นับถอยหลัง 61 วันไทยเจ้าภาพซีเกมส์ ยันเปลี่ยนแมสคอตไม่ขัดหลัก
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) เป็นประธานในกิจกรรมนับถอยหลังเข้าสู่การจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ของประเทศไทย “Countdown Together Thailand” ที่ลานอเนกประสงค์อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา กกท.หัวหมาก เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม
ดร.ก้องศักดกล่าวว่า ต้องขอบคุณรัฐบาลใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์เป็นเรื่องสำคัญที่สุดในช่วง 61 วันสุดท้าย ก่อนการแข่งขันระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม จะมีความเข้มข้นในการประชาสัมพันธ์ในจังหวัดเจ้าภาพมากขึ้น ทั้งกรุงเทพมหานคร, ชลบุรี, สงขลา ในเรื่องของงบประมาณในการจัดการแข่งขันเข้าสู่ปีงบประมาณ 2569 แล้ว จังหวัดที่มีการแข่งขันจะมีการประชาสัมพันธ์ไปพร้อมๆ กัน ส่วนเรื่องเบี้ยเลี้ยงและงบในด้านต่างๆ ของสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ก็ได้มีการโอนเงินไปแล้วกว่า 30 สมาคม และจะมีการโอนให้สมาคมที่เหลือได้ทันกรอบเวลาในสัปดาห์อย่างแน่นอน ในช่วงเวลาที่เหลือก็จะมีการไปเยี่ยมชมการฝึกซ้อม รับฟังปัญหาของแต่ละชนิดกีฬา เพื่อให้การเตรียมทีมนักกีฬาไทยมีความพร้อมมากที่สุด
ดร.ก้องศักดกล่าวอีกว่า ในส่วนของแมสคอตซีเกมส์ที่มีการเปลี่ยนเแปลงเป็นลายธงชาติจนถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องชาตินิยมไม่เหมาะกับการเป็นแมสคอตในกีฬาระดับนานาชาตินั้น เราน้อมรับคำวิจารณ์เรื่องนี้ อย่างไรก็ตามมองว่า แมสคอตใหม่เป็นการสื่อถึงการรักชาติ และความภาคภูมิใจในความเป็นชาติ ที่ถูกวิจารณ์เรื่องสีธงชาตินั้น ไม่ได้ขัดต่อกฎโอลิมปิกนานาชาติ ที่ผ่านมา โอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แมสคอตก็ถือธงชาติ, โอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่ประเทศอังกฤษ ก็มีลายธงชาติยูเนียนแจ็กบนตัวแมสคอต ขณะที่แมสคอต “เดอะสาน” เดิม 7 ตัวไม่ได้ถูกยกเลิก จะยังมีส่วนร่วมกับซีเกมส์และอาเซียนพาราเกมส์ทั้งหมด แต่การรวบเหลือเพียง 2 ตัวนั้น เป็นนโยบายที่นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอให้ใช้เพื่อมอบให้กับนักกีฬาตอนมอบเหรียญเป็นหลักเท่านั้น