จากลูกน้องที่เคยทำงานทุกแผนกใน Flash Express แบบไม่รับเงินเดือน “คมชัย แซ่ลี” ก้าวข้ามบทเรียนหนี้ 100 ล้านในวัย 26 สู่ผู้สร้างธุรกิจ “Mysave” เครือข่ายแฟรนไชส์ขนส่งครบวงจรมากกว่า 7,000 สาขาทั่วประเทศ พร้อมรายได้แตะ 435 ล้านบาทภายในปีเดียว สะท้อนปรัชญาการทำงาน “อยู่ให้รอดก่อนกำไร” ผลักดันการเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่น่าจับตา
“คมชัย แซ่ลี” น้องชายแท้ ๆ ของ “คมสันต์ แซ่ลี” ผู้ก่อตั้ง Flash Express ทั้งคู่เติบโตบนดอย ในบ้านที่พ่อเป็นนักธุรกิจ แม่เป็นครูสอนภาษาจีน เรียนจบจากคณะวิทยาการจัดการ สาขาโลจิสติกส์และธุรกิจระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ก่อนจะเข้าสู่วงการขนส่งกับ Flash Express ในฐานะ “น้องชายเจ้าของ” แต่ไม่ได้รับสิทธิพิเศษใด ๆ เริ่มต้นจากศูนย์ ลงมือเรียนรู้ทุกแผนกด้วยตัวเอง ทั้งฝ่ายขาย ไรเดอร์ ไปจนถึงการคัดแยกพัสดุ
แม้ต้องทำงานแบบไม่รับเงินเดือนถึง 2 ปี เพื่อเข้าใจระบบจากฐานรากบริษัท ก่อนพลิกบทบาทจากลูกจ้าง สู่นายหน้าร้อยล้าน ก่อนต่อยอดสร้างแฟรนไชส์ขนส่ง “Mysave” ที่มีมากกว่า 7,000 สาขาทั่วประเทศ ตั้งหัวแถวใหม่พิสูจน์ตัวตนจากหนี้ 100 ล้าน เพื่อกลับมายืนแถวหน้าอีกครั้ง
หลังเรียนจบปริญญาตรี คณะวิทยาการจัดการ สาขาโลจิสติกส์และธุรกิจระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง คมชัยตั้งใจอยากทำงานกับ Flash Express แต่ติดกับกฎ “ห้ามคนในครอบครัวทำงานด้วยกัน” จึงไปลองงานอื่นอยู่ช่วงหนึ่ง ก่อนจะได้โอกาสกลับเข้า Flash ด้วยเงื่อนไข ทำงาน 2 ปี แบบ “ไม่รับเงินเดือน” เพื่อแลกกับประสบการณ์ที่ได้จากทุกแผนก
แผนกแรกที่ทำคือฝ่ายขาย กับบทเรียนแรกที่ได้ “ทำงานฝ่ายขาย ต้องหน้าด้าน” กล้ารับคำตำหนิ เพื่อนำไปปรับปรุงบริการในยุคที่ Service Time ยังไม่ดี จึงร่วมมือกับทีมลงพื้นที่หาลูกค้าไม่หยุด จากทีมเล็ก ๆ ขยายจนเป็นทีมใหญ่กว่า 40 คน
แผนกที่สอง ไรเดอร์ ด้วยงบฯจำกัด เขาต้องนั่งรถเมล์พาทีมไปทำงานนอกสถานที่ ฝึกทำหน้างานทุกบทบาท กระทั่งผงาดมาดูแลฝ่ายขาย และกลายมาเป็นหัวหน้าไรเดอร์ที่คุมผู้จัดการทุกสาขา
แผนกที่สาม คัดแยกพัสดุ ช่วงที่ระบบยังต้องพึ่งแรงงานคน พอปริมาณพัสดุพุ่งสูงเกิดปัญหา “คลังแตก” คมชัยก็ต้องอยู่แก้ปัญหาถึงเช้าทุกวัน และผลักดันการนำเครื่องจักรเข้าระบบ เพื่อลดคอขวดการคัดแยก
ในที่สุดก็ได้เปิดสาขาแรก คมชัยมีส่วนดูแลสาขาประตูน้ำ พร้อมบันทึก “ลูกค้าคนแรก” ของบริษัท
1.”อย่าโง่แต่เสือกขยัน” คมชัยเคยเล่าว่า ความผิดพลาดใหญ่ที่สุดของตัวเองคือ “ขยันผิดทาง” เพราะช่วงแรกยอมรับว่าเคยขยันทำในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าดี แต่กลับไม่ใช่สิ่งที่ลูกค้าต้องการ พอมาเจอความจริงในสนามธุรกิจ จึงเข้าใจว่า ความขยันจะมีค่าก็ต่อเมื่อมันถูกใช้กับสิ่งที่ตอบโจทย์ลูกค้า
2.”วันแรกของธุรกิจ อย่าหวังแต่กำไร ให้อยู่รอดก่อน” เจ้าของธุรกิจที่เพิ่งเริ่ม ถ้ามัวมองหากำไรทันที มักจะผิดหวัง สิ่งที่ควรทำคือ เข้าใจทุกกระบวนการของบริษัทของตัวเอง ตั้งแต่เล็ก ๆ ทั้งการขาย การตลาด การปฏิบัติการ หรือการบริการลูกค้า เมื่อเข้าใจแล้วจึงจะหาคนที่เหมาะสมเข้ามาแทนได้ และธุรกิจจะค่อย ๆ ขยาย
คมสันต์สอนน้องว่า “สิ่งรอบข้างสำคัญกว่าทุกอย่าง” คมชัยไม่เชื่อ และค้านอยู่เสมอว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเรา แต่มีวันหนึ่งพี่ชายส่งวิดีโอบทเรียนของ “ลูกข่าง” ที่หยุดนิ่ง พี่ชายเล่าว่า หากมันอยู่ท่ามกลางลูกข่าง ที่หมุนไปข้างหน้า มันก็จะพาลูกข่างที่หยุดอยู่เคลื่อนไปด้วยโดยไม่รู้ตัว ตรงกันข้าม เมื่อเปรียบลูกข่างเป็นคน หากคนที่หยุดนิ่งอยู่ท่ามกลางคนที่ถอยหลัง เราก็ถอยตาม
หลักคิดนี้ทำให้คมชัยเชื่อพลังทีมงานและวัฒนธรรมองค์กร ถ้าสาขารายล้อมด้วยคนขยันและสู้ชีวิต ยอดขายก็เติบโตไปพร้อม ๆ กัน
ครั้งหนึ่งในวันเดียว คมชัยเคยหยิบเงินจากตู้เสื้อผ้าไปซื้อขนม ผ่านมาจนโตขึ้น เขาถามแม่ว่า รู้เรื่องนี้หรือไม่ แม่ตอบว่า “รู้สิลูก เพราะแม่เป็นคนเอาเงินใส่ไว้ตรงนั้นเอง” แต่เธอเลือกที่จะไม่ย้ายที่ซ่อน เพราะกลัวว่าลูกจะหาไม่เจอ
เรื่องเล็ก ๆ นี้ทำให้เขาซึมซับว่า “ไม่มีอะไรที่แม่ไม่รู้ และแม่ให้เราได้ทุกอย่าง” กลายเป็นรากฐานความกตัญญูและความรับผิดชอบต่อคนรอบตัว โดยเฉพาะเมื่อต้องดูแลพนักงานและผู้ลงทุนในภายหลัง
ก่อนออกมาสร้างบริษัทของตัวเอง คมชัยยอมรับว่าเคยติดหนี้ 100 ล้านบาทในวัย 26 แต่ไม่คิดหนี เพราะห่วงคนที่ลงทุนกับตัวเอง จึงเปลี่ยนบทบาทจากลูกหนี้ มาเป็น “ซีอีโอที่ฟังทุกเสียง” ลงพื้นที่จริง แม้บางสาขาอยู่บนดอย หรือไกลจากกรุงเทพฯ 8 ชั่วโมง เพื่อเข้าใจทุกปัญหา ไม่ว่าจะยอดไม่ถึง ขายไม่ออก หรือผู้ประกอบการเริ่มหมดกำลังใจ
ช่วงแรกคมชัยทำหน้าที่นายหน้าหาลูกค้าให้ Flash จนสร้างรายได้หลายล้าน แต่มองว่ายังไม่มั่นคงพอ เพราะไม่ใช่ “แถวหน้า” จึงตั้งหลักใหม่ เมื่อมีเงินตั้งตัว เริ่มต้นออกแบบ โมเดลแฟรนไชส์ “จุดบริการชุมชนครบวงจร” ให้บริการรับ-ส่งพัสดุทั่วประเทศ เชื่อมหลายค่ายขนส่ง (เช่น Flash, J&T, SCG, Ninja, DHL และอื่น ๆ) ช่วยให้ผู้ประกอบการรายย่อยไม่ต้องเริ่มจากศูนย์เหมือนที่เคยผ่านมา
คมชัยเรียกมันว่า “หัวแถวใหม่” ที่สร้างขึ้นด้วยสองมือ ตั้งเป้าสร้างเครือข่ายบริการที่ช่วยให้แฟรนไชส์ “มีกำไรจริง” เป็นเป้าหมายสูงสุด
วันนี้คมชัยระบุว่าเครือข่ายแฟรนไชส์รวมขนส่งที่เขาดูแลมีมากกว่า 7,000 สาขาทั่วประเทศ มีขนส่งที่เป็นพันธมิตรร่วมด้วย 14 แบรนด์ และคมชัยยังลงพื้นที่ต่อเนื่อง เพื่อรับฟังปัญหาและช่วยให้แต่ละสาขาเดินได้ด้วยตัวเอง
ฐานข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) ระบุว่า บริษัท มายเซฟ เซอร์วิส จำกัด ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2566 ด้วยทุนจดทะเบียน 6 ล้านบาท สามารถสร้างผลงานทางการเงินที่โดดเด่นในปี 2567
ตัวเลขล่าสุดชี้ว่า บริษัทมีรายได้รวม 435,263,139 บาท พร้อมกำไรสุทธิ 17,046,348 บาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 14.22% ขณะที่สินทรัพย์รวมแตะ 482,013,005 บาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้น 12,762,585 บาท
ผลประกอบการดังกล่าวสะท้อนศักยภาพการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของบริษัทหน้าใหม่ที่สามารถผลักดันรายได้แตะหลักหลายร้อยล้านบาทได้ภายในเวลาเพียงปีเดียว นับเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าจับตาในเครือข่ายการขยายตัวด้านบริการของตระกูลแซ่ลี
