต็ม ณ มิวเซียมสยาม ตั้งแต่ 12.00-21.00 น.