‘พิพัฒน์’ เด้งรับนโยบายคนละครึ่ง ระบบขนส่งสาธารณะหนุนบริการประชาชนลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง จ่อใช้ ‘รถเมล์ – แท็กซี่ – เรือโดยสาร’ พร้อมให้บริการทันที 29 ต.ค.นี้
15 ต.ค. 2568 – นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังได้เปิดตัวโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกมิติ โดยเฉพาะในส่วนของการคมนาคมขนส่งสาธารณะ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหมวดสำคัญที่รัฐบาลให้ความสำคัญ เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางได้อย่างสะดวก ประหยัด และเกิดประโยชน์กับผู้ให้บริการขนส่งทุกระดับอย่างทั่วถึง
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมพร้อมสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลอย่างเต็มที่ เพื่อให้ระบบขนส่งสาธารณะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ประชาชนสามารถใช้สิทธิ์ “คนละครึ่ง พลัส” ได้จริง ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการรายย่อย รถโดยสารสาธารณะ และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม โดยเชิญชวนผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะทุกประเภทเข้าร่วมลงทะเบียนเป็นร้านค้าถุงเงินผ่านเว็บไซต์ www.ถุงเงินกรุงไทย.com ได้ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม ถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2568
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้เตรียมความพร้อมสำหรับบริการขนส่งมวลชนสาธารณะ ซึ่งผู้ประกอบการสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ อาทิ ผู้ประกอบการประเภทรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน (TAXI – METER) รถตู้โดยสารประจำทางที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย รถยนต์สามล้อสาธารณะ รถสองแถวรับจ้าง และรถจักรยานยนต์สาธารณะ ทั้งนี้ ผู้ขับขี่ต้องมีใบขับขี่รถสาธารณะที่ถูกต้องตามกฎหมาย
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการประเภทรถไฟฟ้าในเขตเมือง รถไฟ รถโดยสารประจำทางสาธารณะ และเรือโดยสารสาธารณะ ที่ยังไม่เคยลงทะเบียนในโครงการคนละครึ่งที่ผ่านมาก็สามารถลงทะเบียนเพิ่มเติมได้ โดยจากข้อมูลที่ผ่านมา พบว่าส่วนของผู้ประกอบการรถไฟฟ้า BTS และ MRT ได้มีการลงทะเบียนเข้าร่วมในโครงการคนละครึ่งมาแล้ว และได้เปิดให้ประชาชนใช้สิทธิซื้อตั๋วโดยสารรถไฟฟ้า BTS และรถไฟฟ้า MRT ผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตังได้ แต่จะเป็นการเดินทางในรูปแบบบัตรโดยสารเที่ยวเดียว (Single Journey Card)
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาผู้ประกอบการรถไฟฟ้าได้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งมาแล้ว ซึ่งประชาชนก็ตอบรับใช้บริการเป็นอย่างดี ในส่วนของคนละครึ่งพลัสก็จะมีผู้ประกอบการรถไฟฟ้าที่ยังไม่เคยเข้าร่วมมาลงทะเบียนเพิ่มเติมเนื่องจากเป็นรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการใหม่ รวมจำนวน 3 เส้นทาง คือ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง รถไฟฟ้าสายสีชมพู และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์
ทั้งนี้ จะส่งผลให้โครงการคนละครึ่งพลัสสามารถรองรับบริการขนส่งมวลชนสาธารณะประเภทรถไฟฟ้ารวม ทั้งสิ้น 8 สายทาง ประกอบด้วย
รถไฟฟ้าสายสีแดง คือ สายสีแดงเข้ม ช่วงกรุงเทพอภิวัฒน์ – รังสิต และสายสีแดงอ่อน ช่วงกรุงเทพอภิวัฒน์ – ตลิ่งชัน รถไฟฟ้าแอร์ พอร์ต เรล ลิงก์ ช่วงพญาไท – สุวรรณภูมิ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ – หัวลำโพง ช่วงหัวลำโพง – บางแค (หลักสอง) และสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ – ท่าพระ
รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ – เตาปูน รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรงรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี
รถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต – สมุทรปราการ ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต และช่วงสนามกีฬาแห่งชาติ – บางหว้ารถไฟฟ้าสายสีทอง ช่วงกรุงธนบุรี – คลองสาน
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมมั่นใจว่าจะสามารถผลักดันให้ผู้ประกอบการขนส่งมวลชนสาธารณะเตรียมความพร้อมให้บริการประชาชนในโครงการคนละครึ่งพลัสที่จะเริ่มใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.นี้ ซึ่งนอกจากรถไฟฟ้าแล้ว ยังมีขนส่งประเภทรถโดยสารประจำทาง (รถเมล์) รถแท็กซี่ และเรือโดยสาร ซึ่งปัจจุบันกระทรวงฯ ได้เรียกทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องมาหารือเพื่อเตรียมความพร้อมในการวางระบบรับการจ่ายค่าโดยสารในโครงการนี้