หุ้นไทยร่วงแรง 20.60 จุด นักลงทุนหวั่นสงครามการค้ารอบใหม่ สหรัฐฯ-จีน ทั้งนี้ตั้งแต่ต้นปีนักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิหุ้นไทยแล้วกว่า 98,170.62 ล้านบาท
วันที่ 14 ต.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ปิดที่ระดับ 1,266.38 ลดลง 20.60 จุด หรือ ลบ 1.60% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของวัน ด้วยมูลค่าซื้อขาย 42,503.92 ล้านบาท เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลสงครามการค้ารอบใหม่ หลังสหรัฐและจีนมีความตึงเครียดเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่
โดยนางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทย ดัชนีปรับตัวลดลงอย่างร้อนแรง โดยมีแรงกดดันจากความไม่แน่นอนของสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ประกอบการเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ที่ไหลออกเป็นปัจจัยกดดันเพิ่มเติม
โดยจากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) พบว่า นับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 10 ต.ค. 2568 กลุ่มนักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิหุ้นไทยแล้วกว่า 98,170.62 ล้านบาท และมีแรงขายปริมาณมาก นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน ขนส่ง และค้าปลีก
“ดัชนีปรับตัวลงจากความกังวลเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้โพสต์บนโซเชียลมีเดียเมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา ประกาศเตรียมขึ้นภาษีสินค้าจากจีน เพิ่มอีก 100% เพื่อตอบโต้ที่จีนออกมาตรการควบคุมการส่งออกในกลุ่มแร่หายาก (rare earths) ซึ่งเป็นทรัพยากรยุทธศาสตร์ที่จีนถือครองอิทธิพลในตลาดโลก โดยโฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน ได้ออกมาตอบโต้ว่า จุดยืนของจีนยังเหมือนเดิมในเรื่องสงครามภาษีและสงครามการค้า หากอีกฝ่ายอยากสู้ จีนจะสู้จนถึงที่สุด แต่หากอยากเจรจาประตูก็ยังเปิดอยู่เสมอ สร้างความกังวลให้กับตลาดทุนโดยรวม” นางสาววิลาสินี กล่าว